ทานที่ยิ่งใหญ่คือช่วยผู้ประสบภัย พ.ต.ท.ม.ล.กิติบดี ประวิตร ผ.อ. ศูนย์อำนวยการบรรเทาสาธารณภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
พ.ต.ท.ม.ล.กิติบดี ประวิตร
ทานที่ยิ่งใหญ่คือช่วยผู้ประสบภัย
 
ถูกหล่อหลอมให้มีน้ำใจเป็นนักกีฬา รู้จักแพ้ รู้ชนะ รู้อภัย รวมถึงการวินัยอย่างสูงมาตั้งแต่วัยเด็ก สำหรับ พ.ต.ท.ม.ล.กิติบดี ประวิตร ผู้อำนวยการ ศูนย์อำนวยการบรรเทาสาธารณภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย เพราะคุณพ่อรับราชการตำรวจ และเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลชื่อดัง อย่างสโมสรราชประชา ทำให้การดำเนินชีวิตของพ.ต.ท.ม.ล.กิติบดี ยึดหลักการเป็นผู้ให้มากกว่าผู้รับ เพราะการให้ถือเป็นการสร้างบุญ สร้างทานที่ยิ่งใหญ่อย่างหนึ่ง
 

 
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การทำงานนั้น พ.ต.ท.ม.ล.กิติบดี เลือกที่จะรับราชการในศูนย์อำนวยการบรรเทาสาธารณภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพราะภารกิจหลักของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย คือ การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย ที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ทุกวัน และมีโอกาสเกิดขึ้นกับทุกคน เช่น การเกิดเพลิงไหม้ หรือน้ำท่วมครั้งใหญ่ในช่วงปลายปีก่อน ที่ประชาชนจำนวนมากในหลายจังหวัดกลายเป็นผู้ประสบภัย 
 


พ.ต.ท.ม.ล.กิติบดี กล่าวว่า ทุกวันนี้มีความสุขกับการทำงาน เพราะงานที่ทำเป็นงานที่มีโอกาสช่วยเหลือคนที่กำลังประสบภัย คนที่กำลังเดือดร้อน ซึ่งถือเป็นการสร้างบุญ สร้างทานอย่างยิ่งใหญ่ เป็นงานที่สร้างความภูมิใจให้อย่างมาก 

“แม้ว่าทุกวันนี้จะไม่มีโอกาสได้เข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยตรง แต่ก็ยังมีโอกาสช่วยเหลือผู้ประสบภัยเช่นเดิม เพราะเมื่อหน้าที่การงานสูงขึ้น มีประสบการณ์มากขึ้น ก็ต้องทำหน้าที่วางแผน ป้องกัน และเฝ้าระวังไม่ให้เกิดภัยต่าง ๆ แทนการเข้าไปให้ความช่วยเหลือโดยตรง แต่ก็ยังมีความสุขเช่นเดิม เพราะอย่างน้อยก็มีส่วนร่วมในการวางแผน ”พ.ต.ท.ม.ล.กิติบดี กล่าว



ในอดีตการทำงานของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอาจจะเป็นการทำงานในเชิงรับ แต่ในระยะหลังจะเปลี่ยนเป็นเชิงรุกมากขึ้น โดยจะทำงานร่วมกับชาวชุมชน เพื่อป้องกันภัยที่อาจจะเกิดขึ้น รวมถึงหากมีภัยเกิดขึ้น จะมีการรับมือกันอย่างไร ซึ่งในแต่ละชุมชนอาจจะมีอาสาสมัคร เพื่อเข้ามาช่วยดูแลชุมชนของตัวเอง เพราะไม่มีใครรู้จัก หรือเข้าใจชุมชนได้ดีเท่ากับคนในพื้นที่ซึ่งก็คือชาวชุมชนนั่นเอง และหากจะรอความช่วยเหลือจากภาครัฐก็ต้องยอมรับว่าอาจจะล่าช้า และมีงบประมาณไม่เพียงพอ
 
 

ยกตัวอย่างเช่น จะมีการจัดอบรมให้ความรู้อาสาสมัครให้รู้จักการป้องกันภัยต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ เช่น ระบบเตือนภัย เส้นทางหนีไฟ อาทิ หากเกิดเพลิงไหม้จะต้องทำอย่างไร จะต้องเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัยไปรวมกันที่ไหน หรือหากเกิดไฟไหม้ในบ้าน จะต้องแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน ระหว่างคนในครอบครัว เช่น พ่ออาจจะเป็นผู้ตัดสวิทช์ไฟฟ้า แม่ตะโกนขอความช่วยเหลือและพาลูก ๆออกจากบ้าน หรืออาจจะมีอีกคนที่เก็บข้าวของที่สำคัญ เป็นต้น
 

สำหรับการทำงานนั้น มีหลายครั้งที่รู้สึกประทับใจอย่างมาก เพราะมีโอกาสช่วยเหลือผู้ที่กำลังจะเสียชีวิตให้สามารถรอดออกมาได้ เช่น เหตุการณ์เพลิงไหม้ที่รร.เพรสซิเดนท์ หรือแม้แต่เหตุเพลิงไหม้ที่ห้างเซ็นทรัล ชิดลม ก็เป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจ เพราะสามารถวางแผนบริหารจัดการกับเพลิงได้เป็นอย่างดี ทำให้เกิดความเสียหายไม่มากนัก

อีกกรณีที่น่าประทับอย่างมาก คือกรณีเพลิงไหม้รร.รอยัล จอมเทียนซึ่งถือเป็นการเกิดเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ที่สร้างความสูญเสียอย่างมาก ซึ่งในครั้งนั้น มีโอกาสได้ทำงานร่วมกับทีมงานจากต่างประเทศ วิเคราะห์หาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้



สำหรับอีกด้านหนึ่งของชีวิตที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการทำงานนั้น พ.ท.ต.ม.ล.กิติบดี มีส่วนช่วยบริหารสโมสรราชประชา ซึ่งเป็นสโมสรฟุตบอลที่คุณพ่อเป็นผู้ก่อตั้ง ซึ่งปัจจุบันพล.ต.ม.ล.สุปรีดี ประวิตร น้องชายเป็นประธานสโมสร
สโมสรราชประชานั้น ถูกสร้างขึ้นมา เพื่อให้นักกีฬามีสปิริตสูง มีน้ำใจเป็นนักกีฬา รู้จักแพ้ รู้จักชนะ ซึ่งคนที่จะมาเป็นนักฟุตบอลในสโมสรราชประชาจะต้องมีใจรักฟุตบอล และมีความใฝ่ฝันที่จะเป็นนักกีฬาระดับชาติ และระดับโลก เพราะเราจะฝึกซ้อมกันอย่างหนัก เพื่อส่งนักกีฬาให้ถึงเป้าหมาย ขณะที่ด้านการเรียนก็ต้องทำควบคู่กันไปด้วย 
“นักกีฬาที่ในสังกัดสโมสรราชประชาที่มีชื่อเสียงจำนวนมาก เช่น ซิกโก้ ส่วนโค้ชทีมชาติมาจากสโมสรราชประชาทุกคน”
สโมสรราชประชา เป็นสโมสรแรก ๆ ที่เริ่มส่งนักกีฬาไปแข่งที่ยุโรป และนำนักกีฬาต่างชาติมาเล่นในสโมสร และยังเป็นสโมสรแรกที่นำเทคโนโลยีมาบริหารสโมสร เพราะพ.ท.ต.ม.ล.กิติบดี ใช้ชีวิตในวัยเรียนอยู่ในต่างประเทศ ซึ่งได้เรียนที่ Army and Navy Academy เป็นโรงเรียนฝึกทหาร ในอเมริกา และศึกษาต่อที่ Pepperdive University และUniversity of Southern Califurnia ทำให้รู้จักนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในสโมสร
 

เป้าหมายหลักของสโมสรราชประชา ไม่ใช่แค่ผลิตนักกีฬาที่มีคุณภาพเท่านั้น แต่สโมสรราชประชา ยังต้องการให้สังคมอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข เพราะเมื่อเด็ก ๆ ให้ความสนใจในกีฬาก็จะห่างไกลจากยาเสพติด และจะไม่มีปัญหานักเรียนยกพวกตีกันเหมือนอย่างที่เห็นในปัจจุบัน ซึ่งในสโมสรราชประชาเคยมีนักเลงหลายคน แต่เมื่อเข้ามาเล่นฟุตบอลก็เลิกพฤติกรรมนักเลง และกลับมาใส่ใจในกีฬาและอาชีพมากขึ้น เรียกว่า เป็นการสร้างคนดีเข้าสู่สังคมด้วย

“ทุกวันที่ 26 พ.ย.ของทุกปี ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดของคุณพ่อ จะมีการจัดงานรื่นเริงในสโมสร เพื่อเป็นการระลึกถึงคุณพ่อ ซึ่งภายในงานจะมีนักฟุตบอลที่เคยสังกัดมาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง ถือเป็นการรวมพล เพราะจะมีทั้งนักกีฬาตั้งแต่รุ่นแรกจนถึงรุ่นปัจจุบันมาร่วมงาน ”
เห็นภารกิจของพ.ต.ท.ม.ล.กิติบดีแล้ว แทบจะไม่มีเวลาเป็นส่วนตัวเลย แต่พ.ต.ท.ม.ล.กิติบดี บอกว่า แม้ว่างานจะรัดตัวแค่ไหน แต่ก็ไม่ลืมที่จะแบ่งเวลาในการออกกำลังกายอย่างน้อย 3 วัน ใน 1 สัปดาห์ โดยจะวิ่งในลู่วิ่งอย่างน้อย 45 นาที และในวันหยุดก็จะเล่นฟุตบอลด้วย อีกทั้งยังชื่นชอบที่จะร้องเพลง  เล่นดนตรีเพื่อคลายความตรึงเครียดจากการทำงาน 

  

อีกสิ่งหนึ่งที่พ.ต.ท.ม.ล.กิตบดี ทำอย่างสม่ำเสมอนั่นคือการนอนพักผ่อนให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ สิ่งเหล่านี้ น่าจะเป็นเคล็ดลับที่ทำให้พ.ต.ท.ม.ล.กิติบดี ที่แม้อายุจะก้าวเข้าสู่ 51 ปี แต่หน้ายังเด้งและอ่อนกว่าวัยมาก 
 

LastUpdate 10/03/2557 16:51:48 โดย : Admin
กลับหน้าข่าวเด่น
27-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 27, 2024, 3:26 am