Scoop : ทำธุรกิจด้วยการสร้าง "คอนเทนต์" จำเป็นแค่ไหนสำหรับยุคนี้


คอนเทนต์ (Content) จัดได้ว่าเป็นหัวใจสำคัญของการสื่อสาร ที่ไม่ว่าจะด้วยจุดประสงค์ใดก็ตาม ทั้งเพื่อต้องการสร้างความบันเทิง การให้ความรู้ หรือเรื่องของการทำธุรกิจ ก็ล้วนต้องมีการสร้างคอนเทนต์เข้ามาเป็นองค์ประกอบหลักเพื่อตอบสนองต่อเป้าหมายของการสื่อสารนั้นๆที่เราได้วางแผนไว้ โดยเฉพาะในยุคนี้ ยุคออนไลน์ที่มีการติดต่อสื่อสารกันอย่างไร้พรมแดน ปริมาณข้อมูลในโลกที่สองนี้มีอยู่อย่างมหาศาล และเกิดขึ้นใหม่ในทุกๆวัน ผู้คนจึงมีอิสระที่จะเลือกรับสาร และเลือกดูคอนเทนต์ต่างๆได้อย่างเสรี ไม่ใช่สื่อในยุคก่อน อย่างเช่นยุคของโทรทัศน์ ที่มีเนื้อหาให้เลือกดูอย่างจำกัด ผู้คนมีทางเลือกไม่มากนัก จึงมีการเปิดรับอะไรบางอย่างไปในทางเดียวกัน (Mass Adoption) โดยเฉพาะเรื่องของการบริโภค จากการรับรู้ในสื่อโฆษณาที่คั่นเวลาของละคร หรือรายการวาไรตี้ที่กำลังติดตามอยู่

มาถึงในยุคนี้ ที่สถานะของผู้รับสารได้เปลี่ยนไป พวกเขากลายเป็นคนที่มีอำนาจในการเลือกเสพสื่อและคอนเทนต์ สับเปลี่ยนตำแหน่งจากยุคก่อนหน้า และยังมีอำนาจถึงขั้นที่สามารถกด Skip ไปจนถึงการปิดรับโฆษณาไม่ให้มากวนใจพวกเขาเลยก็ย่อมได้ ฉะนั้นแม้ในยุคปัจจุบันที่เปิดโอกาสให้กับธุรกิจทุกขนาดได้มีโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าและผู้บริโภคมากขึ้น แต่ก็มีการแข่งขันที่สูงมากตามไปด้วย ทำให้การสื่อสารทางธุรกิจที่จะสามารถเข้าไปอยู่ในสายตาลูกค้า และสามารถครองใจจนทำให้พวกเขาเลือกเปิดรับสินค้าและบริการได้ จำเป็นต้องอาศัยการสร้างคอนเทนต์ เป็นคีย์หลักที่จะสามารถสร้างความโดดเด่นให้กับธุรกิจของเรา

โดยการสร้างคอนเทนต์ให้การทำธุรกิจประสบความสำเร็จได้นั้น ก็จำเป็นต้องตอบให้ได้ก่อนว่า ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของเราเป็นใคร Research ข้อมูล ทำความรู้จักกลุ่มเป้าหมาย ว่าพวกเขามีความชอบอะไร มีค่านิยมทัศนคติเป็นแบบไหน ให้คุณค่ากับเรื่องใด หรือมีพฤติกรรมแบบไหน จากนั้นให้นำมาวิเคราะห์ประมวลผลออกมาเป็นคอนเทนต์ที่มีแนวโน้มสอดรับกับกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด อย่างเช่นการทำธุรกิจขายไฟสตูดิโอ ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายเป็นแม่ค้าออนไลน์ YouTuber และคนชอบไลฟ์สด ก็อาจจะทำคอนเทนต์เชิงให้ความรู้ว่า วิธีจัดไฟต้องวางไฟอย่างไร ในส่วนของ Key Light ต้องใช้ Softbox รูปทรงไหน ไปจนถึงการทดลองจัดไฟให้ดูในแต่ละสถานการณ์ว่าควรใช้อุปกรณ์อะไรบ้าง การทำคอนเทนต์ในลักษณะนี้ ก็จะเป็นการเปิดโอกาสให้ใครที่เป็นมือใหม่อยากมีตัวตนบนโลกออนไลน์ได้เรียนรู้วิธีการจัดแสง รู้ลักษณะของไฟ ซึ่งมีโอกาสที่จะทำให้พวกเขาเลือกที่จะซื้อสินค้ากับเรา มากกว่าร้านขายไฟสตูดิโอเจ้าอื่นที่เป็นเพียงการขายแบบบอกราคาเพียงเท่านั้น หรือหากเราทำธุรกิจที่เจาะกลุ่มลูกค้าออฟฟิศวัยทำงาน การทำคอนเทนต์ก็อาจจะทำเป็นคลิปวีดีโอลง Tiktok ในระยะเวลาสั้นๆ เพื่อสอดรับพฤติกรรมการทำงานของลูกค้า และเลือกทำคอนเทนต์ที่มีเวลายาวขึ้นและสื่อสารกับพวกเขาในช่วงตอนเย็น ซึ่งตรงกับเวลาเลิกงานของกลุ่มเป้าหมายที่มีเวลาในการรับสารมากกว่าเดิม เป็นต้น

นอกจากนี้ การเลือกใช้แพลตฟอร์ม (ช่องทางการสื่อสารออนไลน์) ก็เป็นสิ่งที่สามารถส่งเสริมตัวคอนเทนต์ให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีศักยภาพมากยิ่งขึ้น โดยการเลือกสื่อสารในแพลตฟอร์มที่กลุ่มเป้าหมายนิยมใช้ ก็เท่ากับเป็นการตั้งขายสินค้าในสถานที่ที่อยู่ในวงจรการใช้ชีวิตเดียวกับลูกค้า เช่นหากทำธุรกิจขายต้นไม้ที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ใหญ่ ที่ไม่ได้สันทัดในการใช้แพลตฟอร์มอื่นนอกจาก Facebook ธุรกิจของเราก็ต้องสร้างสรรค์คอนเทนต์ผ่านช่องทางดังกล่าว หรือรวมถึงการออกแบบคอนเทนต์ให้ไปในทิศทางเดียวกันกับฟีเจอร์ของแพลตฟอร์มนั้นๆ เช่นหากลงคอนเทนต์ใน Tiktok ก็ควรเป็นคอนเทนต์วีดีโอที่ใช้ระยะเวลาสั้นๆ ตั้งแต่ช่วง 15 วินาที - 3 นาที ตามที่แพลตฟอร์มกำหนด ไม่ควรอัพเป็นตอนต่อๆกันเป็นหลายๆ Ep. เนื่องจากฟีเจอร์ของ Tiktok เป็นลักษณะที่รองรับการเลื่อนไถฟีดเร็วๆ ซึ่งทำให้พฤติกรรมการบริโภคข้อมูลจะเน้นความกระชับฉับไว้ มีใจความสำคัญหลัก การทำคอนเทนต์ยาวๆจึงทำให้ศักยภาพการสื่อสารใน Tiktok มีประสิทธิภาพได้ไม่ดีเท่าที่ควร ซึ่งหากอยากสร้างคอนเทนต์ยาวๆก็อาจต้องพิจารณาไปใช้ YouTube แทน หรือรูปแบบการถ่ายวีดีโอหากเป็นแนวนอน การนำไปลงใน Tiktok ก็อาจจะทำให้คนไม่อยากดู ไม่อยากรับสารเท่าที่ควร เนื่องจากขัดกับฟีเจอร์แพลตฟอร์มที่มี Display เป็นแนวตั้ง ซึ่งการถ่ายวีดีโอด้วยลักษณะ16:9 จะมีความสอดรับกับแพลตฟอร์มได้ดีกว่า เป็นต้น

ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ สามารถตั้งเป็นข้อสรุปได้ว่า การสร้างคอนเทนต์เพื่อการสื่อสาร ให้ธุรกิจเป็นที่รู้จัก รวมถึงการทำ PR ทำ Marketing ต่างๆเพื่อสื่อสารกับลูกค้านั้น ในยุคออนไลน์ที่มีปริมาณข่าวสารมหาศาลเข้ามาในทุกๆวัน จำเป็นอย่างยิ่งและแทบไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ หากอยากต้องการความแตกต่าง และเรียกสายตาของผู้คนให้หันมาสนใจในธุรกิจของเรา เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว ถ้ายังทำธุรกิจแบบเดิมๆ และไม่ลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงอะไร เราก็จะค่อยๆถูกแทนที่ด้วยธุรกิจคลื่นลูกใหม่ที่มาพร้อมกับคอนเทนต์โดดเด่น และถูกทิ้งเก็บกล่องโดยที่คนอื่นไม่ให้ความสำคัญอีกเลย















 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 09 เม.ย. 2566 เวลา : 20:21:31
กลับหน้าข่าวเด่น
03-05-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ May 3, 2024, 6:52 pm