Scoop : เริ่มต้นปั้นช่อง TikTok ปี 2024 ยังทันไหม? ตลาดวายแล้วหรือยัง?


 

ปี 2023 ถือได้ว่าเป็นยุคทองของ Tiktok เลยก็ว่าได้ เพราะมีผู้ใช้งานแพลตฟอร์มวีดีโอสั้นจำนวนมาก ได้แจ้งเกิดกลายเป็น Content Creator Influencer และทำ Affiliate Marketing สร้างเงินเข้ากระเป๋าได้เป็นหลักแสน - หลักล้าน ซึ่งผลประโยชน์ที่น่าดึงดูดตรงนี้ก็ยิ่งดึง Traffic ให้ผู้คนหันมาใช้ Tiktok กันมากขึ้น เพื่อหวังว่าแพลตฟอร์มดังกล่าว จะสร้างชื่อเสียง ทำให้พวกเขาสามารถเปลี่ยนสถานะจาก User ธรรมดาๆ เปลี่ยนไปเป็นผู้ผลิตคอนเทนต์ทางออนไลน์ ที่สร้างรายได้เหมือนกับชาว Tiktok ที่ประสบความสำเร็จก่อนหน้านี้
 
 
เวลาเฉลี่ยของการใช้งานในแต่ละ Social Media จาก DataReportal.com
 
พิจารณาข้อมูลการวิเคราะห์จาก DataReportal เว็บไซต์ที่รายงานข้อมูลเชิงลึกของ Insight การใช้งานบนอินเทอร์เน็ต ที่ได้รายงานสรุปผลในปี 2023 ว่า ตลาดโฆษณาของ Tiktok ในตอนนี้มีขนาดใหญ่ที่เกือบจะเท่ากับ Instagram แล้ว โดยได้เข้าถึงผู้ใช้ทั่วโลก 1.56 พันล้านคน/เดือน และหากเปรียบเทียบผู้ใช้งานที่มีอายุมากกว่า 18 ปี ของทั้งสองแพลตฟอร์ม ก็มีแนวโน้มว่าผู้ใช้ที่เข้าถึงโฆษณาของ TikTok อาจมีมากกว่า Instagram ถึง 30% เลยทีเดียว อีกทั้งหากเปรียบเทียบเวลาการใช้งาน Social Media จากคนทั่วโลกพบว่า TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่ผู้ใช้งาน ใช้เวลาเฉลี่ยสูงสุดเป็นอันดับ 1 ที่ 34 ชั่วโมง/เดือน หรือมากกว่า 1 ชั่วโมง/วัน
 
สอดคล้องกับ TheB2Bhouse ผู้ให้บริการข้อมูลเชิงลึกสำหรับ B2B Marketing ได้มีการวิเคราะห์ว่าความนิยมของ TikTok พุ่งสูงขึ้นตลอดปี 2023 และแบรนด์ทั่วโลกมีการลงทุนใน Influencer Marketing เพิ่มขึ้น 2 เท่าจากปี 2022 ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ สะท้อนให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า การ Adoption ของ TikTok จากผู้คนทั่วโลกขยายตัวขึ้นสูงอย่างมากในปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะการแข่งขันของผู้ผลิตคอนเทนต์ใน TikTok เพื่อสร้างผู้ติดตาม ดึงดูดการจ้างงานใน Influencer Marketing ดังกล่าวก็จะมากขึ้นตามไปด้วย
 
ตลาด Tiktok ตอนนี้การแข่งขันสูงแล้ว หากเริ่มต้นปั้นช่องตอนนี้จะสายไปแล้วหรือยัง?
 
TikTok Shop หรือร้านค้าใน TikTok ที่เปิดให้บริการฟีเจอร์แบบ E-Commerce พึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีที่แล้ว และในช่วงเริ่มแรก ผู้ใช้ TikTok ก็ไม่ได้กล้าซื้อของราคาสูงด้วยซ้ำ แต่ช่วง 1 ปีให้หลังมานี้ สินค้าที่มีราคาสูงในหลักพันขึ้นไป เช่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ผู้ใช้ก็กล้าซื้อเป็นปกติเหมือนกับทาง Shopee หรือ Lazada แล้ว ซึ่งเมื่อปี 2022 TikTok Shop มีมูลค่าสินค้ารวมอยู่ที่ 4,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนปี 2023 มีมูลค่าอยู่ที่ 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 4 เท่า แต่ก็ไม่ใช่ระดับสูงสุด ไม่ใช่จุดอิ่มตัว เพราะตั้งแต่ช่วงต้นปี 2024 นี้ แบรนด์สินค้าชื่อดังทั้งเครื่องสำอาง เครื่องใช้ไฟฟ้า และอื่นๆ ก็ได้เริ่มมีช่องทางขายอย่างเป็นทางการ ที่เรียกว่า TikTok Shop Mall โดยมีสัญลักษณ์คำว่า “Mall” เป็นเครื่องหมายแสดงความน่าเชื่อถือของสินค้า การที่แบรนด์ใหญ่ได้ลงมาใช้แพลตฟอร์มนี้แสดงให้เห็นว่า TikTok ในปี 2024 ยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก สอดคล้องกับเทรนด์ Shoppertainment หรือ การช้อปปิ้งของผู้บริโภคที่มีการพัฒนาเนื่องจากอิทธิพลของคอนเทนต์ ที่ทาง TikTok วิเคราะห์ว่าในปี 2024 เทรนด์ดังกล่าวจะครอบครองพื้นที่ส่วนใหญ่ในตลาด E-Commerce ผู้คนจะมีการตัดสินใจซื้อผ่านคอนเทนต์ที่พวกเขาบริโภคเสียเป็นส่วนใหญ่
 
ดังนั้น เมื่อผนวกเข้ากับแนวโน้มของ Influencer Marketing ที่กำลังขยายตัวเพิ่มขึ้นที่ระดับ 13,000 ดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ ก็เป็นการสกัดออกมาเป็นคำตอบได้ว่า TikTok จะยังมีการเติบโตอีกมาก หากใครที่อยากเริ่มปั้นช่องในปี 2024 ก็ไม่นับว่าสายไป เพราะการดึงดูดให้ผู้ใช้งานหยุดดูคลิปของเราในปัจจุบันนี้ที่มีการแข่งขันที่สูงขึ้น คนที่ได้ไปต่อ มีแบรนด์มาจ้างให้เราทำคลิปรีวิวสินค้าใน TikTok จะไม่ใช่กลุ่มคนที่ “เข้ามาเร็วกว่า” ตามสโลแกนเริ่มก่อนรวยก่อนแต่อย่างใด แต่เทรนด์ของ Shoppertainment คือ เนื้อหาคอนเทนต์ที่เราผลิตขึ้นมา ต้องมีการใส่ความคิดสร้างสรรค์ ต้องมีเนื้อหาดี น่าสนใจ สามารถนำส่งสิ่งที่เป็นประโยชน์ให้กับผู้ชมในแต่ละ Target Group ของตัวเอง ที่เมื่อเขาเลื่อนฟีดวีดีโอไปเรื่อยๆ จนมาเจอกับช่องของเรา เนื้อหาที่เรานำส่งสามารถจับใจให้เขาหยุดดูคอนเทนต์ของเรา และกลายมาเป็นผู้ติดตามของเราได้ ส่วนช่องที่ไม่มีสาระ ไม่มีใจความของคอนเทนต์ว่าที่ถ่ายวีดีโอไปเพื่ออะไร ไม่สามารถตอบได้ว่าใครเป็นคนดูช่องของเรา เช่น การดูดคลิปคนอื่นมาลง วีดีโอที่ถ่ายตัวเองกับเอฟเฟคแต่งรูปเฉยๆ จะได้รับความสนใจน้อยลงไป และจะอยู่ไม่ได้ในที่สุด
 
โดยสรุป สิ่งสำคัญของการเริ่มปั้นช่อง TikTok ในปีนี้ เพื่อเดินทางไปสู่การเป็น Content Creator ที่ประสบความสำเร็จ คือการเริ่มต้นใน “ระดับโปร” กล่าวคือต้องมี การกำหนดตัวตนของช่องให้ชัดเจนว่า เราจะทำช่องสำหรับอะไรขึ้นมา เสมือนการทำร้านอาหารก็ต้องเลือกไปเลยว่าเราจะเป็นร้านขายข้าวมันไก่ หรือร้านสเต็ก ไม่ใช่เป็นร้านอาหารตามสั่ง ที่ลงคลิปหลากหลายคอนเทนต์ไม่มี Direction ที่ชัดเจนว่าช่องของเราเป็นช่องสำหรับอะไรกันแน่ (เช่น ลงทั้งคลิปรีวิวร้านอาหาร คลิปตลก ทั้งคอนเทนต์ให้กำลังใจ ลงรวมอยู่ในช่องเดียว ก็อาจทำให้เกิดความสับสนของผู้ชม และคนที่จะมาจ้างงาน) นอกจากนี้ ต้องมีการวางแผนการทำคอนเทนต์อย่างเป็นระบบเพื่อสร้างความสม่ำเสมอ ให้ TikTok นำขึ้นฟีดเพื่อดึงดูดผู้ติดตาม และดึงดูดแบรนด์สินค้า จากฐานผู้ชมของช่องเรา ที่เมื่อ Potential ของช่องตรงกับสินค้าของแบรนด์ ก็จะทำให้เกิดการจ้างให้ผลิตคอนเทนต์ได้ในที่สุด

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 07 เม.ย. 2567 เวลา : 20:14:53
กลับหน้าข่าวเด่น
03-05-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ May 3, 2024, 4:24 pm