แฟชั่น-เดินทาง-กินดื่ม-เที่ยว
เมื่อหนังจีนเสื่อมความนิยม..... BY คุณนกฮูก


สื่อของจีน เปิดเผยตัวเลขรายได้จากภาพยนตร์ทั้งหมดในประเทศเมื่อปีที่ผ่านมา ปรากฏว่า ภาพยนตร์จีนที่ทำรายได้มากที่สุดคือ หนังต้นทุนต่ำ เรื่อง "Lost In Thailand"  ซึ่งเรื่องนี้ทำเงินในจีนมากกว่า Avatar ของ เจมส์  คาเมรอน เสียอีก                

Lost In Thailand ใช้ทุนสร้างเพียง 30 ล้านหยวน  เป็นเรื่องราวของนักธุรกิจคนหนึ่งที่เดินทางมาประเทศไทยเพื่อตามหาเจ้านายที่มาปฏิบัติธรรมที่วัดแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ เพื่อขอให้ลงนามในเอกสารสำคัญ ที่จะทำให้เขาประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานและมีเงินเป็นกอบเป็นกำ 

แต่การเดินทางครั้งนี้ไม่ราบรื่นอย่างที่คิด เมื่อได้พบกับหนุ่มป่วนบ้าดาราที่หลงกับคณะทัวร์จึงเกาะติดเขาแจ แล้วยังมีเพื่อนร่วมงานที่เป็นคู่แข่งตามมาขัดขวาง เพราะหวังแย่งผลงานไปเป็นของตัวอีกต่างหาก  ซึ่งถ้าจะวิเคราะห์สาเหตุที่ทำให้หนังเรื่องนี้ประสบความสำเร็จ ก็น่าจะเป็นการผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างตลกและดราม่า          

อย่างไรก็ตาม  นี่ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเพียงเรื่องเดียว  สิ่งที่สร้างความประหลาดใจมากกว่านี้ คือ ความนิยมของภาพยนตร์จีนที่ดูจะลดลงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน 

กล่าวคือ ในปี 2012   รายได้จากภาพยนตร์ทุกเรื่องทั้งสิ้น 16,800 ล้านหยวน หรือประมาณ 2.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ  โดยรายได้จากภาพยนตร์จีนอยู่ที่ 8,000 ล้านหยวน หรือประมาณ 1,800  ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งไม่ถึงครึ่งของจำนวนเงินที่ได้จากภาพยนตร์ทั้งหมด 

และนี่ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี ที่ภาพยนตร์ในประเทศทำรายได้ไม่ถึงครึ่งของรายได้จากภาพยนตร์ทั้งหมด  ทำให้ผู้ผลิตภาพยนตร์จีน คงจะต้องหันกลับมามองตัวเองเหมือนกัน เพราะหนังจากฮอลลีวู้ดเริ่มเข้ามาตีตลาดในจีน และเริ่มจะแซงหนังจีนแล้ว             

เมื่อปี 2011 นั้น ภาพยนตร์จีน ทำรายได้ไปร้อยละ 54 จากรายได้ทั้งหมดที่มาจากภาพยนตร์ทั้งปี  ลดลงจากเมื่อปี 2010 ที่ภาพยนตร์จีนทำรายได้ไปร้อยละ  56  ซึ่งสาเหตุที่ภาพยนตร์ทำรายได้ลดลงในช่วงหลายปีหลัง เนื่องจากทางการจีนได้ผ่อนปรนให้ภาพยนตร์ต่างชาติเข้ามาเสรีมากขึ้น  

ล่าสุด เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2012  จีนทำข้อตกลงกับสหรัฐฯ ทำให้ภาพยนตร์สหรัฐฯได้เข้ามาฉายในประเทศจีนมากขึ้น จากเดิมซึ่งมีโควต้าให้หนังต่างประเทศต่อปีเพียง 20 เรื่อง        

แต่หากจะโทษข้อตกลงว่าทำให้จีนเสียเปรียบ ก็คงพูดไม่ได้ เพราะข้อตกลงนี้ก็ทำให้ภาพยนตร์จีนได้ไปต่างประเทศมากขึ้น และทำให้ภาพยนตร์จากต่างประเทศมาถ่ายทำในประเทศจีนมากยิ่งขึ้น ซึ่งก็เป็นประโยชน์ต่อวงการภาพยนตร์จีนเช่นกัน             

ในปี 2013 นี้ ทางผู้สร้างภาพยนตร์จีน  คงต้องคิดหาทางที่จะสร้างภาพยนตร์ที่จะถูกใจคนในประเทศให้ได้มากที่สุด

ในขณะเดียวกันก็ต้องทำหนังออกมาให้มีคุณภาพ เพราะหนังจะประสบความสำเร็จได้นั้น บางทีจะเอาใจตลาดด้วยนักแสดงดังๆ เพียงอย่างเดียวไม่ได้ 

เพราะสิ่งสำคัญที่สุด คือ เนื้อเรื่องและคุณภาพของหนัง ที่บางทีไม่ต้องลงทุนมาก แต่ดีก็โดนใจคนได้เหมือนกัน 

 


LastUpdate 05/01/2556 12:51:06 โดย : Admin
20-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 20, 2024, 3:12 pm