นายอนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายบริหารสินทรัพย์ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารและจัดการอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า  “ตลาดคอนโดมิเนียมในเมืองตากอากาศชายทะเลนั้น มีอัตราการเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วมาก โดยพบว่าความนิยมในหมู่คนไทยและชาวต่างชาติที่เพิ่มมากขึ้นในบริเวณชะอำและหัวหิน ส่งผลโดยตรงกับความเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งพบว่าราคาที่ดินปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงปรากฏการณ์ Sea View Style (ห้องชุดใหม่ในพื้นที่ใกล้ชายหาดแบบเห็นวิวทะเล) เริ่มรุกตลาดห้องชุดในเมืองตากอากาศ ทั้งนี้ จากรายงานของฝ่ายวิจัยและพัฒนาของพลัส พร็อพ  เพอร์ตี้ หัวข้อ “คอนโด ชะอำ-หัวหิน มาแรงตามกระซีวิวสไตล์” ระบุว่า การเติบโตของอสังหาริมทรัพย์พื้นที่ชะอำ-หัวหิน ปี 2555 ที่ผ่านมา ถือเป็นการเติบโตแบบก้าวกระโดดภายหลังจากเข้าสู่ภาวะทรงตัวมาระยะหนึ่ง การเปลี่ยนแปลงของตลาดสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนเมื่ออุปทาน (Supply) รวมทุกตลาดเติบโตขึ้นเกือบ 3 เท่าตัว สอดรับกับปริมาณอุปสงค์ (Demand) รวมทุกตลาดที่ตอบรับได้ดีขึ้นกว่า 4 เท่าตัวเมื่อเทียบจากปี 2554 จึงทาให้ยอดคอนโดมิเนียมรวมที่เสนอขายทั้งปี 2555 เติบโตขึ้นมาอยู่ที่ 14,145 ยูนิต โดยมียอดจำหน่ายรวมแล้วทั้งสิ้น 8,200 ยูนิต คิดเป็นอัตรายอดขายได้ 58% จากยอดเสนอขายรวม” 

 

อย่างไรก็ตาม โซนชะอำ ยังคงเป็นพื้นที่ที่อยู่ในความสนใจของทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภคในช่วงนี้ ด้วยปริมาณอุปทานและอุปสงค์เติบโตสูงสุดเป็น 9 เท่าตัวถึง 11 เท่าตัวเมื่อเทียบจากปี 2554 ส่วนใหญ่นิยมเสนอขาย ในช่วงราคา 60,000-79,999 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งมีอัตรายอดขายได้สูงถึง 57% จากอุปทานในช่วงราคานี้ที่ 6,442 ยูนิต รองลงมาคือหัวหินฝั่งเขาตะเกียบฯ โดยจะเน้นที่ราคา 40,000-59,999 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งมียอดอัตราขายได้ 60% จากยอดอุปทานในช่วงราคานี้ที่ 1,640 ยูนิต

 

จากภาพรวมทั้งปี 2555 แสดงให้เห็นว่าคอนโดมิเนียมในบริเวณชะอำและหัวหินมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี ผู้บริโภคเริ่มให้ความสนใจตามการบุกตลาดของผู้ประกอบการรายใหญ่ รายกลาง ที่ลงขยายการผลิตเน้นไปที่ตลาดระดับกลางจนถึงเกือบตลาดล่างในพื้นที่ที่มีศักยภาพ นับเป็นการสร้างแรงกระตุ้นให้ผู้บริโภคที่มีความต้องการบ้านพักหลังที่สองตลอดจนนักลงทุนให้สามารถซื้อเป็นทรัพย์สินได้โดยง่าย ซึ่งพบว่าในปีที่ผ่านมาตลาดคอนโดมิเนียมในเกือบทุกพื้นที่ลดราคาเสนอขายลงหรือคงราคาเดิมเพื่อต้องการแข่งขันกันเองในระบบตลาด ถือว่าประโยชน์ตกเป็นของผู้บริโภคที่ได้ของดีราคาไม่แพง

 

นายอนุกูล กล่าวเพิ่มเติมว่า “ชะอำและหัวหินเป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวไทยเนื่องจากอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ขณะเดียวกันชาวต่างชาติ ปัจจุบันก็นิยมเดินทางมาท่องเที่ยว ในขณะที่สิ่งอำนวยความสะดวกในปัจจุบันมีมากขึ้น เช่น ซูเปอร์มาร์เกต มหาวิทยาลัยและโรงพยาบาลต่างๆ สำหรับทิศทางตลาดในปี 2556 คาดว่ากลุ่มคอนโดมิเนียมยังเป็นตลาดที่จะเติบโตได้ดี โดยเฉพาะราคาต่ำกว่า 80,000 บาทต่อตารางเมตร ในพื้นที่ชะอำ เขาตะเกียบ-เขาเต่า ยังเป็นพื้นที่ที่น่าจับตา เนื่องจากเชื่อว่ายังมีอุปสงค์รองรับได้จานวนมาก ทั้งนี้ช่วงราคาที่เหมาะสมในพื้นที่ชะอำควรอยู่ในระดับ 50,000-70,000 บาทต่อตารางเมตร ส่วนเขาตะเกียบ-เขาเต่า ควรอยู่ที่ระดับ 40,000-70,000 บาทต่อตารางเมตร คาดว่าอุปสงค์จะตอบสนองได้ดีที่สุด ส่วนพื้นที่ฝั่งทะเล คาดว่าอุปสงค์ที่ต้องการห้องชุดราคาแพงยังพอมีกำลังซื้อที่ราคาสูงกว่า 100,000 บาทต่อตารางเมตร สำหรับตลาดคอนโดมิเนียมบริเวณฝั่งภูเขายังต้องเฝ้าระวัง ส่วนตลาดแนวราบปีนี้คาดว่าอัตราการเติบโตยังใกล้เคียงกับปี 2555 เป็นตลาดที่ค่อนข้างทรงตัวอาจต้องอาศัยปัจจัยแฝงด้านเศรษฐกิจเข้ามาช่วยกระตุ้นอุปสงค์ที่ยังชะลอตัว ด้านราคาเสนอขายคาดว่าจะเติบโตจากปี 2555 อย่างน้อย 5-10% ในตลาดคอนโดมิเนียม โดยจะยังเน้นกลุ่มลูกค้าระดับกลาง ส่วนตลาดแนวราบคาดว่าราคายังทรงตัวใกล้เคียงกับปีที่แล้ว”