หุ้นทอง
YLG มองแนวโน้มราคาทอง 11-15 มี.ค.


สรุปการเคลื่อนไหวในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา  การเคลื่อนไหวของราคาทองคำในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ปรากฏว่าราคาทองคำยังคงไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านใหญ่บริเวณ 1,585 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างมั่นคง ทำให้มีแรงเทขายทำกำไรออกมา โดยมีบริเวณ 1,570 และ 1,560 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เป็นแนวรับสำคัญในการเกิดแรง Technical Rebound ส่งผลให้การเคลื่อนไหวเป็นไปในลักษณะของการเคลื่อนตัวออกไปข้าง (Sideway) เท่านั้น

อย่างไรก็ตามก็มีปัจจัยสหรัฐฯเป็นแรงกดดันในระหว่างสัปดาห์จากการที่ตัวเลขตลาดแรงงานทั้ง การจ้างงานของ ADP การขอรับสวัสดิการการว่างงาน, การจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม (Non-farm Payrolls), และรวมทั้งอัตราการว่างงานของสหรัฐฯที่ได้ปรับตัวดีขึ้นจาก 7.9% มาอยู่ที่ระดับ 7.7%  ดังนั้นแล้วราคาทองคำได้มีการปรับตัวลดลงเล็กน้อยเพียง 1.32 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ประเมินสถานการณ์และทิศทางราคาทองคำในสัปดาห์นี้ ราคาทองคำ : แนวรับ  1,555 (21,900)  1,530(21,500)  1,510 (21,200)   แนวต้าน  1,595  (22,500)  1,615(22,700)  1,635(23,000)  การประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยเฉพาะตัวเลขในตลาดแรงงานที่ปรับตัวดีขึ้น ย่อมเป็นการส่งสัญญาณถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯที่สำคัญ และอาจเป็นแรงกดดันราคาทองคำต่อไป

โดยในสัปดาห์นี้ทางสหรัฐฯก็ยังคงมีการประกาศตัวเลขสำคัญออกมา เช่น ตัวเลขการขอรับสวัสดิการการว่างงานของสหรัฐฯ ที่หากบ่งบอกถึงการปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องของตลาดแรงงาน ก็จะกลายเป็นแรงฉุดราคาทองคำลงได้

นอกจากนี้ยังมีตัวเลขยอดดุลงบประมาณ Federal Budget Balance, ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม Empire State Manufacturing Index และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคด้วย  นอกจากตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯแล้ว นักลงทุนอาจต้องติดตามกระแสข่าวที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะทางภาคการคลังของสหรัฐฯ ที่แม้ว่าทางโอบามาจะได้ลงนามการบังคับใช้มาตรการลดรายจ่ายโดยอัตโนมัติ (Sequestration) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่หากทางสภาคองเกรสสามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการลดรายจ่ายได้ทันวันที่ 27 มีนาคมนี้ ก็อาจลดผลกระทบของมาตรการลดรายจ่ายโดยอัตโนมัติต่อเศรษฐกิจได้ และอาจเป็นแรงลบต่อราคาทองคำเช่นกัน ซึ่งในขณะนี้ได้มีความคืบหน้าจากการเจรจาระหว่างพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันมากขึ้น เมื่อทางพรรคเดโมแครตอาจยินยอมให้ตัดลดรายจ่ายเกี่ยวกับสวัสดิการสังคมลง เพื่อต่อรองในการขึ้นภาษีกับทางพรรครีพับลิกัน 

อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมาแรงงทางเทคนิคได้เป็นเหตุผลสำคัญในการเคลื่อนไหวของราคาทองคำค่อนข้างมาก ดังนั้นแล้วนักลงทุนควรพิจารณาเชิงเทคนิคควบคู่กับปัจจัยพื้นฐานที่จะเกิดขึ้นประกอบการตัดสินใจลงทุนด้วย  

กลยุทธ์การลงทุน ราคาทองคำยังคงแกว่งตัวในกรอบแคบๆตลอดทั้งสัปดาห์ ซึ่งถือเป็นลักษณะเคลื่อนอกด้านข้าง (Sideway) หรือการปรับฐานราคาเพื่อรอปัจจัยข่าวใหม่ๆที่จะเข้ามาผลักดันตลาดนั่นเอง ซึ่งในเชิงเทคนิคแล้ว หากราคาทองคำมีการทะลุกรอบราคาด้านใดด้านหนึ่ง ระหว่าง 1,555 หรือ 1,595 ดอลลาร์ต่อออนซ์ไปได้ ก็จะเกิดแนวโน้มใหม่ให้เล่นตามได้อีกครั้ง

แต่ในระยะสั้นนี้ ให้ลงทุนเก็งกำไรในกรอบราคาดังกล่าวไปก่อน ส่วนกรอบแนวรับ-แนวต้าน ได้แก่แนวรับที่ 1,555 - 1,510 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ประมาณ 21,900-21,200 บาทต่อบาททองคำ) และแนวต้านที่ 1,595 - 1,635 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ประมาณ 22,500-23,000 บาทต่อบาททองคำ)


LastUpdate 10/03/2556 20:41:17 โดย : Admin
25-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 25, 2024, 9:25 pm