แบงก์-นอนแบงก์
"ทิพยประกันภัย" เดินหน้ารุกตลาดรายย่อย ดันเบี้ยพุ่ง 2.5 หมื่นล้าน เขย่่าบัลลังก์แชมป์ประกันภัย


"สมพร สืบถวิลกุล" บิ๊กทิพยประกันภัย ประกาศเดินหน้ารุกตลาดรายย่อย คาดสิ้นปีนี้เพิ่มสัดส่วนรายย่อยขยับขึ้นมาเป็น 50% ของพอร์ตรวม ชู "ประกันภัยรถยนต์" เป็นหัวหอกบุกตลาด ตั้งเป้า 6 พันล้าน เติบโต 20% เน้นกลุ่มลูกค้าที่มีประสบการณ์ขับขี่เพื่อลดความเสี่ยงการเคลม สั่งโฟกัสเฉพาะรถปีที่ 2 และ 3 ไม่เน้นรถคันแรกเสี่ยงสูง ดันสิ้นปีปิดยอดขายเบี้ยประกันภัยรวมพุ่ง 2.5 หมื่นล้าน คว้าเป้าหมายใหญ่ "ทิพยประกันภัย" ขึ้น "เบอร์หนึ่งประกันวินาศภัย" ก่อนครบวาระอีกสองปี

นายสมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทิพยประกันภัย เปิดเผยว่า กลยุทธ์การเติบโตในปีนี้ยังเน้นขยายตลาดประกันภัยสำหรับลูกค้ารายย่อยอย่างต่อเนื่อง หลังจากในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาสามารถเติบโตได้ดีมาก ค่อยๆ เปลี่ยนภาพจากบริษัทที่มีงานรับประกันภัยลูกค้ารายใหญ่มาเป็นรายย่อยมากขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้สัดส่วนงานจากรายย่อยขยับขึ้นมาจาก 20% จากยอดขายโดยรวม มาเป็น 40% ในปัจจุบัน และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นไปเป็น 50% ภายในสิ้นปีนี้ 

สำหรับแบบประกันที่เป็นสินค้าหลักบุกตลาดรายย่อยนั้น นายสมพรอธิบายว่า ประกันภัยรถยนต์จะเป็นสินค้าหลัก เพราะสามารถเติบโตได้เร็วและมีตลาดรองรับชัดเจน ซึ่งที่ผ่านมาถือว่าบริษัทรุกตลาดนี้ค่อนข้างมาก ทำให้เบี้ยประกันภัยรถยนต์เติบโตขึ้นมาก โดยปีนี้ตั้งเป้าหมายเฉพาะเบี้ยประกันภัยรถยนต์ไว้ที่ 6 พันล้านบาท เติบโตประมาณ 20% ถือว่าใกล้เคียงกับตลาดรถยนต์โดยรวมที่น่าจะขยายตัวในอัตรานี้เช่นกัน

"ในตลาดประกันภัยรถยนต์ เราเข้าไปค่อนข้างระมัดระวัง กลุ่มที่อยู่ในโครงการรถคันแรกที่ออกมาค่อนข้างมากในปีที่แล้วเราก็มีค่อนข้างน้อย เพราะเป็นตลาดที่แข่งขันกันสูงมาก จนทำให้เราไม่ค่อยมั่นใจว่าค่าเบี้ยจะคุ้มกับความเสี่ยง จึงไม่ได้เข้าไปรับงานกลุ่มนี้มากนัก แต่งานประกันรถยนต์ที่ได้จะเป็นกลุ่มที่เป็นรถปีที่ 2-3 ขึ้นไป คนขับเริ่มมีประสบการณ์ และเน้นไปตลาดที่ไม่ได้แข่งขันกันหนัก ดูจากเบี้ยให้เพียงพอกับความเสี่ยงเป็นหลัก"

ทั้งนี้ พอร์ตงานประกันภัยรถยนต์ในช่วงที่ผ่านมา ถือว่าอัตราสินไหม (ลอสเรโช) อยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูงถึง 68% สูงกว่าค่าเฉลี่ยในตลาดซึ่งอยู่ที่ประมาณ 64% ส่วนหนึ่งเป็นเพราะงานประกัน พ.ร.บ. ซึ่งเป็นส่วนที่กำไรดีนั้นของบริษัทจะมีค่อนข้างน้อย เพราะไม่ได้ปรับค่าเบี้ยลงไปแข่งขันเท่ากับในตลาด ซึ่งปีนี้ก็จะพยายามลดอัตราสินไหมลงให้มาอยู่ในระดับเดียวกับตลาด ทั้งการบริหารเรื่องอัตราเบี้ยและกลุ่มลูกค้าที่ความเสี่ยงเหมาะสมเข้ามา

อย่างไรก็ตาม งานรับประกันภัยธุรกิจรายใหญ่ งานโครงการรัฐ และงานโครงการพิเศษก็ยังเป็นตลาดสำคัญของบริษัท โดยเฉพาะในช่วงจากนี้ไปจะมีโครงการลงทุนเพื่อบริหารจัดการน้ำ และโครงการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท น่าจะทำให้มีอานิสงส์ต่อการประกันภัยด้วย ซึ่งทิพยประกันภัยก็มีความเชี่ยวชาญด้านนี้อยู่แล้ว ถือเป็นจุดแข็งที่มีเพียงไม่กี่บริษัทที่จะสามารถเข้ามารับงานลักษณะนี้ได้ จึงมั่นใจว่าจะเป็นอีกส่วนหนึ่งที่สนับสนุนการเติบโตได้ค่อนข้างดี

สำหรับเป้าหมายการเติบโตในปีนี้ นายสมพรยืนยันว่า บริษัทน่าจะสามารถรักษาแรงส่งของการเติบโตให้ต่อเนื่องจาก 2 ปีที่ผ่านมานี้ได้ โดยตั้งเป้าหมายว่าจะมีเบี้ยประกันภัยรับรวมไม่น้อยกว่า 2.5 หมื่นล้านบาท เติบโตประมาณ 20% และยังคงเป้าหมายในวาระตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ที่ยังเหลือเวลาอีกประมาณ 2 ปี จะพาทิพยประกันภัยเดินหน้าไปสู่ตำแหน่งผู้นำในตลาดประกันวินาศภัยให้ได้ จากปัจจุบันที่มีส่วนแบ่งตลาดอยู่ในอันดับ 2 แล้ว


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 02 เม.ย. 2556 เวลา : 11:15:34
20-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 20, 2024, 10:14 am