ก่อนที่จะมี “แอพพลิเคชั่น แชท” กันอย่างสนุกสนานเช่นในปัจจุบัน เช่น WhatsApp หรือ LINE วัยรุ่นในยุคกว่า 10 ปีก่อนคงจะจดจำกันได้ถึง โปรแกรมแชทออนไลน์สุดฮอตอย่าง “MSN” หรือ “Windows Live Messenger” ของค่ายบริษัทยักษ์ใหญ่ซอฟต์แวร์ไมโครซอฟต์ ซึ่งเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1999 กระทั่งได้ปิดตัวในวันที่ 8 เมษายน 2013 อย่างเป็นทางการ ปิดฉากอำลาวงการแชทอย่างถาวร สมาชิกเก่าแก่ถูกถ่ายเทไปซบ “Skype” แทน
“ไมโครซอฟต์” ได้เปิดให้บริการ MSN มาราว 14 ปี ตั้งแต่ปี 1999-2013 โดยตอนแรกเปิดให้บริการเฉพาะ Hotmail ก่อนขยายบริการมายัง MSN Messenger ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เพราะเป็นเมสเซนเจอร์ฮอตฮิตที่สุดในขณะนั้นเลยทีเดียว ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น Windows Live Messenger (WLM) ในปี 2005 จนถึงปัจจุบัน
คำประกาศปิดทำการ เกิดขึ้นเมื่อ 15 มีนาคมที่ผ่านมา แต่ต่อมาไมโครซอฟต์ได้ขยายเวลาให้ผู้ใช้มาเป็นวันที่ 8 เมษายน เพื่อเปิดโอกาสใช้ผู้ใช้งานได้ย้ายข้อมูลมาบน Skype แทน พร้อมแจกโปรโมชั่นโทรฟรี 1 เดือน ทั้งเบอร์บ้านและโทรศัพท์มือถือ
สำหรับ “Skype” (สไกป์) น่าจะเป็นที่คุ้นเคยกันดีในกลุ่มสาวกเทคโนโลยีทั่วไป เพราะเป็นโปรแกรมที่ใช้ติดต่อสื่อสารกันระหว่างผ่านอินเทอร์เน็ตด้วยข้อความพร้อมเสียงและภาพจากกล้อง Webcam การใช้งานเป็นโทรศัพท์ โทรติดต่อผู้อื่นที่ไม่ได้ใช้ Skype หรืออินเตอร์เน็ต โทรไปได้ทั้งเบอร์มือถือ และเบอร์พื้นฐานทั่วไป โดยเสียค่าใช้จ่ายเป็นแบบเหมาจ่ายเป็นเดือน
นอกจากนี้ Skype ยังสามารถส่ง SMS ไปได้ทั่วโลกในอัตราที่ถูกแสนถูก หรือจะใช้ในการพูดคุยกันเป็นกลุ่ม สนทนาพร้อมกันได้ประมาณ 20 กว่าคน หรือใช้ทำวิดีโอคอนเฟอเรนท์ซึ่งจะได้ภาพและเสียงที่ชัดเจนมาก
Skype พัฒนาโดย บริษัท Skype Technology ในลักเซมเบิร์กของยุโรป ก่อนจะถูกขายเปลี่ยนมือให้กับ eBay เวบไซต์ประมูลสินค้าและขายสินค้าออนไลน์ชื่อดังของสหรัฐด้วยมูลค่าเงินสดถึง 2.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณหนึ่งแสนล้านบาท ช่วยปลายปี 2005 เพื่อหวังใช้อินเทอร์เน็ตโฟนเพิ่มความสามารถในการติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขายบนตลาดออนไลน์ให้สะดวกมากยิ่งขึ้น ก่อนที่ไมโครซอฟต์จะซื้อกิจการมาในปี 2011 ด้วยมูลค่า 8.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ไมโครซอฟต์คงจะเล็งเห็นแล้วว่า “โซเชียลเน็ตเวิร์ก” ผงาดขึ้นมาเป็นที่นิยมแทนที่ Windows Live Messenger ที่ค่อย ๆ เสื่อมความนิยมไป จนปัจจุบันแทบจะไม่มีใครใช้โปรแกรมนี้แล้ว คำว่า “ออน เอ็ม” แทบไม่มีให้ได้ยิน เมื่อเทียบกับ LINE ,Facebook, Twitter และอื่น ๆ จึงคิดปิดฉาก Windows Live Messenger อย่างเป็นทางการ เพื่อไปทุ่มเทที่ Skype แทน...
ข่าวเด่น