การขยายตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เป็นกลุ่มที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้ความสำคัญมากเป็นพิเศษ และยืนยันมาโดยตลอดว่า "ได้เกิดภาวะฟองสบู่แล้วในบางพื้นที่" แม้หน่วยงานอื่นๆ จะแย้งว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังไม่เกิดภาวะฟองสบู่ก็ตาม
ล่าสุด ผู้ว่าการ ธปท. "ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล" กล่าวถึงความร้อนแรงของการปล่อยสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ของธนาคารพาณิชย์ว่า ขณะนี้ถือว่ามีความเสี่ยงด้านการปล่อยสินเชื่อ จนก่อให้เกิดความกังวลว่า จะเกิดปัญหาฟองสบู่ในภาคอสังหาฯ ซึ่ง ธปท.ขอความร่วมมือจากธนาคารพาณิชย์ในการรักษามาตรฐานการปล่อยสินเชื่อ และดูแลการปล่อยสินเชื่อให้รัดกุม
ส่วนการพิจารณาการเพิ่มเกณฑ์ การกำหนดอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (Loan to Value : LTV ratio) สำหรับการให้สินเชื่อหรือให้เงินกู้ยืมเพื่อการจัดหาที่อยู่อาศัย สำหรับการซื้อที่อยู่อาศัยหลังที่ 2 คงต้องมีการหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องให้รอบคอบ
ซึ่งมาตรการ LTV นี้ ธปท.ได้นำออกมาใช้ครั้งแรก เมื่อปี 2554 โดย นายเกริก วณิกกุล รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธปท. ชี้แจงถึงการออกมาตรการนี้ในช่วงนั้นว่า ธปท.ได้ออกมาตรการ LTV ratio สำหรับการให้สินเชื่อหรือให้เงินกู้ยืมเพื่อการจัดหาที่อยู่อาศัยที่มีราคาซื้อขายต่ำกว่า 10 ล้านบาท
โดยสินเชื่อที่อยู่อาศัยแนวสูง หรือ คอนโดมิเนียม กำหนด LTV ที่ 90% ซึ่งมีผลใช้เฉพาะสัญญาจะซื้อจะขายที่ทำตั้งแต่ 1 มกราคม 2554 ส่วนสินเชื่อที่อยู่อาศัยแนวราบ เช่น บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ กำหนด LTV ที่ 95% มีผลใช้เฉพาะสัญญาจะซื้อจะขายที่ทำตั้งแต่ 1 มกราคม 2555 ยกเว้นข้าราชการหรือพนักงานรัฐวิสาหกิจ เพราะมีการหักเงินเดือนและมีความมั่นคงของตำแหน่งหน้าที่การงาน ความเสี่ยงจึงต่ำกว่า
ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวไม่ได้หมายความว่า จะห้ามปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยเกินระดับดังกล่าว แต่หากธนาคารพาณิชย์ปล่อยสินเชื่อเกินระดับที่กำหนด ก็จะต้องมีเงินกองทุนรองรับเพิ่มขึ้น เพราะมาตรการคุมสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ที่ออกมาเพื่อป้องกันความเสี่ยงทีอาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
สำหรับสถานการณ์ความร้อนแรงของภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบัน ได้ขยายตัวออกไปตามต่างจังหวัดในหัวเมืองใหญ่ และมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เห็นได้จากภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีการออกหุ้นกู้ระดมทุนมากขึ้น
น.ส. อริยา ติรณะประกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ไทยบีเอ็มเอ) กล่าวว่า ช่วงไตรมาสแรกของปีนี้มีบริษัทที่ออกหุ้นกู้รวม 7 บริษัท มูลค่าประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 38% ที่มีหุ้นกู้รวม 5 บริษัท มูลค่าประมาณ 8.7 พันล้านบาท
ทั้งนี้ "กลุ่มอสังหาริมทรัพย์" ถือเป็นกลุ่มที่ได้ใช้ประโยชน์จากตลาดตราสารหนี้ค่อนข้างมาก เห็นได้จากมูลค่าหุ้นกู้ของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ในไตรมาสแรก มียอดระดมทุนรวม 1.2 หมื่นล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 30% ของยอดระดมทุนผ่านหุ้นกู้ทั้งระบบที่มีประมาณ 4.3 หมื่นล้านบาท
ข่าวเด่น