อสังหาริมทรัพย์
อสังหาริมทรัพย์ "ภูเก็ต"เริ่มฟื้นตัว ...คอนโด ขนาด 1 ห้องนอน มาแรง


 

 

 
"ซีบีอาร์อี" ฟันธงตลาดภูเก็ตเริ่มคึกคัก หลังฟุบยาวจากวิกฤตเศรษฐกิจ เผยผู้ประกอบการรายใหญ่ดาหน้าลงทุนโครงการระดับกลางไซด์เล็ก เจาะกลุ่ม "เรียล ดีมานด์" ชี้ตลาดโตในทิศทางเดียวกับหัวหินและพัทยา ที่ต้องการคอนโดมิเนียมไซด์เล็ก ขนาด 1 ห้องนอน
 
แผนกวิจัย ซีบีอาร์อี เปิดเผยรายงานตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ต ชื่อ "ภูเก็ต พร็อพเพอร์ตี้ รีพอร์ต" ว่าในภูเก็ตเกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญกับตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยนับตั้งแต่เมื่อช่วงปลายปี 2555 ที่ผ่านมา ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตเกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญมากที่สุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจในปี 2540 โดยมีแรงขับเคลื่อนมาจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นการเข้ามาลงทุนโครงการใหม่ของผู้ประกอบการจากกรุงเทพฯที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และแนวโน้มเรื่องขนาดที่พักอาศัยที่เล็กลงคล้ายคลึงกับโครงการในหัวหินและพัทยา และปริมาณผู้ซื้อชาวไทยที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก
 
นายเดวิด ซีมิสเตอร์ ประธาน ซีบีอาร์อี ประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตชะลอตัวลง เนื่องจากภาวะวิกฤติเศรษฐกิจโลกในปี 2551 แต่ในปัจจุบันตลาดอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ตอยู่ในช่วงฟื้นตัว และมีกระแสใหม่เกิดขึ้น โดยในปี 2554 ตลาดเริ่มเกิดความเปลี่ยนแปลงเมื่อผู้ประกอบการรายใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จากกรุงเทพฯ อาทิ บมจ.แสนสิริ และ บมจ. ศุภาลัย เริ่มเข้ามาทำตลาดอย่างจริงจัง โครงการที่ลงทุนในช่วงแรก ๆ มุ่งเน้นที่ตลาดที่มีความต้องการที่พักอาศัยจริง โดยมีฐานลูกค้าชาวไทยเป็นหลัก
 
 
 
ความสำเร็จดังกล่าว ทำให้ผู้ประกอบการอีกหลายรายเริ่มเล็งเห็นถึงความเป็นไปได้ของการพัฒนาโครงการในภูเก็ตที่มีรูปแบบที่คล้ายโครงการในหัวหินและพัทยา ที่สามารถดึงดูดทั้งลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติ คือ ต้องการที่พักอาศัยขนาดเล็กลง และราคาขายต่อห้องหรือต่อหลังถูกลง ทั้งนี้ ซีบีอาร์อีเชื่อว่า กระแสดังกล่าวเป็นการเริ่มต้นของการเกิดตลาดใหม่และจะเป็นตลาดมีความยั่งยืนในภูเก็ต
 
โดยปลายปี 2555 บริษัท ลากูน่า รีสอร์ท แอนด์ โฮเท็ล เปิดโครงการลากูน่า ชอร์ส ที่เป็นส่วนหนึ่งของลากูน่า ภูเก็ต และสามารถมองเห็นวิวทะเลสาบเขตร้อนและทะเลได้  โครงการดังกล่าว ประกอบด้วย ห้องชุดขนาดตั้งแต่ 42 ตารางเมตรขึ้นไป ซึ่งการเปิดการขายช่วงแรก ราคาเริ่มต้นที่ 4 ล้านบาท โดยมีลูกค้าหลักเป็นชาวต่างชาติถึง 47%
 
 
 
 
ในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ บมจ.แสนสิริ ประกาศเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมหรูริมทะเล คือโครงการบ้านไม้ขาว ซึ่งได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าชาวไทยที่ต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตเป็นอย่างมาก ล่าสุด บริษัท อมารี เอสเตท จำกัด ในเครือ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ เปิดพรีเซลส์โครงการอมารี เรสซิเดนส์ ภูเก็ต ซึ่งเป็นโครงการที่พักอาศัยระดับหรู ตั้งอยู่บนทำเลที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของภูเก็ตที่สามารถมองเห็นอ่าวป่าตองได้ โครงการนี้จะบริหารจัดการอาคารและได้รับการบริการทั้งหมดโดยโรงแรมอมารี ภูเก็ต รีสอร์ท ซึ่งรวมถึงการจัดการปล่อยเช่าและรับประกันผลตอบแทนจากการเช่า 6% ต่อปีในช่วงเวลา 3 ปีแรก
 
การเปิดโครงการใหม่แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของตลาดอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต เพราะเป็นโครงการที่พัฒนาโดยผู้ประกอบการไทยที่มีความน่าเชื่อถือและไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเงินทุนหมุนเวียนจากยอดขายเพื่อนำมาใช้ในการก่อสร้าง  ดังนั้นโครงการเหล่านี้จึงสามารถส่งมอบได้ทันตามกำหนดและสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ซื้อได้มากกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับโครงการที่พัฒนาโดยผู้ประกอบการหน้าใหม่ ซึ่งมีงบประมาณจำกัด การเข้ามาของผู้ประกอบการรายใหญ่ทำให้เกิดความแตกต่างในด้านสินค้าที่เสนอขายและมีการนำความเชี่ยวชาญของตนเองจากตลาดอื่นมาสู่ภูเก็ต เห็นได้จากความเป็นมืออาชีพในการทำงาน คุณภาพของห้องตัวอย่าง และการนำเสนอสินค้าเพื่อทำการตลาด นับเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดภูเก็ตได้เป็นอย่างดี
 
 
 
 
นอกเหนือจากการเปลี่ยนแปลงในเรื่องผู้ประกอบการแล้ว ตลาดที่พักอาศัยภูเก็ตยังมีการเปลี่ยนแปลงโดยเริ่มได้รับความสนใจจากผู้ซื้อชาวไทยเพิ่มขึ้น โดยโครงการอมารี เรสซิเดนส์ ภูเก็ต และโครงการบ้านไม้ขาว ซึ่งผู้ประกอบการสามารถดึงเอาความสำเร็จที่เกิดขึ้นในตลาดกรุงเทพฯและตลาดบ้านพักตากอากาศอื่น ๆ มาใช้ในการดึงดูดผู้ซื้อชาวไทย  
 
ทั้งนี้ นักลงทุนชาวไทยที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นกำลังมองหาโอกาสการลงทุนที่นอกเหนือไปจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพฯ ซึ่งภูเก็ตก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะเป็นตลาดที่มีชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวมากที่สุดรองจากกรุงเทพฯ และยังมีระบบสาธารณูปโภครองรับความเจริญเติบโตในอนาคต  แม้ว่าสัดส่วนผู้ซื้อชาวไทยในภูเก็ตจะยังคงน้อยกว่าในหัวหินและพัทยา แต่การที่มีผู้ซื้อชาวไทยในภูเก็ตเพิ่มมากขึ้น ก็นับว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญมาก
 
 
 
 
จากความสำเร็จของโครงการดังกล่าวและความสามารถในการดึงดูดลูกค้าชาวไทย ทำให้ซีบีอาร์อีคาดว่า ผู้ประกอบการรายใหญ่อื่น ๆจะเริ่มเข้าสู่ตลาดที่พักอาศัยภูเก็ตมากขึ้น โดยการเปิดโครงการขนาด 1 ห้องนอนที่มีขนาดเล็กลง  ราคาต่อห้องใกล้เคียงกับตลาดพัทยาและหัวหิน แต่เนื่องจากภูเก็ตมีลักษณะเป็นเกาะซึ่งมีข้อจำกัดด้านภูมิศาสตร์บางประการทำให้ซัปพลายในอนาคตมีปริมาณจำกัด
 
สำหรับในปีนี้ ซีบีอาร์อีเชื่อว่า ตลาดที่พักอาศัยในภูเก็ตระดับเริ่มต้นที่มีราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาทต่อยูนิต ทั้งที่เป็นคอนโดมิเนียม อพาร์ตเมนต์ให้เช่าระยะยาว และวิลล่าขนาดเล็กที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ด้านในของเกาะจะยังคงคึกคักอย่างต่อเนื่อง  ในขณะที่ตลาดวิลล่าระดับลักชัวรี่ ซึ่งมีราคาระหว่าง 125 - 250 ล้านบาทต่อหลัง และมีจำนวนจำกัดจะยังคงเติบโตได้ดีในระยะยาว เพราะภูเก็ตยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่นมีเอกลักษณ์มากมายหลายแห่ง นอกจากความน่าสนใจของโครงการใหม่ ๆ แล้ว ตลาดรีเซลส์ในภูเก็ตยังอยู่ช่วงขาขึ้นทั้งในด้านปริมาณลูกค้าที่สนใจและด้านยอดขายอีกด้วย

LastUpdate 14/05/2556 10:18:26 โดย : Admin
20-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 20, 2024, 10:17 am