บิ๊กจัดสรรพาเหรดลงทุนโครงการตามเมืองท่องเที่ยว มั่นใจกำลังซื้อสูง เมินภาวะโอเวอร์ ซัพพลาย "ศุภาลัย" ลุย 6 โครงการ นำร่องเปิดตัวคอนโดมิเนียม กลางเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ฟาก "พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค" ยึดเมืองมหาวิทยาลัย ส่ง ยูนิลอฟท์ เชียงใหม่ และยูนิลอฟท์ ศายาลา ชิมลาง ก่อนขยายสู่ขอนแก่น
แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมา ผู้ประกอบการโครงการบ้านจัดสรรจะขยายการลงทุนไปในต่างจังหวัด โดยเฉพาะหัวเมืองท่องเที่ยวจำนวนมาก จนทำให้หลายฝ่ายทั้งภาครัฐและเอกชนมีความกังวลจะเกิดภาวะล้นตลาด หรือโอเวอร์ ซัพพลาย แต่ยังมีผู้ประกอบการหลายรายที่ไม่สนใจกับภาวะดังกล่าว เพราะมีความมั่นใจว่ายังมีความต้องการที่พักอาศัย และในหัวเมืองท่องเที่ยวที่ไปลงทุนนั้น มีกำลังซื้ออีกมาก เพียงแต่ที่ผ่านมา ไม่มีผู้ประกอบการรายใหญ่จากกรุงเทพฯไปลงทุน มีเพียงผู้ประกอบการท้องถิ่นที่ลงทุน ขณะที่ผู้บริโภคต้องการซื้อที่พักอาศัยจากผู้ประกอบการที่มีชื่อเสียง เพราะมั่นใจในคุณภาพและบริการที่จะได้รับ
*ศุภาลัยยึดโซนตะวันออก
ปูพรม 6 โครงการ 8 พันล้าน*
นายอธิป พีชานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปีนี้บริษัทมีแผนที่จะลงทุนโครงการใหม่ในเมืองท่องเที่ยว ในโซนภาคตะวันออกรวม 6 โครงการ มูลค่ากว่า 8,000 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการแนวราบ และแนวสูง โดยจะลงทุนโครงการคอนโดมิเนียม และทาวน์เฮาส์ในเมืองพัทยา 2 โครงการ มูลค่าประมาณ 2,500 ล้านบาท โครงการแนวราบในจังหวัดชลบุรี และในเมืองศรีราชา 2 โครงการ ส่วนในจังหวัดระยอง จะเป็นคอนโดมิเนียม และบ้านเดี่ยว 2 โครงการ
โดยในเดือนมิถุนายนนี้ จะเปิดตัวโครงการศุภาลัย มาเรย์ @ พัทยา บนพื้นที่ 7 ไร่เศษ ตั้งอยู่ริมถนนเทพประสิทธิ์ เมืองพัทยา เป็นคอนโดมิเนียม สูง 35 ชั้น 1 อาคาร มีจำนวน 1,179 ยูนิต มีห้องชุดให้เลือก 3 แบบ พื้นที่ใช้สอย 32-72 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1.2 ล้านบาท มูลค่ารวม 2,490 ล้านบาท ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาได้นำโครงการนี้ไปร่วมในงานมหกรรมบ้านและคอนโด มียอดขายแล้ว 200 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากการสำรวจและวิจัยตลาดของศุภาลัย พบว่า ในปี 2555 ตลาดที่อยู่อาศัยในชลบุรี พัทยา และระยอง มีศักยภาพค่อนข้างสูง ทั้งในด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ส่งผลให้ภาคอสังหาริมทรัพย์มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมระดับราคา 1-3 ล้านบาท ซึ่งเป็นที่ต้องการของกลุ่มนักท่องเที่ยว ทั้งจากต่างชาติและชาวไทย รวมถึงคนกรุงเทพฯที่ต้องการบ้านหลังที่ 2 เป็นบ้านพักตากอากาศ
จากผลการวิจัย ระบุว่า ตลาดรวมเมืองชลบุรี ณ ปลายปี 2555 มีซัพพลาย 92,644 หน่วย ถูกดูดซับแล้ว 60-70% แบ่งออกเป็น บ้านเดี่ยว จำนวน 19,527 ยูนิต ขายแล้ว จำนวน 13,741 ยูนิต บ้านแฝด จำนวน 5,016 ยูนิต ขายแล้ว จำนวน 3,457 ยูนิต ทาวน์เฮาส์ จำนวน 11,725 ยูนิต ขายแล้ว จำนวน 7,755 ยูนิต และคอนโดมิเนียม จำนวน 56,376 ยูนิต ขายแล้ว จำนวน 37,365 ยูนิต
สำหรับเมืองพัทยามีการลงทุนโครงการมากที่สุด มีซัพพลายรวมจำนวน 33,670 ยูนิต แบ่งโซนพัฒนาออกเป็น 2 โซน คือ โซนฝั่งภูเขา มีซัพพลาย จำนวน 6,288 ยูนิต ถูกดูดซับแล้ว 42% แบ่งออกเป็น บ้านเดี่ยว ราคา 3.5-4.2 ล้านบาท ขายแล้ว 29% บ้านแฝด ราคา 1.8-2.4 ล้านบาท ขายแล้ว 32% ทาวน์เฮาส์ ราคา1.8-2.4 ล้านบาท ขายแล้ว 38% และ คอนโดมิเนียม ราคา 0.8-1.2ล้านบาท ขายแล้ว 96% ส่วนโซนฝั่งทะเล มีซัพพลายรวมจำนวน 27,385 ยูนิต ขายแล้ว 53% แบ่งออกเป็นบ้านเดี่ยว 57% บ้านแฝด ขายแล้ว 77% ทาวน์เฮาส์ ขายแล้ว 18% คอนโดมิเนียมขายแล้ว 53%
ส่วนในจังหวัดระยอง มีซัพพลายรวมจำนวน 5,406 ยูนิต แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 2,358 ยูนิต ขายแล้ว 1,741 ยูนิต บ้านแฝด 267 ยูนิต ขายแล้ว 184 ยูนิต ทาวน์เฮาส์ 1,261 ยูนิต ขายแล้ว 634 ยูนิต และ คอนโดมิเนียม 1,520 ยูนิต ขายแล้ว 1,183 ยูนิต
อย่างไรก็ตาม นายอธิปยอมรับว่า ในเมืองชลบุรี และพัทยา นั้น มีการแข่งขันที่ค่อนข้างสูง อีกทั้งยังมีซัพพลายคงค้างจำนวนมาก แต่ส่วนใหญ่เป็นตลาดระดับบนและล่าง บริษัทจึงเข้าไปทำตลาดระดับกลางที่มีการแข่งขันไม่รุนแรงมากนัก ที่สำคัญมีความต้องการซื้อสูง ซึ่งคาดว่าโครงการของบริษัทจะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคเช่นเดียวกับโครงการในกรุงเทพฯและในจังหวัดอื่น
*เพอร์เฟคยึดเมืองมหาวิทยาลัย
ส่ง “ยูนิลอฟท์” เจาะนักศึกษา*
นายศรัณยู โง้วศิริมณี ผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF กล่าวว่า หลังจากที่บริษัทประสบความสำเร็จจากการพัฒนาที่อยู่อาศัยรูปแบบใหม่ เพื่อเจาะกลุ่มตลาดนักศึกษา ตามย่านสถานศึกษาต่าง ๆ โดยได้สร้างหอพักนักศึกษาระดับบน ภายใต้แบรนด์ ยูนิลอฟท์ ที่เชียงใหม่ และศาลายา นครปฐมแล้ว บริษัทจึงมีแผนที่จะขยายการลงทุนยูนิลอฟท์ ไปในต่างจังหวัดที่มีสถานศึกษา มหาวิทยาลัยขนาดใหญ่ อีกด้วย ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาการลงทุนที่จังหวัดขอนแก่น ซึ่งมีมหาวิทยาลัยขอนแก่น และสถานศึกษาอื่น ๆ รวมถึงที่สงขลาที่มีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ด้วย
โครงการยูนิลอฟท์ เชียงใหม่ ตั้งอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ บนพื้นที่ 7 ไร่ มี 4 อาคาร เป็นหอพักชาย 1 อาคาร และหอพักหญิง 3 อาคาร จำนวนรวม 520 ยูนิต มูลค่าโครงการ 600 ล้านบาท ส่วนโครงการยูนิลอฟท์ ศาลายา มีพื้นที่ 5 ไร่ มี 3 อาคาร เป็นหอพักชาย 1 อาคาร และ หอพักหญิง 2 อาคาร จำนวนรวม 530 ยูนิต มูลค่าโครงการ 600 ล้านบาท
ด้านแผนการลงทุนในตลาดการศึกษาของยูนิลอฟท์ในปีนี้ จะลงทุน 3 รูปแบบ คือ ลงทุนย่านสถานศึกษาของรัฐบาล เขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ค่าเช่าเฉลี่ยเดือนละ 7,000-12,000 บาทต่อห้อง ลงทุนสถานศึกษาตามหัวเมืองใหญ่ในต่างจังหวัด ค่าเช่าเดือนละ 6,000-9,000 บาท และลงทุนสถานศึกษานานาชาติ จะมีขนาดห้องที่ใหญ่ขึ้น ค่าเช่าเดือนละ 9,000 -20,000 บาท
“หากดูข้อมูลตัวเลขประชากรอาเซียน ในช่วงอายุ 0-29 ปี คืออยู่ในวัยศึกษาถึงระดับปริญญาโท พบว่ากลุ่มนี้มีอัตราส่วนสูงถึง 53.4% หรือเกินกว่าครึ่งของจำนวนประชากรทั้งหมด ซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่ ตลาดการศึกษาจึงเป็นตลาดใหญ่ นอกจากนี้ การเข้าสู่ประชาคมอาเซียน คาดว่าจะทำให้มีนักศึกษาต่างชาติเข้ามาเรียนในเมืองไทยเพิ่มขึ้น โครงการยูนิลอฟท์จึงเป็นสินค้าที่จะมารองรับนักศึกษากลุ่มนี้ รวมทั้งยกระดับมาตรฐานของหอพักสำหรับนักศึกษาไทย ให้มีคุณภาพแตกต่างจากหอพักที่เราคุ้นเคยอีกด้วย”
ทั้งนี้ บริษัทมีแผนที่จะนำโครงการยูนิลอฟท์ เชียงใหม่ และโครงการยูนิลอฟท์ ศาลายา จัดตั้งเป็น "กองทุนอสังหาริมทรัพย์" มูลค่ารวม 1,070 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะตั้งได้ภายในปลายไตรมาส 2 ปีนี้ มีผลตอบแทนปีละ 6.5% มีจุดเด่น คือ เป็นกองทุนแบบฟรีโฮลด์ ซึ่งผู้ลงทุนถือครองเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์สินทรัพย์ที่มีคุณภาพ มีการก่อสร้างตกแต่งอย่างดี
ขณะเดียวกัน ก็มีแผนที่จะสร้าง "ยูนิลอฟท์ คอนโดมิเนียม" ในพื้นที่เดียวกันกับยูนิลอฟท์ ศาลายา นครปฐม ด้วย มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดตัวไตรมาส 4 ปีนี้ และจะสร้างโครงการยูนิลอฟท์ คอนโดมิเนียม ในย่านบางนา ซึ่งอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท
.jpg)
.jpg)
.jpeg)
.jpg)
.jpg)
ข่าวเด่น