ภาพยนตร์เรื่อง "Behind the Candelabra" ได้ฉายเป็นครั้งแรกในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศสที่เพิ่งผ่านไป ก่อนที่จะไปออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ HBO อีกครั้ง เรื่องนี้นำแสดงโดย "ไมเคิล ดักลาส" และ "แมตต์ เดมอน" ซึ่งสำหรับ "สตีเวน โซเดอร์เบิร์ก" ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้แล้ว เขามีความทรงจำที่ดีกับเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ เพราะเมื่อ 24 ปีที่แล้ว ผลงานของเขาเรื่อง "Sex,Lies and Videotape" คว้ารางวัลปาล์มทองคำหรือ Palme d’Or มาครองได้
อย่างไรก็ตาม โซเดอร์เบิร์ก ประกาศแล้วว่า "Behind the Candelabra" จะเป็นผลงานภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายของเขาแล้ว หลังจากอยู่ในวงการนี้มา 50 ปี และมีผลงานเรื่องอื่นๆ มากมาย อาทิ Out of Sight ,Traffic รวมทั้ง Ocean ซึ่งเขาได้ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุผลของการอำลาอาชีพผู้กำกับภาพยนตร์
-เมื่อคุณมองย้อนกลับไปตั้งแต่คุณกำลังสร้างภาพยนตร์เป็นครั้งแรกมาจนถึงวันนี้ คุณคิดอย่างไรบ้าง
สำหรับผมเรื่องราวที่ผ่านมาเป็นเหมือนภาพยนตร์เรื่องใหญ่เรื่องหนึ่ง หรือเป็นบทๆ หนึ่งในนวนิยาย ผมถ่ายทำเรื่อง Sex,Lies and Videotape ในเวลา 35 วัน และ Behind the Candelabra ในเวลา 30 วัน ซึ่งผมเองชอบทำให้ภาพยนตร์ของผมสั้นลงนิดหน่อย ภาพยนตร์ของผมที่ใช้เวลาสั้นมักจะออกมาดี
-คุณบอกว่าคุณจะยุติการกำกับภาพยนตร์ แล้วคุณคิดว่าชีวิตของคุณจะเป็นอย่างไรต่อไป
ก็คงจะเงียบลงไปครับ แต่ผมก็อยากจะทำอะไรอย่างอื่นด้วยครับ ถ้าจะให้ผมอยู่โดยไม่ทำอะไร คงไม่ไหว ที่ผ่านมาผมตั้งใจทำงานและใช้เวลามากทีเดียวในการพยายามจะค้นหาว่า จะทำอย่างไรให้งานของผมออกมาแล้วทำให้ตัวผมเองสามารถมองในแง่ดีได้ แต่บางคนก็ไม่คิดเช่นนั้น ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจ บางคนคิดแต่จะเอาใจตลาดเท่านั้น
-หมายความว่า คุณสร้างภาพยนตร์ขึ้นมาจากความคับข้องใจในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ และคุณก็ปรารถนาที่อยากเติบโตในรูปแบบใหม่ในฐานะผู้สร้างภาพยนตร์
ถูกต้องครับ แต่ผู้สร้างภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จนั้นมีหลายอย่าง บางคนก็ทำโดยอิงธุกิจ บางคนก็ทำตามที่ตัวเองอยากจะทำ ผมเองอาศัยความเป็นนักสร้างภาพ และความเป็นคนดูภาพยนตร์มาตั้งแต่เด็ก มาเป็นส่วนช่วยในการสร้างภาพยนตร์ โดยเอาจินตนาการมาผสมผสานผสานกับสิ่งที่อยากจะถ่ายทอดออกไป
-ผู้คนแปลกใจกันมากที่คุณจะหันหลังให้กับการสร้างภาพยนตร์
ผมต้องขอบคุณที่ตอบรับผลงานของผมด้วยดีเสมอมา ผมมีความสุขกับระยะเวลาที่สร้างภาพยนตร์มา ต่อจากนี้ไปคงจะเห็นผมในบทบาทอื่นครับ
-ผู้สร้างภาพยนตร์หลายคนใช้เวลาหลายปีในการสร้างหนังที่พวกเขาหวังว่าจะเป็นผลงานชิ้นเอก พวกเขาจะระวังมากในการสร้างหนัง แต่ดูเหมือนความคิดนี้จะไม่มีอยู่ในตัวคุณเลย
ผมไม่คิดจะทำแบบพวกเขาครับ เพราะจะทำให้งานผมออกมาแย่ลง ยิ่งผมใช้เวลานานเท่าไหร่ งานของผมแย่ลงเท่านั้น ผมต้องทำเหมือนเล่นกีฬา คือ แข่งกับความเร็ว แต่ทุกอย่าง ผมทำจากความตั้งใจครับ ไม่ใช่ทำแบบขอไปที
-HBO เลือก Behind the Candelabra ไปฉาย และคุณก็เริ่มสนใจโปรเจ็คงานทางโทรทัศน์ ตื่นเต้นไหมเกี่ยวกับงานทางด้านโทรทัศน์
ตื่นเต้นมากเลยครับ เราเห็นผลงานดีๆ มากมายที่ออกมา ซึ่งผมก็ชื่นชอบมาก แต่ไม่ว่าจะเป็นผลงานทางภาพยนตร์หรือโทรทัศน์ สำคัญที่ความตั้งใจครับ
.jpg)
ข่าวเด่น