"พร็อพเพอร์ตี้กูรู กรุ๊ป" เผยผลสำรวจผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย พบผู้ซื้อชาวไทยเมินนโยบายบ้านหลังแรก เชียร์คลอดมาตรการมีบ้านง่ายขึ้น ขณะที่นักลงทุนไทยต้องการขยายการลงทุนสู่ลาว/ออสเตรเลีย แนะรัฐคุมเข้มต่างชาติถือครองที่ดินไทย และหาช่องทางดึงนักลงทุนไทย /ข้ามชาติลงทุนในไทย
DDproperty.com ร่วมกับ แอ๊ดเด็ด แวลู่ แซฟฟรอน-ฮิลล์ บริษัทวิจัยตลาดอิสระชั้นแนวหน้าจากประเทศสิงคโปร์ ดำเนินการสำรวจโดยการให้ตอบแบบสอบถามใน 4 ตลาดหลักของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ ประเทศไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ซึ่งการสำรวจดังกล่าวเป็นการสำรวจประจำไตรมาส เพื่อสำรวจความรู้สึกของผู้ซื้อ/ นักลงทุนที่มีต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยเริ่มสำรวจครั้งแรกเมื่อปี 2554 สำหรับผลการสำรวจในไตรมาส 1 ปีนี้ ได้จากกลุ่มตัวอย่างที่เป็นคนไทยอายุระหว่าง 21-69 ปี จำนวน 1,503 รายผ่านการทำแบบสอบถามออนไลน์ถึงแนวโน้มในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในช่วงเวลานั้นๆ
จากผลการสำรวจพบว่า จำนวน 47% ของผู้ตอบแบบสอบถาม รู้สึกพอใจกับสถานการณ์ของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในปัจจุบัน ในขณะที่ 4 ใน 5 ของผู้ตอบแบบสอบถามคาดว่า ราคาอสังหาริมทรัพย์จะปรับตัวสูงขึ้นในอีก 6 เดือนข้างหน้า ขณะที่จำนวน 54% ของผู้ตอบแบบสอบถามในครั้งนี้เห็นว่า รัฐบาลยังให้การสนับสนุนไม่เพียงพอที่จะช่วยให้ประชาชนเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ได้ง่ายขึ้น และจำนวน 52% รู้สึกผิดหวังกับนโยบายบ้านหลังแรก ส่วนจำนวน 63% ต้องการให้รัฐบาลออกกฎหมายที่เข้มงวดสำหรับชาวต่างชาติที่จะซื้ออสังหาริมทรัพย์ในเมืองไทยให้มากยิ่งขึ้น
สำหรับตลาดรวมอสังหาริมทรัพย์ในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ มีดีมานด์ซื้ออสังหาริมทรัพย์ภายในประเทศค่อนข้างสูง โดยเฉพาะที่ดินเปล่าและคอนโดมิเนียม โดยผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่ามีความสนใจที่จะซื้อในช่วง 6 เดือนข้างหน้ามากถึง 47% และ 42% ตามลำดับ ส่วนตลาดต่างประเทศนั้น ผู้ตอบแบบสอบถาม 1 ใน 3 มีความสนใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ในประเทศ สปป.ลาว และออสเตรเลีย
ทั้งนี้ ผู้ซื้อส่วนใหญ่คาดว่าราคาอสังหาริมทรัพย์ในไทยมีแนวโน้มที่จะขยับตัวสูงขึ้นในช่วง 6 เดือนข้างหน้า โดยมีปัจจัยเสริมจากดีมานด์ของผู้ซื้อชาวต่างชาติ ในขณะที่ผู้ซื้อชาวไทยส่วนใหญ่คาดหวังที่จะให้รัฐบาลออกมาตรการช่วยเหลือให้สามารถเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ง่ายขึ้น ขณะที่นโยบายบ้านหลังแรกไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เพราะผู้ซื้อไม่สนใจซื้อ
นายเรย์มอนด์ อิ้ง กรรมการผู้จัดการ แอ๊ดเด็ด แวลู สิงคโปร์ กล่าวว่า ผลการสำรวจครั้งนี้ พบว่า คนไทยมีความสนใจที่จะซื้ออสังหาริมทรัพย์ในประเทศ สปป.ลาว และออสเตรเลีย ซึ่งรัฐบาลควรจะหาวิธีการโน้มน้าวให้ความสนใจจากผู้ซื้อในกลุ่มนี้กลับมาลงทุนภายในประเทศแทน และเลือกที่จะลงทุนในต่างประเทศกับโครงการที่น่าสนใจเท่านั้น ซึ่งความท้าทายดังกล่าวเป็นเรื่องที่ประเทศมาเลเซียกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน การหาความสมดุลระหว่างการลงทุนภายในประเทศและต่างประเทศนั้น เป็นเรื่องท้าทายที่จะต้องหาทางออกที่ลงตัว โดยจะต้องให้ความสำคัญกับการลงทุนภายในประเทศก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน
ขณะที่ นายสตีฟ เมลฮูอิช ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานกรรมการ บริหารพร็อพเพอร์ตี้กูรู กรุ๊ป กล่าวว่า ผลสำรวจสะท้อนให้เห็นความเป็นไปในปัจจุบันของตลาดและแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ได้เป็นอย่างดี
.jpg)
ข่าวเด่น