เครือข่ายครอบครัวรวมตัวกันยื่นหนังสือถึงกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ  กสทช. เพื่อให้ถอดถอนรายการ Thailand Got Talent  ซีซั่นสาม ที่ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่องสาม หลังจากเกิดกรณี "สิทธัตถะ เอมเมอรัล" กลายเป็นเรื่องฮอตขึ้นมาตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ก่อน   

"สิทธัตถะ  เอเมอรัล" เด็กหนุ่มวัย 24 ปีผู้นี้มีบุคลิกที่แตกต่างจากคนอื่นๆ ไม่มีการพูดหางเสียง ไม่มีคำว่าครับ และเมื่อกรรมการถามว่าเอเมอรัล กลับตอบด้วยคำพูดที่ทำให้ทุกคนช็อคว่า “ที่บ้านไม่เคร่งเรื่องมารยาท แต่เคร่งเรื่องศีลธรรมมากกว่า”  และต่อมาเมื่อกรรมการเอาน้ำไปให้หนึ่งขวดก็ไม่มีการไหว้หรือคำกล่าวใดๆ เพื่อแสดงความขอบคุณใดๆทั้งสิ้น  ซึ่งเอเมอรัล ก็ทำให้ทุกคนช็อคอีก ด้วยคำพูดว่า “ช่างเรื่องมารยาทเถอะ อยากจะโชว์จะแย่อยู่แล้ว” ก่อนที่เจ้าตัวจะร้องเพลงเปาบุ้นจิ้นออกมาท่ามกลางเสียงโห่จากคนในห้องส่ง และการทำท่ารังเกียจของพิธีกร            

เหตุการณ์ครั้งนี้ กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันมาก  หากแต่ไม่ใช่วิจารณ์เรื่องการกระทำของเอเมอรัล  แต่วิจารณ์ Work Point บริษัทผู้ผลิตรายการ รวมถึงช่องสาม และก็เป็นเหตุผลที่เครือข่ายครอบครัวรวมตัวกันยื่นหนังสือให้ถอดถอนรายการ Thailand Got Talent ออก       

ประเด็นที่ถูกโจมตี คือ เรื่องมนุษยธรรม ไม่ว่า เอมเมอรัล จะปกติอย่างที่ทางรายการอ้างหรือจะผิดปกติบางอย่างในการสื่อสารอย่างที่คนส่วนใหญ่เข้าใจ ภาพพิธีกรบนเวทีแสดงท่าทางเย้ยหยัน ภาพคนดูโห่  ทำให้หลายฝ่ายมองว่ารายการสร้างให้ เอเมอรัล เป็นเหยื่อ  ใช้เป็นตัวเรียกเรตติ้ง ก็เป็นเรื่องยากจะยอมรับได้อยู่แล้ว

และที่สำคัญ คุณแม่ของเอมเมอรัล ก็อ้างว่าหลังกระแสเรื่องเอมเมอรัลแรง ทีมงานมาถึงบ้าน เพื่อขอให้อย่าเปิดเผยต่อสื่อว่า เอมเมอรัล ผิดปกติ แต่ให้บอกว่าปกติ  โดยตอนแรก แม่เองก็คิดจะทำตาม แต่เมื่อเห็นกรรมการทำท่าทีไม่ดีใส่ลูกชายเลยเปิดเผยความจริง   ซึ่งถ้าเป็นอย่างที่แม่ของเอมเมอรัลกล่าวอ้างจริงก็ยิ่งแย่ เพราะการเยาะเย้ย ดูถูกผู้บกพร่องเป็นเรื่องร้ายแรงมาก

หลายฝ่ายวิจารณ์ว่า ไม่น่าจะให้ร้องเพลง ในเมื่อคาดว่าอาจจะทำให้เอมเมอรัลถูกกระทำเช่นนี้  ซึ่งทางรายการก็ออกแถลงการณ์ว่าเอมเมอรัลเป็นคนปกติ เพียงแต่เป็นคนพูดน้อย  แต่ที่เหตุการณ์เกิดขึ้นเช่นนี้อาจเพราะเจ้าตัวตื่นเต้น  แต่ก็ขออภัยที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกไม่ดี

ขณะที่คนที่อ้างตัวว่าเป็นเพื่อนของเอมเมอรัล เคยเรียนหนังสือด้วยกันก็เปิดเผยว่า เอมเมอรัลเป็นคนไม่สุงสิงกับใคร มักจะอยู่คนเดียว จนเพื่อนๆตั้งฉายาว่า “น้องใบ้” แต่เอมเมอรัล มีผลการเรียนที่ดีมาก       

แต่ไม่ว่าจะอย่างไร กระแสเรื่องนี้รุนแรงขึ้นมา  คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ส่วนหนึ่งเพราะครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกของ Workpoint และไม่ใช่ครั้งแรกของช่องสามที่โดนกระแสสังคมวิพากษ์      

ใน Thailand Got Talent  ซีซั่นสองก็ปล่อยให้โชว์ผู้หญิงระบายสีด้วยนมออกอากาศ โดยครั้งนั้นก็กลายเป็นเรื่องที่พูดถึงกันทั้งประเทศและเรียกเรตติ้งได้ถล่มทลาย                

งานนี้จึงต้องคอยดูว่าท้ ายที่สุดจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรหรือไม่  ซึ่งก็ได้แต่หวังว่าเหตุการณ์ครั้งนี้จะเป็นบทเรียนสำหรับผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ทุกท่านในเรื่องของจรรยาบรรณ  ให้คิดถึงสังคมบ้าง มิใช่คิดแต่เรื่องเรตติ้งอย่างเดียว