ด้วยความใส่ใจในทุกชีวิตและความมุ่งมั่นของทุกคนในวอลโว่ที่จะพัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่และการใช้รถใช้ถนน จึงทำให้วอลโว่เป็นผู้นำในเรื่องความปลอดภัยของยานยนต์ในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นตัวรถยนต์ เทคโนโลยีรวมถึงบุคคลที่อยู่เบื้องหลังนวัตกรรมเหล่านี้ ซึ่งส่งผลให้ล่าสุดวอลโว่ได้รับ 2 รางวัลใหญ่ติดๆ กัน เมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา คือ รางวัล Global NCAP Innovation Award สำหรับเทคโนโลยีที่ช่วยปกป้องคนเดินถนน โดยมี ศ. ล็อตตา จาค็อบสัน ผู้เชี่ยวชาญอาวุโสด้านเทคนิคความปลอดภัย ประจำศูนย์พัฒนาเทคโนโลยีความปลอดภัยของวอลโว่ เป็นผู้รับรางวัลที่งาน enhanced Safety of Vehicles Conference ในกรุงโซล เกาหลีใต้ และรางวัล US Government Special Award of Appreciation ที่มอบให้แก่แอนเดอร์ส ยูเกนสัน ผู้อำนวยการฝ่ายรัฐกิจสัมพันธ์ซึ่งเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการกำหนดกลยุทธ์ด้านความปลอดภัยของวอลโว่

วอลโว่มักจะสร้างปรากฏการณ์ความปลอดภัยใหม่ๆ ให้แก่โลกเสมอ ตั้งแต่การเปิดตัวเข็มขัดนิรภัยครั้งแรกของโลกในปี 2502 และพัฒนาระบบความปลอดภัยมาโดยตลอด จนถึงการเปิดตัวเทคโนโลยีที่ช่วยปกป้องชีวิตคนเดินถนนของวอลโว่ในปี 2554 ที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ คือ ถุงลมนิรภัยสำหรับคนเดินถนนที่ติดตั้งไว้บริเวณกระจกหน้ารถส่วนล่าง ซึ่งจะพองตัวขึ้นมาเมื่อรถชนคนเดินเท้าจนกระเด็นขึ้นมาบนกระโปรงหน้ารถ เพื่อช่วยรองรับตัวผู้ถูกชนไว้ สามารถลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บรุนแรงที่บริเวณศีรษะได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ เทคโนโลยีนี้เกิดขึ้น เพราะจากสถิติในประเทศจีนพบว่า 25% ของผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนคือ คนเดินเท้า ขณะที่ในยุโรปมีคนเดินเท้าเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนคิดเป็น 14% สาเหตุหลักก็คือการที่ร่างของผู้ถูกรถชนกระแทกกับส่วนของรถที่เป็นโลหะแข็งเช่นเครื่องยนต์ที่อยู่ใต้ฝากระโปรงหน้ารถ กระจกหน้ารถส่วนล่างและเสา ซึ่งในประเทศไทยนั้น การชนกระแทกกับส่วนของรถที่เป็นโลหะแข็งก็เป็นสาเหตุสำคัญอีกประการหนึ่งของการเสียชีวิตบนท้องถนนรวมถึงทำให้เกิดความพิการเช่นเดียวกัน วอลโว่จึงได้พัฒนาเทคโนโลยีนี้ขึ้นด้วยความมุ่งหวังที่จะรักษาชีวิตทั้งผู้ขับขี่และคนใช้ถนนร่วมกัน

ก่อนหน้านี้ในปี 2553 วอลโว่ได้เปิดตัวเทคโนโลยีระบบตรวจจับคนเดินเท้า (Pedestrian Detection) พร้อมระบบเบรกแบบเต็มแรง โดยเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้เลี่ยงการชนคนเดินเท้าหรือรถจะหยุดเองก่อนชนคน เมื่อรถวิ่งในระดับความเร็วไม่เกิน 35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวได้เปิดตัวในประเทศไทยในปีเดียวกันในรถยนต์วอลโว่ S60 และได้รับความสนใจจากผู้ใช้รถใช้ถนนในเมืองไทยเป็นอย่างมาก

ซึ่งทั้ง 2 ระบบความปลอดภัยนี้ ล้วนเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้วอลโว่ V40 ใหม่ผ่านการทดสอบการชนด้วยการสร้างสถิติใหม่ด้วยคะแนนสูงถึง 88% จนได้รับการจัดอันดับในระดับ 5 ดาว และได้รับรางวัล Euro NCAP Best in Class – Small Family Class ไปในที่สุด

แน่นอนว่า เบื้องหลังของนวัตกรรมเพื่อความปลอดภัยเหล่านี้ คือ คนที่มีความแน่วแน่ในการพัฒนาสิ่งใหม่เพื่อทำให้วิสัยทัศน์และเป้าหมายของวอลโว่ที่จะทำให้การบาดเจ็บสาหัสหรือการตายที่เกิดจากรถยนต์วอลโว่เป็นศูนย์ในปี 2563 เกิดสัมฤทธิผลได้จริงๆ และแอนเดอร์ส ยูเกนสัน ผู้อำนวยการฝ่ายรัฐกิจสัมพันธ์ของวอลโว่ก็เป็นหนึ่งในนั้น ผลงานที่ผ่านมาทำให้แอนเดอร์สได้รับรางวัล US Government Special Award of Appreciation จาก National Highway Traffic Safety Administration แห่งสหรัฐอเมริกา และได้ขึ้นรับรางวัลในงานประชุมระดับสากลด้านเทคนิคครั้งที่ 23 ว่าด้วยความปลอดภัยของรถยนต์ ซึ่งจึดขึ้นในกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ 

แอนเดอร์ส เริ่มงานกับวอลโว่มาตั้งแต่ พ.ศ. 2528 และคลุกคลีอยู่กับงานด้านความปลอดภัยมาโดยตลอด ตั้งแต่การวิเคราะห์โครงสร้างรถยนต์ในกรณีที่เกิดการชน ไปจนกระทั่งงานในระดับบริหารของศูนย์ความปลอดภัยวอลโว่คาร์ส และปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายรัฐกิจ ในแผนกสื่อสารองค์กร แอนเดอร์สเป็นบุคคลสำคัญในทีมกลยุทธ์ด้านความปลอดภัยที่ประกอบด้วยพนักงานจากหลายฝ่ายซึ่งทำหน้าที่กำหนดเป้าหมายและแนวทางในการพัฒนาเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยให่แก่วอลโว่ ซึ่งเทคโนโลยีความปลอดภัยวอลโว่ที่ทีมได้คิดค้นขึ้นได้ช่วยลดอุบัติเหตุและช่วยรักษาชีวิตของคนมาแล้วทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยของเราด้วย

รางวัลเหล่านี้ล้วนสะท้อนถึงความตั้งใจจริง และความสำเร็จของวอลโว่ในการสร้างสรรค์เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อความปลอดภัยในชีวิตของคน ไม่ว่าคนๆ นั้น จะนั่งอยู่หลังพวงมาลัย นั่งอยู่ในรถ ขับขี่รถคันอื่นหรือแม้กระทั่งคนเดินเท้าที่สัญจรอยู่บนเส้นทางเดียวกัน และทั้งหมดนี้ก็เกิดขึ้นจากการที่วอลโว่ใส่ใจในทุกมิติของชีวิตเราภายในปรัชญา Designed Around You ที่เน้นการให้คนเป็นศูนย์กลางแห่งการออกแบบและน่าดีใจที่คนไทยก็มีโอกาสได้ใช้นวัตกรรมเพื่อความปลอดภัยเหล่านี้ในรถยนต์วอลโว่เช่นกัน โดยระบบตรวจจับคนเดินเท้า (Pedestrian Detection) พร้อมระบบเบรกแบบเต็มแรง ซึ่งมีอยู่ในวอลโว่รุ่น S60 DRIVe V60 DRIVe S80 T4 และ XC60 D4 สามารถทดลองขับได้ที่วอลโว่โชว์รูมวันนี้ทั่วประเทศ