เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
บทวิจัยเศรษฐกิจ ตอนที่ 28/2556 : เป็นหนี้ก็ใช้หนี้ ใช้ให้ครบ ใช้ให้ตรงเวลา


 


นับเป็นเรื่องที่ดีที่ผู้ประกอบการบัตรเครดิตได้ออกมาระบุถึงการปรับลดค่าธรรมเนียมในการติดตามหนี้ เรื่องนี้ผมต้องปรบมือให้กับประธานชมรมธุรกิจบัตรเครดิต สมาคมธนาคารไทย ที่เปิดเผยว่า ชมรมของผู้ประกอบการได้ประชุมหารือถึงความเป็นไปได้ในการปรับลดค่าธรรมเนียมในการติดตามหนี้ ตามนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อช่วยผ่อนคลายภาระค่าใช้จ่าย ผ่อนคลายความตึงเครียดของลูกหนี้ สร้างบรรยากาศของการผ่อนสั้นผ่อนยาว โดยตามข่าวที่ออกมาระบุว่า จะเริ่มใช้อัตราใหม่ที่มีการปรับลดตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม เป็นต้นไป โดยเป็นการลดจากอัตราเดิมที่เป็นประเด็น สอดคล้องกับที่ผู้เขียนได้เข้าไปร่วมงานสัมมนาของคณะอนุกรรมาธิการการเงิน การคลังฯ สมาชิกวุฒิสภาที่ศึกษาเรื่องกฎหมาย การประกอบธุรกิจบัตรเครดิต ที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อช่วงต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีการระบุเรื่องปัญหาไว้น่าสนใจคือ
 
1. การขายบัตรเครดิตที่มีการใช้กิจกรรมการตลาด การแจกของจูงใจให้สมัครบัตร การผูกพ่วงบริการอื่นๆ เข้าไปกับการสมัครบัตรเครดิตโดยที่ผู้สมัครได้ข้อมูลไม่ครบ
 
2. การติดตามหนี้สินที่อาจมีการกระทำที่ไม่เหมาะสม ค่าใช้จ่ายในการคิดกับลูกค้ามีอัตราที่สูง ไม่มีการอธิบาย มีการคิดเป็นรายครั้งไม่ใช่รายงวด
 
3. การคิดอัตราดอกเบี้ยกรณีกดเงินสดล่วงหน้ามาใช้ หรือกรณีการจ่ายขั้นต่ำ

อย่างไรก็ดี ผู้เขียนเห็นว่าการปรับลดค่าธรรมเนียมลงมาในครั้งนี้ หากผู้ที่ใช้บัตร ใช้ครบใช้ตรงตามกำหนดเวลา ทำตามสัญญาจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพราะไม่ต้องจ่ายค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ และการที่เราจะมีค่าใช้จ่ายในส่วนนี้มาก มันสะท้อนความมีวินัยทางการเงินของเรานั่นเอง อย่าลืมว่าค่าใช้จ่ายที่เราไม่ต้องจ่ายมันคือรายได้ของเรานั่นเอง ข่าวเพิ่มเติมคือชมรมธุรกิจบัตรเครดิตได้แจ้งไปยังชมรมสินเชื่อส่วนบุคคลถึงเรื่องดังกล่าว ซึ่งคาดว่าจะได้ผลตอบรับในแนวทางเดียวกัน สำหรับความเห็นผู้บริหาระดับสูงท่านหนึ่งระบุว่า
 
.......ธนาคารมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการติดตามหนี้ในอัตรา 250 บาท อัตราเดียว และกำลังประเมินว่าจะลดในอัตราเท่าไหร่ คาดว่าจะปรับลดได้ภายในวันที่ 1 สิงหาคม หรือ 1 กันยายน ปีนี้ การปรับลดค่าธรรมเนียมในส่วนนี้มองว่า
 
ประการที่หนึ่ง จะไม่เป็นการกระตุ้นให้มีการชำระล่าช้าเกิดขึ้น แต่เป็นการลดค่าใช้จ่ายให้กับลูกค้า 
 
ประการที่สอง การที่ธนาคารลดค่าธรรมเนียมหากมีการชำระล่าช้าแต่ระบบการติดตามหนี้ยังเป็นไปตามปกติ 
 
ประการที่สาม ถ้าลูกค้าชำระล่าช้าจริง แม้มีค่าใช้จ่ายลดลง แต่ผลเสียก็จะมีนะเนื่องจากจะกระทบต่อประวัติในการชำระเงินของลูกค้าเองเพราะธนาคารต้องรายงานตามความจริง

ทางที่ดีอย่าค้างครับ สัญญาต้องเป็นสัญญา เป็นหนี้ก็ใช้หนี้ ใช้ให้ครบ ใช้ให้ตรงเวลาครับ
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 31 ก.ค. 2556 เวลา : 01:08:50
26-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 26, 2024, 4:29 am