แบงก์-นอนแบงก์
"เมืองไทยประกันชีวิต" ขึ้นชั้นผู้นำการตลาดโซเชียลมีเดีย เตรียมต่อยอดพัฒนาโมเดลขายประกันแบบใหม่ ส่งข้อมูลผ่านแอพลิเคชั่น


เมืองไทยประกันชีวิต ย้ำผู้นำการตลาดโซเชียลมีเดีย ชูภาพช่องทางสื่อสาร-ให้ข้อมูล เผยยอดสมาชิก Muang Thai Life LINE Official Account ทะลุ 7.3 ล้านคน ยอดดาวน์โหลด sticker ชุดที่ 3 สูงถึง 1.5 ล้านคนภายในวันแรก ตอบโจทย์โดนใจลูกค้ายุคดิจิตอล เล็งต่อยอดพัฒนาโมเดลขายประกันแบบใหม่ ส่งข้อมูลผ่านแอพลิเคชั่น

นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด เปิดเผยถึงความสำเร็จในการทำการตลาดผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียยอดฮิตอย่าง LINE Application ซึ่งเมื่อเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา Muang Thai Life LINE Official Account มียอดสมาชิกทะลุ 7.3 ล้านคน ถือว่ามีจำนวนสูงสุดเป็นอันดับ 1 ในประเทศไทย รวมถึงการดาวน์โหลด sticker ชุดล่าสุดซึ่งเป็นชุดที่ 3 แล้วนั้น ก็มียอดดาวน์โหลดสูงถึง 1.5 ล้านคนภายในวันแรก

"เราใช้ LINE เป็นช่องทางในการสื่สารกับลูกค้ามากกว่า ไม่ได้พูดเรื่องขายประกันเลย อาจจะมีอัพเดทเรื่องประกันชีวิตบ้าง แต่เน้นเป็นการให้ข้อมูลออกไป ถ้าใครสนใจก็อาจจะไปต่อยอดได้ในการขายผ่านช่องทางอื่นๆ มากกว่า ตามไลฟ์สไตล์ที่ลูกค้าสะดวก"

นอกจาก LINE แล้ว บริษัทยังใช้สังคมออนไลน์อย่าง Facebook, Twitter และ Instagram ตลอดเวลา เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้บริการแก่ลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมาย และเข้ากับไลฟ์สไตล์ยุคดิจิตอล รวมถึงเป็นช่องทางให้ลูกค้าติดต่อเข้าร่วมกิจกรรมกับบริษัท และสามารถเป็นช่องทางรับฟังความคิดเห็น ความต้องการของลูกค้า เพื่อมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ และบริการให้ตรงกับกลุ่มลูกค้าต่อไปในอนาคตด้วย

เขากล่าวอีกว่า ขณะนี้ บริษัทอยู่ในระหว่างเตรียมใช้แอพลิเคชั่นในแท็บเล็ต เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขายให้รวดเร็วขึ้นซึ่งในปีนี้ก็น่าจะได้เห็นเครื่องมือการขายแบบใหม่ดังกล่าวที่สามารถนำเสนอแบบประกันแล้วส่งข้อมูลเข้ามาพิจารณารับประกันผ่านระบบได้ทันที

นอกจากนี้ ในฐานะนายกสมาคมประกันชีวิตไทย นายสาระยังกล่าวด้วยว่า กำลังเร่งดำเนินการเรื่องนี้โดยหารือกับทั้งบริษัทประกันชีวิต และสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เพื่อให้กฎเกณฑ์ต่างๆ สามารถรองรับกระบวนการขายลักษณะนี้ได้ ทั้งในเรื่องผลิตภัณฑ์ ข้อความการนำเสนอขาย เอกสารต่างๆ เป็นต้น ซึ่งทางสมาคมก็มีทีมงานด้านไอทีที่เตรียมศึกษาเรื่องนี้แล้ว

"ในทางปฏิบัติแล้ว ตอนนี้ความสามารถทางเทคโนโลยีสามารถทำได้แล้ว โดยเฉพาะการทำลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ แต่ในทางกฎหมายและระเบียบปฏิบัติ รวมถึงเรื่องรูปแบบสินค้าต่างๆ ก็ต้องไปดูลงลึกในรายละเอียดอีกว่าจะให้สอดคล้องกันได้อย่างไร แต่ยอมรับว่าเห็นภาพของช่องทางบริการนี้น่าจะเป็นอีกช่องทางสำหรับอนาคต" นายสาระกล่าว


 


LastUpdate 09/08/2556 12:13:18 โดย : Admin
20-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 20, 2024, 1:07 pm