พฤกษา เรียลเอสเตท ประกาศปรับราคาบ้าน 4% หลังทนแบกภาระต้นทุนพุ่งไม่ไหว ทั้งวัสดุก่อสร้าง และแรงงาน เผยครึ่งปีแรกกำไรเพิ่ม 33% มั่นใจปีนี้รายได้ทะลุ 40,000 ล้านบาท
นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PS เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทมีแผนจะปรับขึ้นราคาบ้านเฉลี่ย 4% เนื่องจากต้นทุนสูงการก่อสร้างสูงขึ้นทุกด้านทั้งแรงงาน วัสดุก่อสร้าง แต่เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ซื้อมากนัก เพราะเป็นการปรับขึ้นตามภาวะต้นทุนที่แท้จริง
ขณะเดียวกัน ก็มีแผนที่จะขยายโรงงานผลิตวัสดุก่อสร้างสำเร็จรูป (พรีแฟบ) อีก 3 แห่ง มูลค่าลงทุน 2,500 ล้านบาท จากปัจจุบันที่มีอยู่แล้ว 5 แห่ง ซึ่งจะทำให้มีกำลังการผลิตบ้านเดี่ยวเพิ่มขึ้นจากเดือนละ 650 หลังเป็น 1,100 หลังต่อเดือน รองรับการก่อสร้างไปได้อีกอย่างน้อย 3 ปี และจะเพิ่มแรงงานอีก 10% จากปัจจุบันที่มีอยู่ 20,000 คน โดยเป็นต่างด้าวถึง 70% ที่เหลือเป็นคนไทย 30%
นอกจากนี้ จะปรับเพิ่มเป้าหมายรายได้ในปีนี้ใหม่ จากเดิมที่วางไว้ 35,000 ล้านบาท เป็น 40,000 ล้านบาท และยังมั่นใจว่าจะทำได้มากกว่านั้น เพราะครึ่งปีที่ผ่านมามียอดขายสูงถึง 22,670 ล้านบาท คิดเป็น 64% ของเป้าหมายเดิมแล้ว ขณะเดียวกันมีรายได้สูงถึง 15,336 ล้านบาท เติบโตขึ้น 33.9% มีกำไร 2,182 ล้านบาท เติบโตขึ้น 33% เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปีที่ผ่านมา ที่มีกำไรเพียง 1,635 ล้านบาท
สำหรับแผนการลงทุนนั้น บริษัทตั้งเป้าจะเปิดโครงการใหม่ 78 โครงการ ได้เปิดโครงการในครึ่งปีแรกไปแล้ว 33 โครงการ มูลค่าโครงการประมาณ 32,000 ล้านบาท เป็นโครงการในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล 30 โครงการ และโครงการในพื้นที่ต่างจังหวัด 3 โครงการ แบ่งเป็นทาวน์เฮาส์ 25 โครงการ บ้านเดี่ยว 2 โครงการ และคอนโดมิเนียม 6 โครงการ สำหรับในช่วงครึ่งปีหลังจะเปิดอีก 45 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 23,000 ล้านบาท
ปัจจุบัน บริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดด้านยอดขาย 13% เพิ่มขึ้นจาก 9% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา จึงมั่นใจว่าการเติบโตของบริษัทจะยังคงเติบโตได้มากกว่าปีละ 25% เหมือนเช่นในอดีต 3-4 ปี ที่ผ่านมา
สำหรับภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2556 จะมีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องประมาณ 7-10% โดยมีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ประมาณ 325,771 ล้านบาท แบ่งเป็น ทาวน์เฮาส์ 51,448 ล้านบาท บ้านเดี่ยว 77,910 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 196,413 ล้านบาท
ด้าน นายเลอศักดิ์ จุลเทศ รองประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้อำนวยการ กล่าวว่า สำหรับปัจจัยที่น่ากังวลในครึ่งปีหลัง ไม่มีอะไรที่จะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งในภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจในประเทศก็จะไม่ส่งผลกระทบ เนื่องจากอัตราจีดีพีที่เติบโต 4-4.5% นั้นอยู่ในระดับที่เหมาะสม ซึ่งปัญหาเศรษฐกิจเป็นการชะลอทั้งโลก อาจจะกระทบกับอุตสาหกรรมอื่นบ้าง แต่จะไม่กระทบกับตลาดอสังหาริมทรัพย์ เพราะยังมีความต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงอีกมาก และมองว่าปีนี้ภาพรวมอสังหาริมทรัพย์จะเติบโต 7-10%
ส่วนปัญหาการเมืองอาจจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจบ้าง แต่เชื่อว่าเป็นระยะสั้นเท่านั้น ซึ่งโครงการต่าง ๆ ของบริษัทจะเดินหน้าต่อไปตามแผนที่วางไว้
.jpg)
ข่าวเด่น