วีซ่าเร่งขยายตลาดเครื่องรับบัตร เพิ่มช่องทางดันยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเพิ่ม งัดเทคโนโลยีใหม่ แปลงสมาร์ทโฟน-แท็บเล็ตเป็นจุดรับบัตร ประเดิมแล้ว 2-3 พันเครื่อง ลุยจับมือพาร์ทเนอร์ทุกราย
นายสมบูรณ์ ครบธีรนนท์ ผู้จัดการบริษัท วีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล ประจำประเทศพม่าและไทย เปิดเผยว่า บริษัทต้องการขยายฐานจุดรับบัตรเครดิตให้เพิ่มขึ้นเพื่อสามารถรองรับการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตได้กว้างขึ้น จากปัจจุบันที่มีร้านค้ารับบัตรได้ประมาณ 2.5 แสนร้านค้า จากปริมาณร้านค้าที่จดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์กว่า 3 ล้านร้านค้า ฉะนั้น จึงคิดเป็นสัดส่วนไม่ถึง 10% เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ในการขยายร้านค้ารับบัตรนั้น จะขึ้นอยู่กับธนาคารและสถาบันการเงินต่างๆ ว่าจะมีนโยบายการขยายตลาดเพื่อเข้าไปเครื่องรับบัตรเพิ่มขึ้นอย่างไร เพราะโดยทางปฏิบัติแล้วจะเป็นสถาบันการเงินที่เข้าไปจับมือกับร้านค้าเพื่อมอบสิทธิประโยชน์ให้แก่ลูกค้าบัตรเครดิตของตนเอง
นอกจากการขยายจุดรับบัตรด้วยเครื่องแบบเดิมที่เรียกว่า EDC แล้ว นายสมบูรณ์กล่าวอีกว่า วีซ่าได้พยายามขยายบริการระบบชำระเงินผ่านบัตรเครดิตด้วยอุปกรณ์แบบใหม่ที่สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต เพื่อเปลี่ยนให้เป็นเครื่องรับชำระเงินผ่านบัตรเครดิตหรือที่เรียกว่า mPOS (Mobile Point-of-Sale) ซึ่งเพิ่มความสะดวกในการใช้งานด้านชำระเงินได้สะดวกขึ้น ซึ่งที่ผ่านมามีธนาคารกรุงศรีอยุธยา และธนาคารกสิกรไทยได้เริ่มให้บริการจุดรับบัตรผ่าน mPOS แล้ว รวมถึงล่าสุดมี บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) เข้ามาเพิ่มเป็นรายล่าสุด
"เราก็สนับสนุนให้ระบบ mPOS เข้ามาเสริมในการเพิ่มฐานจุดรับบัตรเครดิตให้มากขึ้น เพราะเป็นอีกหนึ่งโมเดลที่จะช่วยให้ธุรกรรมการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตสามารถทำได้หลากหลายขึ้น ครอบคลุมการใช้จ่ายหมวดต่างๆ ได้มากขึ้น ซึ่งกลุ่มธุรกิจที่มีโอกาสนำระบบนี้ไปใช้ได้ทั้งธุรกิจที่มีเครือข่าย เช่นประกันภัย ขายตรง และธุรกิจที่มีระบบจัดส่งถึงบ้านหรือเดลิเวอรี่ ปัจจุบันมีจุดรับบัตรด้วยระบบนี้ประมาณ 2-3 พันรายแล้ว ตอนนี้ยังเป็นช่วงเริ่มต้น ต่อไปน่าจะขยายตัวได้เร็วขึ้น ทั้งยังเชื่อว่าสถาบันการเงินรายอื่นๆ ในธุรกิจนี้ก็น่าจะให้ความสนใจบริการลักษณะนี้ตามมาเช่นกัน ทางวีซ่าก็พร้อมสนับสนุน" นายสมบูรณ์กล่าว
ด้าน นายยาซูฮิโกะ คอนโดะ กรรมการผู้จัดการ อิออนฯ กล่าวว่า บริษัทได้ร่วมกับวีซ่า พัฒนาระบบ AEON Easy Pay เพื่อเพิ่มความสะดวกสำหรับธุรกิจพันธมิตรต่างๆ รวมถึงธุรกิจในเครือ ซึ่งเริ่มต้นด้วยการใช้บริษัท อิิออน อินชัวรันส์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด ที่เป็นนายหน้าธุรกิจประกันภัยสามารถให้บริการลูกค้าในการนำเสนอแบบประกันต่างๆ และสามารถรับชำระเงินค่าเบี้ยประกันผ่านบัตรเครดิตได้ทันที
"เรายังมีแผนจะขยายระบบ AEON Easy Pay ไปพันธมิตรทางธุรกิจรายอื่นๆ ของอิออนด้วย ทั้งกลุ่มธุรกิจประกันภัย กลุ่มธุรกิจบริการด้านขนส่งสินค้า รวมถึงร้านค้าสมาชิกต่างๆ ของอิออนที่มีอยู่กว่า 15,000 รายในปัจจุบัน และจะเพิ่มขึ้นเป็น 20,000 รายในปีหน้าอีกด้วย ซึ่งตอบโจทย์ความสะดวกสบายและมีความปลอดภัยในการทำธุรกรรมการเงิน ทั้งยังสอดคล้องกับแนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันที่มีอัตราใช้งานสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตมากขึ้น รวมถึงการช้อปปิ้งออนไลน์ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นด้วย ก็จำเป็นต้องมีระบบชำระเงินที่สะดวกสบายมารองรับเช่นกัน" นายคอนโดะกล่าว
.jpg)
ข่าวเด่น