เดือนสิงหาคมที่กำลังจะผ่านพ้นไปในปี 2013 นี้ ถือเป็นช่วงเวลาที่ "ชาห์รุกห์ ข่าน" ซูเปอร์สตาร์ชื่อดังของอินเดีย วุ่นเป็นพิเศษ เพราะนอกจากจะต้องปฏิศาสนกิจในช่วงเดือนรอมฎอน เดือนแห่งการถือศีลอดของชาวมุสลิมแล้ว  เขายังต้องทำหน้าที่พ่อที่ดี เมื่ออับราม ลูกคนที่สามของเขาเพิ่งจะลืมตาดูโลก รวมทั้งยังต้องเดินสายโปโปรโมทภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของเขาคือ "Chennai Express"  

ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้หลังจากลงโรงฉายได้ไม่นานก็กอบโกยรายได้ไปไม่น้อยทีเดียว  ไม่เว้นแม้แต่ในประเทศคู่รักคู่แค้นของอินเดียอย่าง ปากีสถานที่กวาดไปกว่า  40 ล้านรูปี ปากีสถาน  ทำลายสถิติภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของปากีสถานได้ราบคาบ

“ผมไม่แปลกใจเลยครับที่  Chennai Express จะทำรายได้มากมาย เพราะตอนนี้รัฐบาลปากีสถานยินยอมให้ฉายภาพยนตร์อินเดียในประเทศได้แล้ว “  โมฮัมเหม็ด  ชาดรี  โฆษกของ IMGC ซึ่งเป็นบริษัทนำภาพยนตร์อินเดียเข้ามาฉายในปากีสถานกล่าว

ชาดรี กล่าวเสริมว่า แม้ในกรุงการาจี เมืองหลวงของปากีสถาน จะมีโรงภาพยนตร์ที่ฉายเรื่อง Chennai Express  เพียงแค่ 8 โรง แต่กลับทำรายได้มากมาย ซึ่งหากจะให้ระบุจำนวนรายได้ที่แน่นอนนั้น ยังทำไม่ได้ แต่แน่นอนว่าเกิน 40 ล้านรูปี ปากีสถาน แน่นอน

“ผมไม่สามารถระบุตัวเลขรายได้ของ Chennai Express ที่แน่นอนได้ แต่จากการประมาณรายได้จากการขายตั๋วหนังนับตั้งแต่เข้าโรงฉาย แน่นอนครับว่าเกิน  40 ล้านรูปี ปากีสถานแล้ว  ซึ่งเดี๋ยวคงจะประกาศรายได้ที่แน่นอนได้ครับ”

และด้วยอุปสงค์ของตั๋วชมภาพยนตร์เรื่องนี้ที่มีมาก  เจ้าของโรงภาพยนตร์หลายแห่งเลยถือโอกาสขึ้นราคาค่าตั๋วสำหรับเรื่อง Chennai Express และในบางแห่ง ก็เพิ่มรอบฉายภาพยนตร์เรื่องนี้  5-6 รอบต่อวัน

ซึ่งถ้าวิเคราะห์ว่าเพราะอะไร Chennai Express ถึงทำรายได้มากมายในปากีสถาน ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะว่าชาวปากีสถานส่วนใหญ่ชื่นชอบการแสดงของ ชาห์รุกห์ ข่าน  อยู่แล้ว  และยอดขายในปากีสถานก็ดีกว่าหนังปากีสถานบางเรื่อง และเหนือกว่าหนังฮอลลีวูดฟอร์มยักษ์อย่าง Wolverine เสียอีก 

และอีกเหตุผล  นอกจากที่ชาวปากีสถานชอบ ข่าน แล้ว  คือเนื้อเรื่องที่เข้าใจง่ายและสนุกสนานก็ทำให้  Channai Express ได้รับความนิยมสูง  และเหล่านักวิจารณ์ภาพยนตร์ของปากีสถานส่วนใหญ่ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ว่าเยี่ยมยอด

สำหรับผลตอบรับที่ดีขนาดนี้  ชารุกห์ ข่าน คงยิ้มแทบไม่หุบ ส่วนคนไทยอย่างเราจะมีโอกาสได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้หรือเปล่า คงต้องลุ้นเอาว่าจะมีใครซื้อลิขสิทธิ์มาผลิตเป็นดีวีดีหรือไม่ แต่ถ้าอยากดูในโรง สงสัยจะยากเพราะเมืองไทยไม่ใช่ตลาดของหนังอินเดียเลย