หลังจากก่อนหน้านี้ มีเสียงบ่นว่า ทีม ”ปืนใหญ่”อาร์เซนอล ไม่หาใครมาเสริมทัพบ้างเลย แต่ในที่สุดก็มีเซอร์ไพร์ส เมื่ออาร์เซนอลประสบความสำเร็จในการคว้าตัว "เมซุต โอซิล" กองกลางทีมชาติเยอรมนี วัย 24 ปี ของเรอัล มาดริด จากสเปน มาร่วมทัพทันกำหนดเส้นตายตลาดซื้อขายนักเตะช่วงซัมเมอร์ที่ปิดตัวลงไปเมื่อวันที่ 2 กันยายน ที่ผ่านมา                                                                                                                                                                            

"โอซิล" เซ็นสัญญาค้าแข้งในถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เป็นระยะเวลา 5 ปี ด้วยค่าตัวมูลค่าสูงสุดเป็นสถิติสโมสรแห่งกรุงลอนดอนที่ 42.4 ล้านปอนด์ ทำลายสถิติค่าตัวของ "อังเดร อาร์ชาวิน" กองหน้าทีมชาติรัสเซีย จากเซนิต เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ที่เคยย้ายเข้ามาด้วยมูลค่า 15 ล้านปอนด์ เมื่อปี 2009 ถึง 27.4 ล้านปอนด์

“ผมตื่นเต้นมากครับที่ได้มาร่วมทีมอาร์เซนอล และตั้งตารอที่จะลงเล่นในเกมพรีเมียร์ลีก ผมเชื่อว่าลีกอังกฤษจะช่วยพัฒนาทักษะความสามารถด้านการเล่นฟุตบอลได้มากขึ้น และผมดีใจที่จะได้ร่วมงานกับยอดกุนซืออย่างอาร์แซน เวงเกอร์   ยิ่งไปกว่านั้นสโมสรยังมีเป้าหมายในอนาคตที่ชัดเจน ทะเยอทะยาน และมุ่งมั่นที่จะประสบความสำเร็จอย่างมาก ทำให้ผมอยากมีส่วนร่วมกับการฝ่าฟันเพื่อไปถึงเป้าหมายเหล่านั้น” โอซิลกล่าว

โอซิลย้ายออกจากถิ่นซานติอาโก เบอร์นาบิว ของเรอัล มาดริด  อย่างกะทันหัน หลัง "เรอัล มาดริด"  คว้าตัว "แกเร็ธ เบล" ปีกตัวเก่งของ "ทอตแนม ฮอตสเปอร์"มาร่วมทัพสำเร็จในช่วงการเปิดตลาดซื้อขายนักเตะวันสุดท้าย ด้วยค่าตัวเป็นสถิติโลก 85.3 ล้านปอนด์

“โอซิลเป็นนักเตะยอดเยี่ยมที่สุดคนหนึ่ง ซึ่งได้พิสูจน์ตัวเองมามากพอกับทั้งทีมสโมสรหรือในระดับทีมชาติ ทุกคนต่างรับรู้ว่าเราให้การยอมรับนับถือในความสามารถและจับตามองเขามาโดยตลอด เขาถือเป็นนักเตะที่ผมต้องการมาร่วมทีมอย่างแท้จริง ผมพูดมาตลอดช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาว่าเราทำงานกันอย่างหนักในการหานักเตะคุณภาพระดับโลกมาเสริมทัพ ผมพยายามทาบทามนักเตะหลายรายจากหลายสโมสรทั่วโลก และได้ตัดสินใจอย่างดีที่สุดแล้วเพื่อสโมสรที่ผมทุ่มเททำงานให้อย่างเต็มที่” เวงเกอร์กล่าว                                                              

จากนี้ไป คงต้องดูว่า "โอซิล"จะทำผลงานได้ดีแค่ไหน รวมถึง "อาร์เซนอล"จะคว้าแชมป์ได้ดั่งที่แฟนๆต้องการหรือเปล่า