อสังหาริมทรัพย์
"โนเบิล" ทุ่ม 2,800 ล้านบาท ยึดรัชดาภิเษกศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ ลงทุน "โนเบิล รีวอลฟ์ รัชดา 2"



 

 

"โนเบิล" ลุยคอนโดใหม่ย่านศูนย์ธุรกิจแห่งใหม่ ห่างรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีศูนย์วัฒนธรรมเพียง 80 เมตร ชูคอนเซ็ปต์ "ไข่แดงรัชดา" ตั้งเป้าปิดยอดขายในวันเดียว 2,800 ล้านบาท


นายกิตติ ธนากิจอำนวย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บริษัทโนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดตัวคอนโดมิเนียมในย่านศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ของกรุงเทพมหานคร (นิวซีบีดี) บริเวณพระราม 9 บนถนนรัชดาภิเษก  ชื่อโครงการ "โนเบิล รีวอลฟ์ รัชดา 2" เป็นคอนโดมิเนียมสูง 42 ชั้น จำนวน 755 ยูนิต ขนาด 22-50 ตารางเมตร ราคายูนิตละ 2.6-7.5 ล้านบาท หรือตารางเมตรละกว่า 130,000 บาท รวมมูลค่าโครงการ 2,800 ล้านบาท

โครงการดังกล่าว พัฒนาขึ้นภายใต้คอนเซปต์ “ไข่แดง รัชดา ไลฟ์สไตล์ใหม่ใจกลางรัชดา...ย่านธุรกิจล่าสุด ครบทุกฟังก์ชั่นชีวิต” โดยรูปแบบการพัฒนาโครงการยังคงเน้นยูนิตขนาดเล็กด้วยแปลนห้องที่ลงตัว แต่สามารถตอบสนองความต้องการของชีวิตกับประโยชน์ใช้สอยของพื้นที่ได้อย่างลงตัว เพื่อให้คนรุ่นใหม่มีโอกาสเป็นเจ้าของ และยังสนุกกับการใช้ชีวิตเมืองได้อย่างเต็มที่ ภายใต้การใช้ชีวิตแนวใหม่ในแบบ Revolve Living Concept

ทั้งนี้ จะเปิดลงทะเบียนรับจองสิทธิ์ตั้งแต่วันที่ 14-26 กันยายนนี้ และจะเปิดจองวันที่ 29 กันยายนนี้ ที่โรงแรม ดิโอกุระ เพรสทีจ ซึ่งคาดว่าจะขายหมดภายในวันแรกวันเดียวเช่นเดียวกับโครงการแรก เพราะมั่นใจในทำเลที่เป็นไข่แดงในย่านนิวซีบีดี

โครงการ โนเบิล รีวอลฟ์ รัชดา 2 เป็นคอนโดมิเนียมที่ตอบโจทย์การขยายตัวของประชากรในเมือง โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ให้สามารถเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัย และใช้ชีวิตตามวิถีคนเมืองได้อย่างลงตัวบนทำเลที่มีศักยภาพในย่านรัชดาภิเษก ซึ่งกำลังจะกลายเป็นย่านธุรกิจการค้า (ซีบีดี) แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ เพราะในอนาคตอันใกล้นี้จะมีสำนักงานเกรด A เกิดขึ้น เพื่อรองรับการเติบโตของเมืองที่กำลังขยายตัว เช่น อาคารเอไอเอ แคปปิตอล เซ็นเตอร์, อาคารจีแลนด์ ทาวเวอร์ และอาคารสำนักงานใหญ่ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รวมเป็นพื้นที่สำนักงานทั้งหมดกว่า 900,000 ตารางเมตร

นอกจากนี้ รัชดาภิเษกยังเป็นแหล่งธุรกิจที่เกิดการลงทุนทั้งในด้านอาคารสำนักงาน โรงแรม ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร และศูนย์ความบันเทิง ที่รองรับไลฟ์สไตล์อันหลากหลาย รวมถึงการคมนาคมที่สะดวก มีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ที่เชื่อมต่อกับย่านธุรกิจสำคัญๆ เรียกได้ว่าทำเลทองผืนนี้จะกลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดทั้งในแง่ของการซื้อเพื่อการลงทุน หรือซื้อเพื่ออยู่อาศัยอย่างแน่นอน
 

นายกิตติกล่าวอีกว่า ในช่วงสิ้นปีนี้ บริษัทมีแผนที่จะเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท อีก 1 โครงการ รวมทั้งปีนี้จะเปิดเพียง 4 โครงการเท่านั้น และคาดว่าจะทำให้ทั้งปีนี้บริษัทมียอดขายเติบโตขึ้น 100% หากเทียบกับจากปีก่อนที่มียอดขาย 3,500 ล้านบาท เป็น 7,500 ล้านบาทภายในสิ้นปีนี้อย่างแน่นอน เพราะในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา มียอดขายแล้วกว่า 3,500 ล้านบาท อีกทั้งบริษัทจับกลุ่มลูกค้าวัยทำงานระดับบนที่มีเงินเดือนประจำเดือนละ 30,000 บาทขึ้นไป ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวแต่อย่างใด
 
"เรายังมั่นใจในภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่มองว่า ปีนี้ยังเติบโตได้ 10-20% แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจจะชะลอตัวลงก็ตาม เนื่องจากยังมีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยอย่างแท้จริงอยู่มาก อีกทั้งมีนักลงทุนต่างชาติเดินทางเข้าออกประเทศไทยจำนวนมาก จากการเตรียมตัวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน หรือเออีซี ที่ทำให้นักลงทุนหันมาลงทุนในอสังหาริมทรัพย์มากขึ้นกว่าลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ"นายกิตติกล่าว

สำหรับกลยุทธ์การตลาดในช่วงที่เหลือของปีนี้ จะเน้นการประชาสัมพันธ์สื่อออนไลน์ เพื่อให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่ โดยมีงบการประชาสัมพันธ์ออนไลน์สูงถึง 30% ของงบการตลาดทั้งหมด และโดยเฉพาะโครงการดังกล่าวนี้ใช้สูงถึง 30 ล้านบาท



LastUpdate 06/09/2556 19:06:50 โดย : Admin
25-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 25, 2024, 8:15 am