แอลพีเอ็น เปิดชุมชนเมืองน่าอยู่ ลุมพินี ทาวน์ชิป มูลค่าโครงการ 7,000 ล้านบาท ราคาเฉลี่ย 8-9 แสนบาท เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ เผยโกยยอดขายช่วง 8 เดือน 18,000 ล้านบาท มั่นใจยอดขายปีนี้ทะลุเป้า แย้มแผนช่วง 2 เดือนสุดท้ายเปิดโครงการใหม่อีก 5,800 ล้านบาท 

นายทิฆัมพร เปล่งศรีสุข ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดตัวโครงการลุมพินี ทาวน์ชิป รังสิต –คลอง 1 บนพื้นที่เกือบ 100 ไร่ เป็นคอนโดมิเนียมโลว์ไรท์ สูง 8 ชั้น จำนวน 50 อาคาร รวมมากกว่า 14,000 ยูนิต รวมมูลค่าโครงการกว่า 7,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการที่พัฒนาภายใต้แนวคิดชุมชนเมือง โดยจะมีทั้งในส่วนที่พักอาศัย 85 ไร่ ที่เหลือเป็นส่วนสันทนาการ คอมมูนิตี้มอลล์ ที่ร่วมมือกับบริษัทสยามฟิวเจอร์ ดีเวลลอปเมนท์ ร้านสะดวกซื้อเซเว่น-อีเลฟเว่น เป็นต้น มีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 639,000-900,000 บาทเศษ หรือเฉลี่ยที่ 800,000-900,000 บาท ซึ่งปีนี้จะเปิดจองวันที่ 12 ต.ค.นี้ โดยตั้งเป้าหมายยอดขายวันแรก 4,000 ยูนิต จาก 14 อาคาร รวมมูลค่า 2,800 ล้านบาท

“เชื่อว่าเมื่อเปิดให้จอง จะหมดภายในเวลารวดเร็ว เพราะว่าเป็นที่อยู่อาศัยราคาถูกในทำเลที่ดีมาก และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันทุกด้าน เหมาะกับกลุ่มคนวัยทำงาน และกลุ่มที่ต้องการขยายครอบครัว คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมโอนปลายปี 2558”
 

นายทิฆัมพรกล่าวว่า ปีนี้แอลพีเอ็นวางเป้ายหมายยอดขายไว้ที่ 20,000 ล้านบาท ซึ่งช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา ทำยอดขายได้แล้ว 18,000 ล้านบาท และคาดว่าตลอดทั้งปียอดขายจะทะลุเป้าที่วางไว้ ขณะที่เป้าหมายรายได้นั้นยังคงไว้ที่เดิมคือ 15,000 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายรอโอน( แบล็คล็อค) 8,000 ล้านบาท ที่จะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ และช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา ทำได้แล้ว 6,200 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มอีก 2 โครงการรวมมูลค่า 5,800 ล้านบาท จากโครงการดังกล่าว 2,800 ล้านบาทและโครงการ ลุมพินี สุขุมวิท 24 มูลค่า 3,000 ล้านบาท ขนาด 350 ยูนิต ส่วนปีหน้าคาดว่าจะเปิดโครงการใหม่อีก 5 โครงการ ขณะนี้มีที่ดินรอการพัฒนาทุกโครงการแล้ว ซึ่งกำลังพิจารณาว่าจะเปิดตัวช่วงไหนบ้าง เพื่อให้มีผลต่อการรับรู้รายได้ของบริษัทต่อไป โดยยังคงมีแนวคิดที่จะสร้างชุมชนเมืองน่าอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ 4 มุมเมือง โดยทำเลรามอินทรา ช่วงมีนบุรีเชื่อมต่อไปยังถนนสุวินทวงศ์ เป็นทำเลที่น่าสนใจที่จะพัฒนาเมืองขนาดใหญ่ได้

“แม้ว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวลง หรือขาดการกระตุ้นจากภาครัฐ ทำให้บรรยากาศการซื้อขายดูไม่สดใส แต่เชื่อว่าไม่ได้เลวร้ายกว่าที่เราเจอในปี 40 ซึ่งกลุ่มลูกค้าของแอลพีเอ็นยังมีกำลังซื้อสูงอยู่ และเชื่อว่าธุรกิจยังเดินหน้าต่อไปได้”นายทิฆัมพร กล่าว

สำหรับความกังวลเรื่องน้ำท่วม เพราะบริเวณรังสิตเป็นทำเลที่มีโอกาสถูกน้ำท่วมสูงนั้น นายทิฆัมพร กล่าวยอมรับว่า บริเวณดังกล่าวเกิดปัญหาน้ำท่วมขังบ่อยจริง แต่หากพิจารณาจากนโยบายป้องกันน้ำท่วมของรัฐบาลที่สร้างเขื่อนป้องกันน้ำท่วมตลอดแนวตั้งแต่ คลอง 1- คลอง 15 นั้น ก็เชื่อว่าจะแก้ปัญหาน้ำท่วมได้ ยกเว้นปริมาณน้ำสูงกว่าเขื่อน อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ป้องกันความเสี่ยงจากปัญหาน้ำท่วมด้วยการถมดินสูงกว่าถนนและยกระดับพื้นขึ้นมา ทำให้โครงการสูงกว่าถนนราว 80 เซ็นติเมตร อีกทั้งยังมั่นใจว่าไม่มีใครคิดทิ้งถิ่นฐานไปอยู่ในทำเลอื่น เพราะปัญหาน้ำท่วมอย่างแน่นอน