"อีเอ็มซี"จับมือ "แซงเคน" ตั้งบริษัทร่วมทุน เพิ่มศักยภาพสู่สากล พร้อมขยายเครือข่าย รอลุยรับงานหลังเปิด AEC ตั้งเป้ารายได้ปีหน้า 320 ล้านบาท
นายชนะชัย ลีนะบรรจง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีเอ็มซี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้ร่วมลงทุนกับบริษัทแซงเคน เซตซูบิ โคจโย ผู้ประกอบการด้านวิศวกรรมงานระบบชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น จั้ดตั้งบริษัทแซงเคน-อีเอ็มซี จำกัด โดยแซงเคนถือหุ้นใหญ่ ในสัดส่วน 49% อีเอ็มซีถือหุ้น 48% ส่วนเหลือเป็นนักลงทุนในประเทศ เพื่อรองรับการขยายตัวของตลาดงานด้านวิศวกรรม ซึ่งเชื่อว่าจะขยายตัวอย่างมาก หลังจากเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 รวมทั้งลูกค้าในประเทศ โดยเฉพาะลูกค้าญี่ปุ่นที่อยู่ในไทยที่จะทำให้มีโอกาสขยายงานวิศวกรรมงานระบบไปสู่กลุ่มลูกค้าชาวญี่ปุ่น และขยายฐานไปสู่ประเทศสมาชิกอื่น ๆ ด้วย
“การจัดตั้งบริษัทร่วมทุนครั้งนี้ เป็นการนำจุดแข็งของทั้ง 2 บริษัทมาผนึกกำลัง เพื่อเพิ่มศักยภาพของบริษัทให้ก้าวสู่มาตรฐานระดับสากล อีกทั้งขยายฐานลูกค้าญี่ปุ่นทีีดำเนินธุรกิจอยู่ในประเทศไทย พร้อมทั้งเพิ่มมูลค่าแก่ผู้ถือหุ้น"
โดยวางเป้าหมายการรับงานตั้งแต่ปลายปีนี้ และจะมีรายได้ในปีหน้าประมาณ 320 ล้านบาท หรือราว 1,000 ล้านเยน โดยเป็นงานเกี่ยวกับวิศวกรรมระบบ ซึ่งปัจจุบันแซงเคน-อีเอ็มซีกำลังเจรจางานปรับปรุงระบบปรับอากาศภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และงานก่อสร้างตึกขนาดใหญ่ 2 งานของภาคราชการ
สำหรับนโยบายการดำเนินงานนั้น บริษัทจะเน้นการรับงานที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูง งานเกี่ยวกับงานระบบ ในส่วนของอาคารประหยัดพลังงาน (Green Building) ที่ปัจจุบันมีความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และมองโอกาสที่จะไปรับกลุ่มงานระบบในโรงพยาบาล ที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายให้ไทยเป็นฮับ ใน AEC ทำให้มองเห็นถึงความต้องการที่เกิดขึ้นในอนาคต โดยงานที่บริษัทร่วมทุนเป็นงานที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดมากกว่า 2 เท่าของงานวิศวกรรมโยธา และแซงเคนเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยี ทำใหลูกค้ามีความเชื่อมั่นและเลือกให้บริษัทเป็นผู้ดำเนินงาน
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะขยายธุรกิจเข้าไปในพม่า เพราะมองเห็นแนวโน้มการเติบโตอย่างมาก เป็นโอกาสเข้ารับงานใหม่ ซึ่งในปัจจุบันภาคอุตสาหกรรมในพม่ามีอัตราการเติบโตมาก เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ AEC ในปี 2558
ข่าวเด่น