นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ เอสซีจี เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับเป้าหมายยอดขายปีนี้ลดลง จากเดิมที่ตั้งไว้ 437,000 ล้านบาท เหลือเพียง 435,000 ล้านบาท เนื่องจากค่าเงินในภูมิภาคค่อนข้างผันผวน ประกอบกับมีปัจจัยลบด้านน้ำท่วมมากดดันในช่วงไตรมาส 3 อีกทั้งไตรมาส 4 จะปิดโรงงานปิโตรเคมี ที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง เพื่อซ่อมบำรุงอีก 45 วัน 

อย่างไรก็ตาม เชื่อมั่นว่ากําไรจะยังเติบโตได้ดี เนื่องจากบริษัทมีการลดต้นทุนในหลายรายการ ทําให้มีอัตรากําไรที่ดีขึ้นโดยประเมินว่าในปีหน้ารายได้จากการขายจะเติบโตดีกว่าปีนี้ เนื่องจากจะมีโครงการก่อสร้างทั้งภาครัฐและเอกชนเป็นจํานวนมาก โดยในปีหน้าบริษัทจะมีกําลังการผลิตปูนซีเมนต์กว่า 28 ล้านตันจากปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 25 ล้านตัน ขณะที่ธุรกิจกระดาษเริ่มดีขึ้น รวมถึงธุรกิจปิโตรเคมี ที่มีแนวโน้มการฟื้นตัวชัดเจน

โดยปีนี้คาดว่าปริมาณการใช้ปูนซีเมนต์จะเติบโต 5-7% จากปีก่อน จากเดิมคาดว่าจะเติบโตถึง 7% ซึ่งช่วงครึ่งปีหลังปีนี้ ได้รับปัจจัยกดดันจากประเด็นน้ำท่วม ทำให้ภาคการลงทุนก่อสร้างต่าง ๆ ชะลอตัวลง แต่อย่างไรก็ตาม คาดว่าปีหน้าปริมาณความต้องการการใช้ปูนซีเมนต์จะเติบโตอย่างน้อย 4-5% จากปีนี้ โดยยังไม่รวมกับการก่อสร้างพื้นฐานของรัฐบาล 2 ล้านล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าหากโครงการดังกล่าวเริ่มดำเนินการอย่างชัดเจนแล้ว จะทำให้ปริมาณความต้องการใช้ปูนซีเมนต์มากกว่าเป้าหมายจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงตั้งงบลงทุนในช่วง 5 ปีข้างหน้า ตั้งแต่ปี 2557-2561 ไว้ที่ 210,000-250,000 ล้านบาท โดยจะใช้ปีละประมาณ 40,000-50,000 ล้านบาท ซึ่งจะเน้นโครงการลงทุนใน อาทิ โรงงานผลิตปูนซีเมนต์ในอินโดนีเซีย พม่า และกัมพูชา และโครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ในเวียดนาม รวมไปถึง การเข้าซื้อหรือควบรวมกิจการด้วย

ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างเจรจาควบรวมกิจการ 4-5 ราย โดยจะเน้นในกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งมีศึกษาธุรกิจกระดาษในประเทศอินโดนีเซียอยู่ ธุรกิจวัสดุก่อสร้างในประเทศเวียดนามด้วย โดยยังไม่ได้ข้อสรุปเรื่องระยะเวลา และเงินลงทุน

สำหรับผลประกอบการในไตรมาส 3 ปีนี้ มีรายได้จากการขาย 113,859 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 9 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามการเติบโตของทุกธุรกิจในเอสซีจี และเพิ่มขึ้นร้อยละ 7 จากไตรมาสก่อน มีกำไรสำหรับงวด 9,793 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 53 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากปริมาณการขายของธุรกิจเคมีภัณฑ์ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ปริมาณความต้องการปูนซีเมนต์ในประเทศเพิ่มสูงขึ้น และมีกำไรจากรายการที่ไม่เกิดขึ้นเป็นประจำ 1,701 ล้านบาท จากการปรับมูลค่าเงินลงทุนในบริษัทสยามซานิทารีแวร์ จำกัด และบริษัทสยามซานิทารีฟิตติ้งส์ จำกัด และจากการขายเงินลงทุนในบริษัทโตโต้ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ให้กับ TOTO Group

โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2556 มีรายได้จากการขาย 329,839 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามการเติบโตของทุกธุรกิจในเอสซีจี มีกำไรสำหรับงวด 28,513 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 71 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

SCG รับยอดขายปีนี้พลาดเป้า ประกาศหั่นเป้ายอดขายเหลือ 435,000 ล้านบาท หลังโดนสารพัดปัจจัยลบรุมเร้า ทั้งน้ำท่วม ค่าเงินผันผวน ปิดซ่อมโรงงานปิโตรเคมี ยันกำไรยังเติบโตดี เหตุลดต้นทุนการผลิตลง