หุ้นทอง
ตลท. ให้ SMPC พ้นเหตุอาจถูกเพิกถอน เริ่มกลับมาซื้อขายได้ 11 พ.ย.


ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)ให้หลักทรัพย์ของ บมจ.สหมิตรถังแก๊ส (SMPC) พ้นเหตุอาจถูกเพิกถอน โดยปลดเครื่องหมาย SP (Suspension) และ NC (Non-Compliance) รวมทั้งย้ายหลักทรัพย์  SMPC ออกจากกลุ่มบริษัทจดทะเบียนที่แก้ไขการดำเนินงานไม่ได้ตามกำหนด (Non- Performing Group: NPG) และอนุญาตให้ซื้อขายหลักทรัพย์ของ SMPC ในกลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอุตสาหกรรม หมวดอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ได้ตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน 2556 เป็นต้นไป
 
 
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2541 ตลาดหลักทรัพย์ฯ ประกาศให้ บมจ.สหมิตรถังแก๊ส (SMPC) เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนหลักทรัพย์และขึ้นเครื่องหมาย SP (Suspension) เพื่อห้ามการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของบริษัท เนื่องจากในปี 2538 ถึง 2540 บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิและมีมูลค่าตามบัญชีของสินทรัพย์ที่มีตัวตนสุทธิตามที่เปิดเผยในงบการเงินฉบับล่าสุดที่ผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีแล้วต่ำกว่าร้อยละ 50 ของทุนชำระแล้ว
 
ต่อมาในวันที่ 29 ตุลาคม 2544 ตลาดหลักทรัพย์ฯ อนุญาตให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของ SMPC ในหมวด REHABCO เนื่องจากบริษัทปรับโครงสร้างหนี้ได้มากกว่าร้อยละ 50 ของมูลหนี้ทั้งหมดและแผนฟื้นฟูกิจการของ SMPC ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัท อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2548 ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขึ้นเครื่องหมาย SP เพื่อห้ามการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของ SMPC เนื่องจาก SMPC นำส่งงบการเงินไตรมาสที่ 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2548 และปรากฏว่าบริษัทมีส่วนของผู้ถือหุ้นน้อยกว่าศูนย์ และตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม 2549 ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ถอนชื่อหลักทรัพย์ของ SMPC ออกจากกระดานซื้อขายและให้อยู่ในกลุ่มบริษัทจดทะเบียนที่แก้ไขการดำเนินงานไม่ได้ตามกำหนด (Non-Performing Group : NPG)
 
จากนั้น SMPC ได้ยื่นคำขอให้พ้นเหตุอาจถูกเพิกถอนและเปิดซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอุตสาหกรรม หมวดอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ โดยบริษัทได้ปรับปรุงฐานะการเงินและผลการดำเนินงานแล้วและแสดงให้เห็นว่าบริษัทดำเนินการเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลด้านต้นทุนต่อระบบโดยรวมในธุรกิจผลิตถังแก๊ส สำหรับบรรจุก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) และถังทนความดันแบบต่างๆและพัฒนาการบริการเพื่อสร้างความพึงพอใจต่อลูกค้าการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ทั้งปรับปรุงผลิตภัณฑ์เดิมและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่รวมทั้งขยายตลาดส่งออกไปยังประเทศใหม่เพิ่มเติม
 
บริษัทมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานเป็นเวลา 1 ปีก่อนยื่นคำขอ ซึ่งพิจารณาจากงบการเงินประจำปี 2555 เท่ากับ 175.99 ล้านบาท และมีส่วนของผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2555 เท่ากับ 373.70 ล้านบาท รวมทั้งสามารถแสดงได้ว่าบริษัทมีฐานะการเงินและผลการดำเนินงานที่มั่นคงตามสภาพธุรกิจของบริษัทไปอย่างต่อเนื่อง และบริษัทมีกำไรสุทธิในงวดสะสมก่อนยื่นคำขอ ซึ่งพิจารณาจากงบการเงินประจำไตรมาสสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2556 (งวด 6 เดือนของปี 2556) มีกำไรสุทธิเท่ากับ 53.49 ล้านบาท และมีส่วนของผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2556 เท่ากับ 427.19 ล้านบาท
 
ผู้ถือหุ้นที่มีส่วนร่วมในการบริหารงาน (Strategic Shareholders) ของบริษัท ได้แก่ ผู้ถือหุ้นที่มีอำนาจควบคุมกรรมการ ผู้บริหาร ผู้ถือหุ้นที่ถือหุ้นเกินกว่าร้อยละ 5 ของทุนชำระแล้วและผู้ที่เกี่ยวข้องซึ่งถือหุ้นรวมกัน 25,764,704 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 55 ของทุนชำระแล้วให้คำรับรองต่อตลาดหลักทรัพย์ว่าจะไม่นำหลักทรัพย์ดังกล่าวของตนออกขายภายใน 1 ปี (Silent Period)นับแต่วันที่หลักทรัพย์ของ SMPC กลับมาทำการซื้อขาย โดยได้รับการผ่อนผันให้เมื่อครบกำหนด 6 เดือนสามารถทยอยขายหลักทรัพย์ดังกล่าวได้ในจำนวนร้อยละ 25 ของจำนวนหลักทรัพย์ที่ถูกห้ามขาย
 
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า บริษัทมีคุณสมบัติครบถ้วนตามแนวทางและขั้นตอนการดำเนินการเพื่อขอพ้นเหตุอาจถูกเพิกถอนครบถ้วนแล้ว ดังนั้น ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงเห็นควรให้หลักทรัพย์ของ SMPC พ้นเหตุอาจถูกเพิกถอน โดยการปลดเครื่องหมาย SP และ NC รวมทั้งย้ายหลักทรัพย์ SMPC ออกจากกลุ่มบริษัทจดทะเบียนที่แก้ไขการดำเนินงานไม่ได้ตามกำหนด (NPG)

 


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 31 ต.ค. 2556 เวลา : 12:39:34
18-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 18, 2024, 11:15 pm