อสังหาริมทรัพย์
พฤกษา หวั่นยอดปฎิเสธสินเชื่อพุ่ง ดอดเจรจาบริษัทประกันอุ้มลูกค้า


 

 

พฤกษา ปรับตัวรับปัญหายอดปฎิเสธสินเชื่อลูกค้ารายย่อยพุ่ง จับมือ 13 สถาบันการเงิน คลอดโปรแกรมผ่อนชำระตามความสามารถลูกค้า พร้อมเจรจาบริษัทประกัน ค้ำประกันสินเชื่อ เชื่อสหรัฐยกเลิกQE ส่งผลเงินตึงตัว

 

นายเลอศักดิ์ จุลเทศ รองประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PS เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างเจราจากับบริษัทประกันวินาศภัย 2 แห่ง ดำเนินโครงการวินแบ็ค (Win Back) เพื่อช่วยลูกค้าที่ตัดสินใจซื้อโครงการแล้วแต่ไม่สามารถขอวงเงินสินเชื่อจากสถาบันการเงินได้ เพื่อให้บริษัทประกันมาค้ำประกันสินเชื่อลูกค้า เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถกู้เงินกับสถาบันการเงินได้ เนื่องจากมั่นใจว่า แนวโน้มการถูกปฏิเสธสินเชื่อปีหน้าจะเพิ่มขึ้น จากสหรัฐอเมริกามีแนวโน้มยกเลิกมาตรการ QE  และการออก พรบ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ซึ่งจะทำให้เกิดภาวะเงินตึงตัว

“ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปวงเงินและเงื่อนไขการค้ำประกันจากบริษัทประกันวินาศภัย เนื่องจากเป็นเรื่องใหม่สำหรับในเมืองไทย เพราะยังไม่เคยมีผู้ประกอบการหลายใดนำโครงการดังกล่าวมาใช้ ขณะที่ในต่างประเทศมีการใช้มานานพอสมควรแล้ว รวมทั้งการซื้อคืนยูนิตเพื่อนำมาขายใหม่ด้วย คาดว่าจะเริ่มใช้ได้ในปีหน้า” นายเลอศักดิ์กล่าว

ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้เจรจากับ 13 สถาบันทางการเงินที่เป็นพันธมิตร เสนอแพคเกจทางการเงินหลากหลาย เพื่อให้เหมาะสมกับความสามารถในการผ่อนชำระของลูกค้าแต่ละราย ทำให้ยอดการถูกปฏิเสธสินเชื่อของบริษัทไม่มากนักอยู่ที่ 22-23% ซึ่งน้อยกว่าในอุตสาหกรรมเดียวกัน และเป็นระดับใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา แต่หากไม่มีมาตรการทางการเงินมารองรับ ตัวเลขการปฏิเสธสินเชื่ออาจจะขยับเพิ่มขึ้นได้

 

ด้านนายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า ในภาพรวมแนวโน้มราคาบ้านทั้งตลาดจะปรับขึ้น 5-6% ตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากราคาที่ดิน ค่าแีงงาน และวัสดุก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่ในส่วนของพฤกษาจะปรับขึ้นเพียง 3-4% เนื่องจากมีการบริหารจัดการต้นทุนให้ลดลงจากการใช้การก่อสร้างด้วยพรีแคสมากขึ้น ทำให้สามารถก่อสร้างบ้านได้เร็วขึ้นอีกทั้งยังได้ขยายโรงงาน พรีคลาส อีก 2 โรงงาน มูลค่าการลงทุน 2,200 ล้านบาท ทำให้สามารถผลิตบ้านเดี่ยวขนาด 150 ตารางเมตร ได้อีกจำนวน 480 หลังต่อเดือน จากกำลังผลิตเดิม 5 โรงงาน จำนวน 620 หลังต่อเดือน 

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2557 ปีหน้ามีแผนจะเปิดโครงการใหม่มากกว่า 50 โครงการ มูลค่ารวมมากกว่า 50,000 ล้านบาท โดยยังเป็นบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ ในสัดส่วน 80% และคอนโดมิเนียมม20% นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะขยายตลาดไปต่างจังหวัดเพิ่มมากขึ้น จากปัจจุบันที่มีโครงการที่พัทยา จ.ชลบุรี เชียงใหม่ และภูเก็ต โดยกำลังศึกษาการเปิดโครงการที่จ.สุราษฎร์ธานีและนครศรีธรรมราช และจังหวัดใกล้เคียงที่มีศักยภาพ
 
โดยในช่วงที่เหลือของปีนี้ เตรียมเปิดโครงการใหม่อีก 10-15 โครงการ โดยเมื่อรวมกับ 9 เดือนที่ผ่านมา ที่เปิดโครงการใหม่ไปแล้ว 41 โครงการ ทำให้ทั้งปีเปิดโครงการได้รวม 50-55 โครงการ มูลค่า 48,000-50,000 ล้านบาท ซึ่งอาจจะต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 78 โครงการ เพราะต้องชะลอการเปิดตัวหลายโครงการออกไป เนื่องจากทำยอดขายและรายได้สูงกว่าเป้าหมายมากแล้ว
 
นอกจากนี้ บริษัทได้ปรับเพิ่มเป้าหมายยอดขายปีนี้จากเดิม 35,000 ล้านบาทเป็น 39,000-40,000 ล้านบาท หลังจากยอดขายในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา มีมากกว่า 36,000 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายทั้งปีที่วางไว้ ขณะที่รายได้ปรับเพิ่มจากเดิม 33,000 ล้านบาท เป็น 37,000 ล้านบาท ซึ่ง 9 เดือนที่ผ่านมา มีรายได้ 25,264 ล้านบาทแล้ว สูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้ 18,777 ล้านบาท ถึง 35%  โดยทาวน์เฮาส์และบ้านเดี่ยว ยังคงเป็นสินค้าที่ทำรายได้หลักเป็นสัดส่วนสูงถึง 82% จากรายได้ทั้งหมด ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิ 3,539 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาที่ทำกำไรสุทธิ 2,636 ล้านบาท
 

 


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 13 พ.ย. 2556 เวลา : 14:25:34
26-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 26, 2024, 7:31 pm