แบงก์-นอนแบงก์
ไทยพาณิชย์ชี้การเมืองร้อนฉุดแรงซื้อปลายปี หวั่นกระทบชิ่ง


 

 

 

ไทยพาณิชย์รับปัจจัยการเมืองกระทบบริโภคระยะสั้น หวั่นลามกระทบเศรษกิจ-ท่องเที่ยว พร้อมระบุปัจจัยเสี่ยงปีหน้า "การเมือง-เศรษฐกิจโลก" คาดสินเชื่อเดินหน้าตามเป้า 12% ส่วนปีหน้าโตชะลอลงเหลือแค่ 9-10%

 


 

นางกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ผลกระทบบจากปัญหาทางการเมืองในเวลานี้เริ่มเห็นสัญญาณส่งผลต่อการบริโภคระยะสัั้นภายในประเทศแล้ว ซึ่งหวังว่าปัญหานี้จะจบได้โดยเร็ว ไม่ยืดเยื้อ มิฉะนั้นอาจจะกระทบไปยังภาคการท่องเที่ยว ถือเป็นปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญของไทยในรอบปีนี้ ดังนั้น จึงหวังว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว

"ปัญหาสำคัญอยู่ที่ความยืดเยื้อ ถ้าสถานการณ์จบได้เร็วก็จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ไม่ยาก อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าระยะนี้จนถึงสิ้นปี ภาวะเศรษฐกิจและการบริโภคในประเทศจะมีปัญหาบ้างแน่นอน"

สำหรับธนาคารไทยพาณิชย์ นางกรรณิกา กล่าวว่า แนวโน้มการเติบโตสินเชื่อในปีนี้ไม่น่าจะมีปัญหา โดยธนาคารน่าจะขยายสินเชื่อได้ 10-12% ตามเป้าหมาย หลังจากช่วง 9 เดือนแรกธนาคารสามารถขยายสินเชื่อได้ค่อนข้างดี โดยเฉพาะช่วงต้นปีที่สินเชื่อขยายตัวได้สูงกว่าตลาดค่อนข้างมาก ก่อนจะเกิดภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวลงจึงปรับระดับการเติบโตช้้าลงให้สอดคล้องกับตลาดเพื่อลดความเสี่ยง

"ช่วง 3 ไตรมาสแรกปีนี้สินเชื่อเราโตมาได้ 12% แต่ช่วงไตรมาสสุดท้ายอาจจะไม่ขยายตัว เพราะสถานการณ์การบริโภคภายในประเทศชะลอตัวลงมาก"

ขณะที่สถานการณ์เติบโตของสินเชื่อในปีหน้้า นางกรรณิกา ประเมินว่า เศรษฐกิจในปีหน้าน่าจะขยายตัวได้ประมาณ 4-5% ซึ่งคาดว่าภาคสินเชื่อทั้งระบบบน่าจะขยายตัวได้ประมาณ 8-9% ถือว่าเติบโตชะลอตัวลงจากปีนี้ที่สินเชื่อทั้งระบบขยายตัวได้ 10-12% ซึ่งเป็นสถานการณ์เติบโตกลัับสู่ภาวะปกติ โดยเฉพาะสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่ขยายตัวชะลอลง หลังจากเติบโตค่อนข้างมาแล้วในปีนี้

ส่วนการเติบโตสินเชื่อของธนาคารไทยพาณิชย์ นางกรรณิกา กล่าวว่า ธนาคารประเมินว่าปีหน้าจะสามารถขยายสินเชื่อได้ประมาณ 9-10% ซึ่งเป็นระดับการเติบโตที่ใกล้เคียงกับตลาด โดยมองการเติบโตของสินเชื่อในทุกส่วน แม้ภาพรวมเศรษฐกิจมีแนวโน้มจะฟื้นตัวดีขึ้นกว่าปีนี้ แต่เชื่อว่าสินเชื่อจะขยายตัวในระดับที่กลับสู่ภาวะปกติ ไม่ได้ขยายตัวอย่างร้อนแรง

นอกจากนี้ ยังมองว่าโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลมูลค่า 2 ล้านล้านบาทนั้น น่าจะมีผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า ซึ่งในปีหน้าอาจจะยังไม่มีปริมาณเงินเข้ามาสู่ระบบมากนัก แต่มองว่าในระยะยาวแล้วโครงการนี้จะช่วยสร้างประสิทธิภาพการแข่งขันของประเทศให้ดีขึ้น

"ปีหน้าความหวังของเศรษฐกิจไทยและการขยายตัวของสินเชื่อน่าจะมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มดีขึ้น แต่ถ้าไม่ได้ฟื้นตัวเป็นไปตามที่คาดการณ์ ก็น่าจะมีความเสี่ยงต่อการขยายตัวของภาคส่งออกและกระทบถึงเศรษฐกิจไทยด้วย ตอนนี้ถ้าดูสถานการณ์โดยรวมของเศรษฐกิจโลกถือว่าดีขึ้น ทั้งสหรัฐ และจีน ขณะที่ยุโรปก็ไมททรุดลง ฉะนั้นความเสี่ยงที่เหลือก็อยู่ที่ความมั่นคงของการเมืองในประเทศ" 

อย่างไรก็ตาม ในแผนการเติบโตของธุรกิจปีหน้า นางกรรณิกา กล่าวว่า ไม่ได้ใส่ปัจจัยด้านการเมืองเข้าไปในการจัดทำแผน เพราะเป็นปัจจัยที่ประเมินค่อนข้างยาก

LastUpdate 26/11/2556 12:37:45 โดย : Admin
25-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 25, 2024, 9:10 am