หุ้นทอง
"หมอปราเสริฐ" ขึ้นแชมป์เศรษฐีหุ้นไทย


 

 

วารสารการเงินธนาคารร่วมคณาจารย์จุฬาฯจัดทำจัดอันดับเศรษฐีหุ้นไทย ปี 2556 น.พ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ หรือ หมอเสริฐ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ(BGH) เจ้าของเครือโรงพยาบาลกรุงเทพ เข้ามาเป็นแชมป์เศรษฐีหุ้นคนใหม่

 

วารสารการเงินธนาคารร่วมกับ อาจารย์ประจำคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกันจัดทำจัดอันดับเศรษฐีหุ้นไทย โดยปี 2556นี้จัดเป็นปีที่ 20 ภาพรวมเศรษฐีหุ้นไทยปีนี้วัดจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ประเภทบุคคลธรรมดาในประเทศที่ถือหุ้นสัดส่วน 0.5% ขึ้นไปตามการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นล่าสุดก่อนวันที่ 30 ก.ย.56 รวม 5,993 ราย  มีมูลค่าหุ้นที่ถือครองรวมทั้งสิ้น 1,259,662 ล้านบาท เพิ่มจากปี 55 รวม 207,834 ล้านบาท หรือ 19.76%

 



ผลการจัดอันดับเศรษฐีหุ้นไทย ตำแหน่งแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยประจำปี 2556 ได้แก่ น.พ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ หรือ หมอเสริฐ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ(BGH) เจ้าของเครือโรงพยาบาลกรุงเทพ เข้ามาเป็นแชมป์เศรษฐีหุ้นคนใหม่ โดยถือครองหุ้นสูงสุดเป็นอันดับ 1 รวมมูลค่า 36,596.20 ล้านบาท รวยขึ้น 15,472.72 ล้านบาท หรือ 73.25% ซึ่งเพิ่มขึ้นทั้งจากสัดส่วนการถือหุ้นที่มากขึ้น และราคาหุ้น BGH ที่ปรับตัวสูงขึ้นด้วย

โดยปีที่ผ่านมาถือหุ้น BGH เพิ่มขึ้นอีก 6.08% เป็น 18.78% ขณะที่ราคาหุ้น BGH ปรับสูงขึ้นจาก 107.50 บาท เป็น 126 บาท ณ วันที่ 30 ก.ย.56 เพิ่มขึ้น 18.50 บาท หรือ 17.29% นอกจากนี้ ยังถือครองหุ้น บมจ.โรงพยาบาลนนทเวช(NTV) ในสัดส่วน 0.79% มูลค่า 30.82 ล้านบาท

 


          
อันดับ 2  ได้แก่ นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) โดยถือหุ้น BTS ในสัดส่วน 33.93% มูลค่า 34,219.79 ล้านบาท รวยเพิ่มขึ้น 10,763.72 ล้านบาท หรือ 45.89% จากราคาหุ้น BTS ของคีรี ที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจาก 5.65 บาท มาเป็น 8.75 บาท ณ วันที่ 30 กันยายน 2556 โดยเพิ่มขึ้น 3.10 บาท หรือ 54.86%

 


         
อันดับ3 ได้แก่ พิชญ์ โพธารามิก ทายาทคนเดียวของอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ อดิศัย โพธารามิก ผู้ก่อตั้ง บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) ก้าวกระโดดมาจากอันดับ 18 เมื่อปีที่แล้ว โดยถือครองหุ้น รวมมูลค่าหุ้นที่ถือครองทั้งสิ้น 26,481.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19,327.08 ล้านบาท หรือ 270.12% ประกอบด้วยหุ้น บมจ.โมโน เทคโนโลยี (MONO) ที่เข้าจดทะเบียนในตลาด mai เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2556 โดยพิชญ์ เป็นถือหุ้นสูงสุดในสัดส่วน 71.87% มูลค่า 11,268.59 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังถือหุ้น JAS ในสัดส่วน 25.84% มูลค่า 15,213.39 ล้านบาท โดย พิชญ์ ควบเก้าอี้ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของทั้ง MONO และ JAS
          
อันดับ 4 ได้แก่ นายอนันต์ อัศวโภคิน ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์(LH) อดีตแชมป์เศรษฐีหุ้นไทย 7 ปีซ้อน โดยถือครองหุ้นมูลค่ารวม 25,740.75 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,052.80 ล้านบาท หรือ 18.69% ประกอบด้วย หุ้น บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH) 23.76% มูลค่า 25,732.51 ล้านบาท และ บมจ.แมนดาริน โฮเต็ล (MANRIN) 1.36% มูลค่า 8,244 ล้านบาท
          
อันดับ 5 ได้แก่ นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท (PS) ด้วยมูลค่าหุ้นที่ถือครอง 25,453.35 ล้านบาท ทั้งนี้ แม้ว่าหุ้น PS ที่ทองมาถือครองในสัดส่วน 58.76% จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 1,955.57 ล้านบาท หรือ 8.32% แต่เมื่อเทียบกับมูลค่าหุ้นที่เพิ่มขึ้นของเศรษฐีหุ้นในอันดับ Top 4 แล้วยังทิ้งห่างกันอยู่มาก ทำให้เสียแชมป์เศรษฐีหุ้น 3 ปีซ้อนในปี 53-55 ไป
          
อันดับ 6 ได้แก่ นายวิชัย ทองแตง หล่นจากอันดับ 5 เมื่อปีที่แล้ว ถือครองหุ้นรวมมูลค่า 20,129.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,337.88 ล้านบาท หรือ 19.88% ประกอบด้วยหุ้น BGH ในสัดส่วน 9.94% มูลค่า 19,362.31 ล้านบาท หุ้น บมจ.ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น (FORTH) 7.29% มูลค่า 399 ล้านบาท หุ้น บมจ.ปุ๋ยเอ็นเอฟซี (NFC) 8.04% มูลค่า 272 ล้านบาท และหุ้น บมจ.ตงฮั้ว คอมมูนิเคชั่นส์ (TH) 9.84% มูลค่า 96 ล้านบาท
         
อันดับ 7 ได้แก่ ทายาทโอสถสภา นายนิติ โอสถานุเคราะห์ ถือครองหุ้นมูลค่ารวม 18,623.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6,293.09 ล้านบาทหรือ 51.04%
          
อันดับ 8 ได้แก่ นายวิลเลี่ยม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค หรือที่รู้จักกันในนาม บิล ไฮเนกี้ เจ้าของอาณาจักรไมเนอร์ กรุ๊ป ขึ้นมาจากอันดับ 72 เมื่อปีที่แล้ว ด้วยมูลค่าหุ้นที่ถือครองรวม 11,200.62 ล้านบาท รวยเพิ่มขึ้น 7,740.13 ล้านบาท หรือ 223.67% ทั้งนี้ จากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาหุ้น บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) ที่สูงขึ้นจาก 15.40 บาท มาเป็น 24.20 บาท ณ วันที่ 30 ก.ย.56 เพิ่มขึ้นถึง 8.80 บาท หรือ 57.14% ส่งผลความมั่งคั่งของวิลเลียมเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยมูลค่าหุ้น MINT ที่วิลเลียมถือในสัดส่วน 11.28% เพิ่มขึ้นเป็น 10,783.13 ล้านบาท นอกจากนี้ วิลเลียม ยังถือหุ้น บมจ.คริสเตียนีและนีลเส็น (ไทย) (CNT) ในสัดส่วน 6.61% มูลค่า 417.49 ล้านาท
         
อันดับ 9 ได้แก่ นางอรุณี ชาน ทายาทรุ่นที่สองของตระกูลจิราธิวัฒน์ ก้าวขึ้นมาจากอันดับ 33 เมื่อปีที่แล้ว ถือครองหุ้นรวมมูลค่า 10,698.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,642.93 ล้านบาท หรือ 111.61% ประกอบด้วยหุ้น บมจ.บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ (BIGC) 3.68% มูลค่า 6,077.19 ล้านบาท หุ้น บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) 2.02% มูลค่า 3,879.02 ล้านบาท กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท (CPNRF) 2.6% มูลค่า 680.90 ล้านบาท และ หุ้น บมจ.โพสต์ พับลิชชิง (POST) 1.72% มูลค่า 61.83 ล้านบาท
         
อันดับ 10 ได้แก่ เศรษฐีหุ้นหน้าใหม่ เศรษฐีหุ้น IPO นายสมโภชน์ อาหุนัย อดีตกรรมการผู้จัดการ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ที่หันไปจับธุรกิจพลังงาน จำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซลและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ในชื่อ บมจ.พลังงานบริษัท (EA) โดยได้นำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาด mai เมื่อวันที่ 26 ม.ค.56 ส่งผลให้ก้าวเข้ามาเป็นเศรษฐีหุ้นอันดับ 10 ถือครองหุ้นรวมมูลค่า 10,135.78 ล้านบาท รวยเพิ่มขึ้นทันที 10,091.640 ล้านบาท หรือ 22,861.08% โดยถือหุ้น EA ในสัดส่วน 40.47% มูลค่า 10,114.72 ล้านบาท และหุ้น บมจ.อีเทอเนิล เอนเนอยี (EE) อีก 0.94% มูลค่า 21.06 ล้านบาท

ส่วน 2 สาวทายาทพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปีนี้แม้ว่ามูลค่าหุ้นจะเพิ่มสูงขึ้น แต่อันดับลดลง โดยน.ส.แพทองธาร ชินวัตร (อิ๊ง) หล่นจากอันดับ 47 มาอยู่อันดับ 64 ถือหุ้น บมจ.เอสซี แอสเซท (SC) 29.13% มูลค่า 3,670.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 211.40 ล้านบาท หรือ 6.11% และน.ส.พิณทองทา ชินวัตร (เอม) หล่นจากอันดับ 53 มาอยู่อันดับ 66 ถือหุ้น SC 28.19% มูลค่า 3,552.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 204.58 ล้านบาท หรือ 6.11%

สำหรับแชมป์ตระกูลเศรษฐีหุ้นไทยปีนี้ได้แก่ ตระกูลจิราธิวัฒน์ ที่สามารถล้มแชมป์เก่าตระกูลมาลีนนท์ ซึ่งครองแชมป์มาอย่างต่อเนื่องและยาวนานถึง 14 ปีลงได้ โดยตระกูลจิราธิวัฒน์ก้าวขึ้นมาจากอันดับ 2 ของเมื่อปีที่แล้ว โดยเครือญาติเศรษฐีหุ้นในตระกูล 31 คน ถือครองหุ้นรวมกันทั้งสิ้น 66,787.88 ล้านบาท มั่งคั่งเพิ่มขึ้นถึง 25,922.14 ล้านบาท หรือ 63.43% โดยหุ้นที่กลุ่มเครือญาติจิราธิวัฒน์ถือครองได้ปรับราคาสูงขึ้นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ ราคาหุ้น บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา (CENTEL) ณ วันที่ 30 ก.ย.56 ได้ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 38.25 บาท จาก 17.30 บาท เมื่อปีที่แล้ว เพิ่มขึ้น 20.95 บาท หรือ 121.09% ส่วนราคาหุ้น บมจ.บิ๊กซีซูเปอร์เซ็นเตอร์ (BIGC) ก็ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 200 บาท จาก 187 บาท เพิ่มขึ้น 13 บาท หรือ 6.95%

 
อันดับ 2 ได้แก่ ตระกูลมาลีนนท์ ที่ปีนี้ต้องเสียแชมป์ร่วงลงมา โดย 11 เครือญาติเศรษฐีหุ้นในตระกูลถือครองหุ้นรวมกันมูลค่า 49,122.44 ล้านบาท รวยลดลงถึง 21,139.99 ล้านบาท หรือ 30.09% เนื่องจากราคาหุ้น บมจ.บีอีซี เวิลด์ (BEC) ที่เครือญาติถือครอง ปรับลดลงจาก 76.50 บาท มาอยู่ที่ 56.75 บาท ณ วันที่ 30 กันยายน 2556 ลดลงถึง 19.75 บาท หรือ 25.81%

อันดับ 3 ได้แก่ ตระกูลปราสาททองโอสถของ น.พ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ แชมป์เศรษฐีหุ้นไทยในปีนี้ โดยรวมกับสองทายาทพญ.ปรมาภรณ์ และ พล.ต.ต.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ถือครองหุ้นมูลค่า 42,067.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15,576.81 ล้านบาท หรือ 58.80%

อันดับ 4 ได้แก่ ตระกูลกาญจนพาสน์ โดย 4 เครือญาติในตระกูล ได้แก่ นายคีรี นายอนันต์ นายชัยสิทธิ์ และ นายสาคร กาญจนพาสน์ ถือครองหุ้นรวมมูลค่า 41,267.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13,738.61 ล้านบาท หรือ 49.91%

อันดับ 5 ได้แก่ ตระกูลทองแตง ที่ครอบครัวทองแตง ได้แก่ นายวิชัย นางนงลักษณ์ น.ส.วิอร นายอติคุณ นายอัฐ และ นายอิทธิ ถือครองหุ้นรวมกันเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 30,593.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,022.91 ล้านบาท หรือ 19.64%

 
 

 

 

 


LastUpdate 12/12/2556 14:02:32 โดย : Admin
27-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 27, 2024, 6:13 am