"กลุ่มธารารมณ์" เน้นลงทุนโครงการแนวราบ มั่นใจตลาดทาวน์เฮาส์ฟื้นตัวเต็มที่ ส่วนบ้านเดี่ยวเข้าสู่ภาวะสมดุล ขณะที่คอนโดมิเนียมเจอปัญหา"โอเวอร์ ซัพพลาย"บางทำเล ตั้งเป้าปีหน้าโต 20% เชื่อไม่มีฟองสบู่

นายคณิต ฉายรัตนอภิรมย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานการตลาด กลุ่ม First Home กลุ่มบริษัทธารารมณ์ เปิดเผยถึงแนวโน้มตลาดอสังหาทรัพย์ทั้งในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลว่า ตลาดบ้านเดี่ยวเริ่มเข้าสู่สภาวะสมดุลแล้วในปีนี้ เนื่องจากปริมาณความต้องการใกล้เคียงกับปริมาณโครงการใหม่ที่เปิดขาย

สำหรับคอนโดมิเนียมมีการเปิดโครงการใหม่จำนวนมากในปีนี้ ซึ่งมีปริมาณถึงกว่า 84,000 ยูนิต และมากกว่าความต้องการเกือบเท่าตัว ทำให้ในปีนี้เกิดภาวะโอเวอร์ซัพพลายในบางทำเล แต่คาดว่าในปีหน้าจะมีการเปิดโครงการใหม่ลดลง ซึ่งจะส่งผลให้ตลาดคอนโดมิเนียมกลับสู่สภาวะสมดุล

ส่วนตลาดทาวน์เฮาส์นั้น มีซัพพลายใหม่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าปริมาณความต้องการ ซึ่งส่วนหนึ่งอาจจะเกิดจากปัญหาในการหาทำเลที่จะพัฒนาในราคาที่เหมาะสมยากมากขึ้น เนื่องจากสีผังเมืองที่เปลี่ยนไป จึงคาดว่าในปีหน้าตลาดทาวน์เฮาส์จะเป็นที่น่าสนใจลงทุนของผู้ประกอบการ

ขณะที่ นายวสันต์ เคียงศิริ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัทธารารมณ์ กล่าวว่า จากการคาดการณ์ผลกระทบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในปีนี้ถึงปีหน้า ทำให้ธารารมณ์ตั้งเป้ายอดขายปีหน้าเติบโตขึ้น 20% จากโครงการที่เปิดขายปัจจุบัน 8 โครงการ และโครงการใหม่อีก 2 โครงการ ที่จะเปิดใหม่บนทำเลรามคำแหง ทั้งนี้ โครงการดังกล่าว บริษัทได้เลื่อนการเปิดขายในปีนี้ เนื่องจากปัจจัยลบต่าง ๆ เช่น ปัญหาการเมือง และภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว อย่างไรก็ตาม บริษัทมีกำหนดจะเปิดขายโครงการนี้ในปีหน้าอย่างแน่นอน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาสินค้า เพื่อให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้มากที่สุด และคาดว่าในปีหน้าตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงมีอัตราการเติบโตขึ้น และมั่นใจว่าไม่มีปัญหาฟองสบู่อย่างแน่นอน

ปัจจุบันโครงการที่กลุ่มธารารมณ์เปิดขายอยู่เป็นโครงการแนวราบในสัดส่วน 90% แนวสูง 10% โดยสินค้ามีทั้งบ้านสร้างเสร็จ และบ้านดาวน์ ในสัดส่วน 70: 30 และยังคงแบ่งประเภทสินค้าตามเซกเมนต์ลูกค้า คือ First Home และ Move Up

สำหรับผลประกอบการในปี 2556 จะมียอดขายประมาณ 1,000 ล้านบาท คิดเป็น 90% ของเป้าที่ตั้งไว้ ซึ่งสามารถปิดการขายใน 2 โครงการ คือ โครงการการ์เด้น สวีท ดิ อินดี้ โฮม และ โครงการ The Link 50 โดยมีการทำกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี รวม 12 แคมเปญ รวมถึงการออกบูธ ทั้งบูธใหญ่ บูธย่อย และเดินสาย (Troop) ตามสถานที่ต่าง ๆ เช่น ห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน ถนนสายธุรกิจทุกสาย กิจกรรมผ่านทางโซเชียลมีเดีย เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างขึ้น

นอกจากนี้ ยังได้จัดแผนทางการเงินในการช่วยลูกค้าให้ผ่านสินเชื่อได้ง่ายขึ้น ได้แก่ วางแผนการดาวน์ ส่งเสริมการออม ช่วย Pre-Screen ก่อนการกู้ ทำให้ Post-Finance Rejection Rate ลดลงจาก 15% เหลือเพียง 11%

นายวสันต์ กล่าวอีกว่า จากแนวโน้วต่าง ๆทำให้ธารารมณ์ยิ่งมั่นใจว่าการทำงานที่อยู่บนความตั้งใจที่จะส่งมอบสินค้าที่ดี บริการอย่างเอาใจใส่ ตระหนักถึงความรับผิดชอบที่มีต่อลูกค้า คือสิ่งที่จะทำให้ผู้ประกอบการยืนอยู่ได้ด้วยความมั่นคงท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในทุกๆวัน และธารารมณ์ก็มุ่งมั่นตั้งใจที่จะส่งมอบสิ่งต่างๆดังกล่าวให้ลูกค้าทุกรายของธารารมณ์ตามนโยบาย “ทุกคุณภาพเกิดจากความเข้าใจจริง” ที่ยึดถือปฏิบัติมาโดยตลอด