PTT เตรียมส่งบริษัท “โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่”ธุรกิจโรงไฟฟ้า บริษัทในเครือเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ปี 57 หวังเพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจไฟฟ้าเป็น 5-10% ลดความเสี่ยงธุรกิจ

นายสุรงค์  บูลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนจะนำบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (GPSC) ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มปตท.ซึ่งถือหุ้นโดยบมจ.ปตท. (PTT) ,บมจ.ไทยออยล์(TOP) และ บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประมาณไตรมาส 2 -ไตรมาส 3 ของปี 2557 ส่วนการแผนการขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรกหรือไอพีโอ เบื้องต้นประมาณ 25-30%ของทุนจดทะเบียน เพื่อนำเงินระดมทุนนำไปขยายกิจการที่มีเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตเป็น   6 ,000 เมกะวัตต์ ในปี 2562 จากปัจจุบันมีกำลังผลิตรวม 2,000 เมกะวัตต์

ทั้งนี้ GPSC  นั้นมีแผนการลงทุนเพื่อขยายเข้าโรงไฟฟ้าไปในต่างประเทศด้วย อาทิ พม่า ลาว และอินโดนีเซีย ที่ลงทุนโรงไฟฟ้าประเภทต่างๆ อาทิ โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ โรงไฟฟ้าถ่านหิน โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน นอกเหนือโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิง ที่ดำเนินการอยู่ในประเทศ

นอกจากนี้ ในระยะยาว PTT ยังวางแผนจะมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจไฟฟ้าประมาณ 5-10% ของรายได้รวมหรือภายในปี 2562 บมจ.ปตท. หลังจากส่งธุรกิจโรงไฟฟ้าในเครือเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยประมาณกลางปี 2557 เพื่อผลักดันให้มีการขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มเป็น 6,000 เมกะวัตต์ภายในปี 2563 จากปัจจุบันอยู่ที่ 2,000 เมกะวัตต์ พร้อมทั้งขยายธุรกิจไปในต่างประเทศทั้งพม่า ลาว และอินโดนีเซีย ซึ่งจะทำให้สัดส่วนรายได้จากธุรกิจไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็น 5-10% ของรายได้รวมด้วย

นายสุรงค์ ยังกล่าวต่อว่า ธุรกิจไฟฟ้าจะช่วยกระจายความเสี่ยงธุรกิจของกลุ่ม ปตท.ที่มีรายได้และกำไรผันผวน เนื่องจากเป็นธุรกิจที่อ้างอิงกับราคาน้ำมันในตลาดโลก และยังต้องเผชิญกับความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนด้วย รวมทั้งยังเป็นธุรกิจที่สร้างกระแสเงินสดได้ตลอดเวลา แม้จะมีอัตราผลตอบแทน (Return) ต่ำ แต่มีรายได้เข้ามาสม่ำเสมอ