เทศกาลคริสต์มาสไปจนถึงวันปีใหม่ ลีกชั้นนำของยุโรปต่างพักเบรกหนีหนาวกันหมด จะเหลือก็แต่พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ลงสนามตามธรรมเนียมปฏิบัติเดิม แถมยังเตะกันถี่ยิบกว่าปกติ เพื่อเป็นของขวัญให้แฟนๆได้ชมกันแก้เหงาในช่วงวันหยุด ซึ่งด้วยความที่เตะกันถี่นี่เอง ทำให้ช่วงนี้เป็นช่วงสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการลุ้นแชมป์ โดยเฉพาะในเวลาที่สถานการณ์บนตารางคู่คี่สูสีกันอย่างนี้
ตอนนี้ "ลิเวอร์พูล" เป็นจ่าฝูงของตาราง มี 36 แต้มจาก 17 นัด เท่ากับ "อาร์เซนอล" แต่ผลต่างประตูได้เสียดีกว่า ตามด้วยอันดับสามอย่าง "แมนเชสเตอร์ ซิตี้" ที่ไล่หลังอยู่แค่แต้มเดียว ขณะที่อันดับ 4 และ 5 อย่าง "เชลซี" กับ "เอฟเวอร์ตัน" ก็มีแต้มตามหลังจ่าฝูงเพียง 2 แต้ม ดังนั้น เกมนัดเดียวก็สามารถเปลี่ยนโฉมทีมนำบนตารางได้
"ลิเวอร์พูล" ซึ่งกลายเป็นทีมจ่าฝูง หลั งอาร์เซนอล สะดุดพ่ายให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก่อนเสมอกับ เชลซี ในนัดล่าสุด
จะเจองานหนักในช่วงบ็อกซิงเดย์ไปจนถึงปีใหม่ โดยต้องเป็นฝ่ายบุกไปเยือนทั้งแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ เชลซี ในวันที่ 26 ธันวาคม และ 28 ธันวาคมนี้ ก่อนเปิดบ้านพบ ฮัลล์ ซิตี้ และไปเยือนสโตก ซิตี้ ในสัปดาห์หน้า
ขณะที่ "อาร์เซนอล" เจองานเบากว่ามาก โดยไปเยือนเวสต์แฮม ยูไนเต็ด และนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ก่อนจะเปิดรังต้อนรับคาร์ดิฟฟ์ซิตี้ และออกไปเยือนแอสตัน วิลลา ซึ่งมีลุ้นคว้า 3 แต้มในแต่ละนัดมากกว่า จึงมีโอกาสกลับมาทวงตำแหน่งจ่าฝูงคืนได้ไม่ยาก ซึ่งขุนพลของทีมปืนใหญ่ก็อยากกลับมาทวงแชมป์อีกครั้งหลังไม่ประสบความสำเร็จมานาน
ด้าน แมนเชสเตอร์ ซิตี้,เชลซี และ เอฟเวอร์ตัน ที่ต่างมีเกมแข่งขันในช่วงสองสัปดาห์หฤโหดนี้เบากว่าลิเวอร์พูล
และมีสิทธิ์เบียดแย่งตำแหน่งจ่าฝูงได้ ดังนั้นทั้ง ลิเวอร์พูล และอาร์เซนอล จะประมาทไม่ได้เด็ดขาด ซึ่งลิเวอร์พูลและอาร์เซนอล เคยนำแต่พลาดแชมป์มาแล้ว โดยเฉพาะ ลิเวอร์พูล ที่เคยรั้งจ่าฝูงหลังผ่านไป 20 นัดมี 45 คะแนนเมื่อฤดูกาล 2008-2009 แต่สุดท้ายพลาดแชมป์ให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในช่วงท้ายฤดูกาล หลังสะดุดเสมอเสียเยอะ จนทำได้ดีที่สุดแค่รองแชมป์ ทำเอาแฟนๆหงส์แดงเซ็งกันเป็นแถบๆ
ฤดูกาลนี้จึงต้องลุ้นกันอย่างหนักว่าใครจะเป็ น"แชมป์พรีเมียร์ลีก" ซึ่งช่วงเวลาส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่อย่างนี้ล่ะ จะเป็นช่วงเวลาสำคัญที่จะพิสูจน์ว่าทีมใดแข็งแกร่งกว่าอย่างแท้จริง
ข่าวเด่น