กรมบังคับคดี ฟันธงราคาที่ดินอีสาน ทั้งขอนแก่น/อุดร ขยับขึ้น 30-50% รับอานิสงส์โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในภาคอีสาน นักลงทุนแห่ซื้อที่ดินรอผุดโครงการบ้านจัดสรรเพียบ 

นายอรรถ อรรถานนท์ รองอธิบดีกรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า หลังจากรัฐบาลมีโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในภาคอีสาน จะส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจดีขึ้น โดยเฉพาะจังหวัดขอนแก่นและอุดรธานี ซึ่งเป็นประตูสู่อีสานที่จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเข้ามาลงทุนมากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทำให้มีการซื้อขายที่ดินมากขึ้น เพื่อรองรับการขยายตัวของโครงการต่างๆ ซึ่งคาดว่า ราคาที่ดินจะปรับขึ้นได้ 30% 

ด้านนายสาธิต ศุภเมธี ผู้อำนวยการสำนักงานบังคับคดี จังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า สภาพตลาดอสังหาริมทรัพย์ ในจังหวัดขอนแก่นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มีการแข่งขันมากขึ้น หลังจากที่รัฐบาลมีนโยบายพัฒนาโครงสร้างขั้นพื้นฐานในภาคอีสาน ทำให้มีนักลงทุนเข้ามาลงทุนจังหวัดขอนแก่นมากขึ้น โดยจะเห็นได้จากการซื้อขายทรัพย์  บางครั้งสูงถึง 50% 

นอกจากนี้โครงการพัฒนาโครงสร้างขั้นพื้นฐานของรัฐ ยังส่งผลให้ราคาที่ดินในเมือง จังหวัดขอนแก่นมีราคาสูงขึ้น จากปีที่ผ่านมาราคาตารางวาละ 10,000 บาท และเพิ่มขึ้นเป็นราคาตารางวาละ 20,000 - 30,000 บาท ในปีนี้ 

สำหรับผลการดำเนินงานของสำนักงานบังคับคดีจังหวัดขอนแก่นในปีงบประมาณ 2556 (ตุลาคม 2555 - กันยายน 2556) สามารถขายทอดตลาดทรัพย์ได้กว่า 1,700 ล้านบาท โดยในขณะนั้นสำนักงานฯมีทรัพย์รวมทั้งสิ้น 4,000 ล้านบาท ส่วนปี 2557 (ตุลาคม 2556 - กันยายน 2557) คาดว่า ขายทอดตลาดทรัพย์กว่า 1,000 ล้านบาท สาเหตุที่ยอดขายลดลงจากปี 2556 เนื่องจากทรัพย์ที่เหลืออยู่มีไม่มากนัก คิดเป็นมูลค่า 1,900 ล้านบาท โดยคาดว่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยรวมในจังหวัดขอนแก่น จะมีอัตราการเติบโตประมาณ 50 % ซึ่งจะขยายตัวกว่าที่ผ่านมาไม่มากนัก เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจยังทรงตัว 

นายคมกริช สุขเสถียร ผู้อำนวยการสำนักงานบังคับคดี จังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า หลังจากที่รัฐบาลมีนโยบาย จะสร้างรถไฟรางคู่ สายอีสาน ส่งผลให้ราคาที่ดินในจังหวัดอุดรธานีสูงขึ้น ประมาณ 40-50% ส่วนใหญ่เป็นที่ดินว่างเปล่า โดยนักลงทุนจากส่วนกลางจะเข้ามากว้านซื้อที่ดิน เพื่อก่อสร้างหมู่บ้านจัดสรรเป็นส่วนใหญ่ 

ส่วนผลการดำเนินงานของจังหวัดอุดรธานีในช่วง 3 ไตรมาสของปี 2556 สามารถขายทรัพย์ได้เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 800% หรือทำคดีได้ 163 เรื่อง ขายทอดตลาดทรัพย์ได้ 160 ล้านบาท แบ่งเป็นทรัพย์ที่อยู่ระหว่างประกาศขาย 1,855 ล้านบาท ทรัพย์ที่ยังไม่ประกาศ 900 ล้านบาท ทรัพย์ที่อายัด 200 ล้านบาท ซึ่งคาดว่า ระหว่างเดือนตุลาคม - ธันวาคม 2556 คาดว่าจะมีรายได้ 100 ล้านบาท ทั้งนี้ในปีงบประมาณ 2556 (ตุลาคม 2555 - ธันวาคม 2556) ขายทอดตลาดทรัพย์ได้ 507 ล้านบาท และคาดว่าในปี 2557 (ตุลาคม 2556 - กันยายน 2557) ขายทอดตลาดทรัพย์ได้ 550 ล้านบาท