หุ้นทอง
เปิดภาพรวมตลาดหุ้นทั่วโลกปี 2556 ดัชนีนิกเคอิของญี่ปุ่น ท็อปฟอร์มสุดพุ่ง 56.72 %


 

 

เปิดภาพรวมตลาดหุ้นทั่วโลกปี 2556 ตลาดหุ้นดัชนีนิเคอิของญี่ปุ่น ท็อปฟอร์ม รีเทิร์นพุ่ง 56.72 % แซงหน้าตลาดอิมเมอร์จิ้งมาร์เก็ต รองลงมาดัชนีแนสแดกของสหรัฐฯ +38.82% ส่วนหุ้นไทยปราบเซียน -6.70 % รองบ๊วยอันดับ 3 เจอหลายมรสุมรุมเร้า

 

 

นายพีร์ ยงวณิชย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จบไปอีกหนี่งปีอย่างรวดเร็ว สำหรับภาพการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลก ปี 2556 ที่ร้อนแรง และดูจะเป็นปีที่มีเรื่องราวต่างๆให้พูดถึงมากมายไม่แพ้ทุกปี ทั้งปัจจัยภายนอกประเทศอย่าง QE จนส่งผลให้เงินไหลกลับและปัจจัยในประเทศทั้งบรรยากาศทางการเมืองที่ร้อนแรง เศรษฐกิจในประเทศชะลอตัวลง คงส่งผลต่อด้านการลงทุนก็ชะลอลงเช่นกัน 

ดังนั้นสำหรับผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นปีที่ผ่านมา จึงต้องยกให้กับตลาดหุ้นของกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว (Developed Country) โดยเฉพาะยุโรปและอเมริกา หลังจากที่ตามหลังกลุ่มประเทศเกิดใหม่หรืออิมเมอร์จิ้งมาร์เก็ต อยู่หลายปีนับตั้งแต่ “วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์” เมื่อปี 2551  คงต้องยกแชมป์ให้กับดัชนีตลาดหุ้นญี่ปุ่น คือ ดัชนีนิกเคอิ ทำผลตอบแทนหรือรีเทิร์นได้ถึง 56.72% เรียกได้ว่า นำแบบม้วนเดียวจบ ตั้งแต่หมดไตรมาสหนึ่งเป็นต้นมา

 

 

ส่วนที่ตามมาเป็นอันดับ 2 หนีไม่พ้นตลาดใหญ่ที่สุดในโลกอย่างอเมริกา ที่ทั้ง 3 ดัชนี ได้แก่ ดัชนีแนสแดก, ดัชนีเอสแอนด์พี 500 และดัชนีดาวโจนส์  ต่างพากันทำนิวไฮด้วยผลตอบแทน 38.82%, 29.60% และ 26.50% ตามลำดับ เป็นผลมาจากตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น อัตราการว่างงานที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่วนในยุโรปไม่ว่าจะเป็น อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาลี ต่างพากันทำผลตอบแทนได้อย่างน่าพอใจที่ระดับประมาณ 16-22%

ส่วนกลุ่มประเทศในเอเชียต้องถือว่าเป็นปีที่ยากลำบากเนื่องจากเงินทุนเริ่มไหลกลับไปยังกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว (Developed Country) ทำให้ผลตอบแทนในปีที่ผ่านมาไม่ดีเท่าไรอยู่ระดับ -8% ถึง 10% ในขณะที่กลุ่มท้ายตาราง ต้องเรียกว่าเป็นนางฟ้าตกสวรรค์อย่างแท้จริงทั้ง อันดับ 1 และ 2 ของปีก่อนหน้านี้ (2555) นั้นก็คือ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ของตุรกี และ SET Index ของไทยเรา ด้วยผลตอบแทน -12.32% (แย่ที่สุด) และ -6.70% (แย่ที่สุดอันดับ 3) ตามลำดับ

สำหรับ SET Index ของไทย ต้องเรียกว่าสะดุดขาตัวเองอย่างแท้จริง ทั้งที่เมื่อจบไตรมาสแรกของปียังคงอยู่ใน 5 อันดับแรกที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด ปัญหาต่างๆที่รุมเร้าเข้ามาไม่ว่าจะเป็นความผันผวนของค่าเงินบาท เศรษฐกิจที่เริ่มชะลอตัว และปิดท้ายด้วยปัญหาทางการเมืองที่รุมเร้าตลอดช่วงครึ่งปีหลังของปี และคงจะต้องบอกว่าเป็นปีทั้ง “ปราบเซียน” และต้อนรับ “นักลงทุนหน้าใหม่” ได้อย่างไม่สวยนัก

และนี่คือสิ่งที่ยืนยันได้อย่างชัดเจนว่า การลงทุนในตลาดหุ้นนั้นมีความผันผวนมาก ยิ่งในระยะสั้นยิ่งผันผวนสูงมาก แต่อย่างไรก็ตามเมื่อมองผลตอบแทนย้อนหลังในระยะยาว SET Index ก็ยังทำได้ดีอยู่

 

 

 

 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 20 ม.ค. 2557 เวลา : 13:21:47
27-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 27, 2024, 9:10 am