สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ไทย ห่วงปัญหาการเมืองกระทบตลาดบ้านมือสอง ฟันธงหากยืดเยื้อฉุดธุรกิจในช่วงไตรมาส 1-2 ดิ่งเหว แนะนายหน้าปรับกลยุทธ์ช่วงชิงกำลังซื้อ
ในปีที่ผ่านมาธุรกิจบ้านมือสองมีอัตราการเติบโตขึ้น 10-15 % แต่ในช่วงปลายปีที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากปัญหาทางการเมืองบ้าง เนื่องจากประชาชนไม่มั่นใจสถานการณ์การเมือง จึงชะลอการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย เพราะต้องการดูทิศทางของบ้านเมืองก่อน สำหรับแนวโน้มในช่วงปีนี้ ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ ขึ้นอยู่กับการแก้ไขปัญหาการเมืองว่าจะคลี่คลายไปในทิศทางใด หากสถานการณ์ยืดเยื้อเชื่อว่าจะส่งผลต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะบ้านมือสองอย่างแน่นอน เนื่องจากเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อจิตวิทยาการบริโภค และหากเกิดเหตุการณ์รุนแรงจะส่งผลต่อภาคเศรษฐกิจของประเทศด้วย
นายแพทย์สมศักดิ์ มุนีพีระกุล นายกสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ไทย เปิดเผยถึงสถานการณ์ของตลาดบ้านมือสองว่า ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย คาดว่าปัญหาการเมืองน่าจะทำให้ตลาดบ้านมือสองในช่วงไตรมาสที่ 1-2 ไม่สดใสเหมือนกับปีที่ผ่านมา ดังนั้นผู้ประกอบการจะต้องทำงานหนักขึ้นกว่าสถานการณ์ปกติ เนื่องจากหากเปรียบเทียบจำนวนบ้านมือสองในตลาดและความต้องการซื้อนั้นยังมีความแตกต่างกันสูงมาก เพราะในตลาดมีสินค้าประมาณ 300,000-350,000 หน่วย แต่มีความต้องการซื้อประมาณ 25 % หรือประมาณ 70,000-80,000 หน่วยต่อปีเท่านั้น
นายแพทย์สมศักดิ์กล่าวว่า การแข่งขันของบ้านมือสองนั้นแข่งขันกันดุเดือดไม่แพ้อสังหาริมทรัพย์ใหม่ นอกจากบ้านประเภทต่าง ๆ ที่ประกาศขายแล้ว ยังมีทรัพย์จากกรมบังคับคดีและจากสถาบันการเงิน ในขณะเดียวกันในตลาดมีนายหน้าทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลจำนวนมาก เนื่องจากเป็นอาชีพที่เข้ามาทำง่ายไม่มีกฎหมายควบคุมเหมือนกับธุรกิจอื่น และในอนาคตจะมีนายหน้าจากกลุ่มประเทศอาเซียนมาร่วมวงแข่งขันอีก ทั้งนี้ ปัจจุบันนี้มีนายหน้าต่างชาติเข้ามาทำงานในเมืองไทย โดยเฉพาะย่านถนนสุขุมวิทและเมืองท่องเที่ยวต่างๆ เช่น พัทยา ภูเก็ต สมุย เชียงใหม่ หัวหินฯลฯ
ปัจจุบันไทยยังไม่มีพระราชบัญญัตินายหน้าอสังหาริมทรัพย์ประกาศใช้ สมาคมนายหน้าฯ จึงมีบทบาทในการควบคุมการทำงานของสมาชิกที่เป็นองค์กรให้ปฏิบัติงานภายใต้จรรยาบรรณ และเป็นองค์กรทำหน้าที่เพิ่มศักยภาพให้นายหน้ามีความรู้และความสามารถในการให้บริการลูกค้า ทั้งยังทำหน้าที่ช่วยปกป้องผู้ใช้บริการไม่ว่าจะเป็นผู้ซื้อหรือผู้ขายให้ได้รับความเป็นธรรมและเป็นองค์กรที่ผู้บริโภคสามารถร้องเรียนได้หากได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์รวมของสมาชิกในการทำงาน และร่วมกันสร้างสรรค์องค์กรให้เป็นที่น่าเชื่อถือ เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) ในปี 2558
สมาคมฯเห็นว่าถ้านายหน้าอสังหาริมทรัพย์มีพระราชบัญญัติออกมาดูแลและควบคุม เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ซึ่งจะช่วยให้ปริมาณบ้านมือสองที่จะขายผ่านนายหน้าฯมีมากขึ้น และเชื่อว่าจะกระตุ้นให้เจ้าของทรัพย์สินที่ทิ้งไว้อย่างเปล่าประโยชน์ถูกนำมาขาย นอกจากนี้สมาคมฯ จะเรียกร้องให้ภาครัฐมีมาตรการถาวรในการสนับสนุนบ้านมือสอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาษีหรือเรื่องค่าธรรมเนียมการโอน เพื่อทำให้เกิดการซื้อขายบ้านมือสองและช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศดีขึ้น
ข่าวเด่น