"บี เตชะอุบล"โผล่อีก นักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหม่ ทายาท "สดาวุธ เตชะอุบล" หวังช็อปหุ้นกิจการถูก แต่ไม่อยากใช้เงินก้อนใหญ่ ซื้อกิจการบริษัททั้งหมด ตลท.เบรคซื้อขายEIC หลังพบ "บี" เข้าซื้อหุ้นในตลาดสูงกว่าทำคำเสนอซื้อ
“บี เตชะอุบล” โผล่อีกแล้วนักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหม่ ทายาท “สดาวุธ เตชะอุบล” ที่ช็อปหุ้นราคาถูก แต่ไม่อยากใช้เงินก้อนใหญ่ซื้อกิจการบริษัททั้งหมด
ล่าสุด เมื่อวันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)ได้สั่งพักการซื้อขายของหลักทรัพย์ของบริษัท อุตสาหกรรมอีเล็คทรอนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ EIC จนกว่าจะเปิดเผยการแก้ไขการดำเนินงานเกี่ยวกับการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ EIC ของนายบีให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)
เนื่องจาก ก.ล.ต. ตรวจสอบพบว่านายบี เตชะอุบล ได้เข้าซื้อหุ้น EIC ในตลาดหลักทรัพย์ฯจำนวน 1,017,500 หุ้นในราคาหุ้นละ 3.50บาท ซึ่งสูงกว่าราคาที่ทำคำเสนอซื้อหุ้นละ 1.25 บาท ทำให้ราคาหุ้น EIC ที่ นายบีทำคำเสนอซื้อมิได้เป็นราคาหรือรูปแบบเดียวกันอันอาจก่อให้เกิดความไม่เท่าเทียมกันในระหว่างผู้ถือหุ้นของกิจการ โดยที่ นายบีอยู่ระหว่างทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ EIC ตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2556- 27 มกราคม 2557
คณะอนุกรรมการวินิจฉัยการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ ก.ล.ต. เห็นว่า การที่นายบีเสนอซื้อหุ้น EIC จากผู้ถือหุ้นบางรายผ่านตลาดหลักทรัพย์ในราคาที่สูงกว่าราคาตามคำเสนอซื้อ ไม่เป็นไปตามประกาศเกี่ยวกับการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของกิจการ ก.ล.ต.จึงมีหนังสือแจ้งให้นายบีชี้แจงและแก้ไขการดำเนินการให้เป็นไปตามบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องโดยเร็ว และให้นายบีเปิดเผยการแก้ไขการดำเนินการให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์แก่ EIC เพื่อให้บริษัทเผยแพร่ข้อมูลต่อผู้ถือหุ้นผ่านระบบสารสนเทศของตลาดหลักทรัพย์ฯต่อไป
ทั้งนี้นายบี เตชะอุบล เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวข้างต้นว่า ล่าสุดได้ทำหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงส่งไปยังกลต. เพื่อขอความเป็นธรรม และขอยืนยันว่า การดำเนินการของตนทำไปโดยมิได้มีเจตนาฝ่าฝืนข้อกำหนดตามที่กลต.แจ้งมาแต่อย่างได้ ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล้วนเป็นเรื่องที่เกิดจากความสำคัญผิดในลักษณะของธุรกรรมซื้อขายหุ้นของตนเอง มิได้มีเจตนาแสวงหาผลประโยชน์ เอาเปรียบ หรือปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นรายอื่นโดยไม่เป็นธรรมแต่อย่างใดทั้งสิ้น
“ผมเข้าใจโดยสุจริตว่า สามารถซื้อหุ้น EIC ได้ภายหลังจากระยะเวลา 90 วันนั้น และเป็นการกระทำที่ไม่ขัดต่อกฎหมาย อย่างไรก็ดี ภายหลังที่ได้ปรึกษากับที่ปรึกษากฎหมายในวันที่ 18 ธันวาคม 2556 ทันทีภายหลังที่ได้หุ้นดังกล่าวมา ผมได้รับคำแนะนำว่า การได้หุ้นดังกล่าวอาจเข้าข่ายเป็นการไม่ปฏิบัติตาม พรบ. หลักทรัพย์ฯ และกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง จึงเป็นเรื่องที่ผมได้สำคัญผิดในลักษณะของธุรกรรมซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าสามารถทำได้ แต่จริงๆ ไม่สามารถทำได้ ซึ่งหากรู้ตั้งแต่ต้น ผมก็จะไม่ทำรายการซื้อหุ้นดังกล่าวอย่างแน่นอน”
นายบียังระบุอีกว่า เพื่อแก้ไขเหตุการณ์ดังกล่าว ในเวลาก่อนตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดการซื้อขายในวันที่ 18 ธันวาคม 2556 ซึ่งเป็นระยะเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงหลังจากที่ได้หุ้นดังกล่าวมา ตนได้แจ้งต่อบริษัทหลักทรัพย์โกลเบล็ก จำกัด (บริษัทหลักทรัพย์ฯ) ว่า ตนอยู่ในช่วงการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ EIC ซึ่งตนสำคัญผิดโดยที่ปรึกษากฎหมายได้แจ้งว่าการซื้อขายดังกล่าวอาจเข้าข่ายไม่ปฏิบัติตามเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ตนจึงได้ยกเลิกการทำธุรกรรมการซื้อขายดังกล่าวต่อบริษัทหลักทรัพย์ ฯ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเยียวยาแก้ไขเหตุการณ์ในขณะนั้น ตนได้สั่งให้บริษัทหลักทรัพย์ฯ เร่งโอนหุ้นจำนวนทั้งหมดที่ได้มาในขณะนั้น กล่าวคือ หุ้นจานวน 1,017,500 หุ้น ให้แก่บุคคลอื่นทันทีในราคา 3.50 บาท โดยข้าพเจ้าไม่ได้ผลกำไรจากส่วนต่างของราคาหุ้น หรือประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น
“จากข้อเท็จจริงข้างต้น ผมขอยืนยันว่า ไม่มีเจตนาที่จะกระทำผิดเงื่อนไขการคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ EIC ตามหนังสือดังกล่าวข้างต้นแต่อย่างใดทั้งสิ้น เพราะหากมีเจตนา ผมคงไม่แจ้งยกเลิกคำสั่งดังกล่าวทันทีและคงไม่โอนหุ้นทั้งจำนวนออกไปโดยทันทีในวันเดียวกัน”
ขณะที่ก่อนหน้านั้น บี ยังเป็นอีกผู้หนึ่งที่สนใจ ธุรกิจเดินเรือ บมจ.โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ (TTA) ซึ่งถือว่ามีขุมทรัพย์มหาศาล หลายหมื่นล้านบาท เนื่องจากเป็นหุ้นที่ไม่มีเจ้าภาพ หมายถึงผู้ถือหุ้นใหญ่ ดังนั้นทิศทางธุรกิจจึงตกอยู่ที่ฝ่ายบริหาร เช่นกันครั้งนั้น นายบี อ้างว่าได้รวบรวมหุ้น 30 % จากนั้นลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศพร้อมทั้งยังเข้าเจรจากับฝ่ายบริหาร ซึ่งขณะนั้นคือ ม.ล.จันรจุฑา จันทรทัต ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TTA เพื่อขอเปลี่ยนแปลงบอร์ดและผู้บริหารแต่พอตรวจสอบรายชื่อผู้ถือหุ้นกลับไม่พบ ผู้บริหารของ TTA จึงไม่รับข้อเสนอของนายบีผู้นี้
ทั้งสองเหตุการณ์เป็นการสะท้อนถึงการเลี่ยงใช้เงินทั้งก้อน อย่างกรณีอยู่ระหว่างทำคำเสนอซื้อ EIC ที่ราคาหุ้นละ1.25 บาท แต่ราคาในกระดานแพงกว่าราคาเสนอซื้อคงไม่มีใครจะยอมขายอย่างแน่นอน เช่นกันกรณี TTA หากบีถือหุ้น TTA จริง 30 % ก็เข้าข่ายทำคำเสนอซื้อด้วย แต่พอตรวจสอบกลับไม่พบ นักช็อปของถูกแต่ไม่อยากใช้ทั้งก้อนซื้อกิจการ
(13).jpg)
ข่าวเด่น