แฟชั่น-เดินทาง-กินดื่ม-เที่ยว
โรเมโอและจูเลียต โศกนาฏกรรมความรัก


 


ใกล้เทศกาลแห่งความรักแล้ว ทำให้นึกถึงภาพยนตร์รักที่มีการนำกลับมาสร้างกันหลายยุคด้วยกัน  ซึ่งก็ประสบความสำเร็จทุกยุค ไม่ว่าคู่ไหนมาแสดงนำก็โด่งดังไปทุกคู่ เรื่องที่ว่านี้ก็คือ “โรเมโอและจูเลียต”

เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากบทละครชื่อก้องโลกของ “วิลเลี่ยม เชกสเปียร์” เรื่องราวโศกนาฏกรรมความรักของโรเมโอและจูเลียต เริ่มต้นขึ้นด้วยความโกรธแค้นชิงชังของสองตระกูล ม็องตากิว (Montague) และ คาปูเล็ท (Capulet) แต่แล้วเรื่องราวก็พลิกผัน เมื่อทายาทของทั้งสองตระกูล (โรเมโอจากตระกูลม็องตากิว และจูเลียตจากตระกูลคาปูเล็ท) มาตกหลุมรักกัน ความรักที่ก่อตัวขึ้นท่ามกลางความเคียดแค้นของทั้งสองตระกูล นำพาให้เกิดจุดจบอันน่าเศร้าในความรักของทั้งสอง

เรื่องนี้เกิดขึ้น ณ เมืองเวโรนา ได้มี 2 ตระกูลใหญ่ คือ ตระกูลคาปุเล็ต และ มอนตาคิวซึ่งไม่ถูกกันมาช้านาน เรื่องเริ่มขึ้นเมื่อ “โรเมโอ” แห่ง ตระกูลมอนตาคิว ได้แอบแฝงกายเข้าไปในงานเลี้ยงของ ตระกูลคาปุเล็ตและได้พบกับ “จูเลียต” เพียงทั้งคู่สบตากันทั้งคู่ก็ตกหลุมรักกัน แต่กลับมีอุปสรรคเพราะความบาดหมางกันของทั้ง 2 ตระกูล “โรเมโอ” กับ “จูเลียต” จึงได้จัดการแต่งงานกันอย่างลับๆ วันหนึ่ง “เมอร์คิวชิโอ”  เพื่อนรักของ “โรเมโอ” เกิดการทะเลาะกับญาติของ จูเลียตและญาติของจูเลียตก็ได้ฆ่าเพื่อนรักของโรเมโอตาย โรเมโอโกรธมากจึงได้พลั้งมือฆ่าญาติของจูเลียตตาย โรเมโอจึงได้รับคำตัดสินให้เนรเทศออกนอกเมืองตลอดกาล แล้วเมื่อจูเลียตต้องแต่งงานโดยที่จูเลียตไม่ต้องการ จูเลียตจึงพยายามหาทางที่จะหนีหลีกหนีงานแต่งงาน เมื่อจูเลียตได้รู้เรื่องยาวิเศษที่ทำให้เหมือนตายแล้วแต่จริงๆ ยังไม่ตายจากบาทหลวงที่ทำพิธีแต่งงานให้ทั้งคู่ จึงกินเข้าไปแล้วจากนั้นบาทหลวงก็ส่งม้าเร็วส่งสารถึงแผนการดังกล่าวแก่โรมิโอ แต่โรเมโอสวนกับคนส่งสาร โรเมโอมาเข้าใจว่าจูเลียตตายจริงๆ จึงเสียใจมากจึงดื่มยาพิษฆ่าตัวตาย โรเมโอสิ้นใจเพียงครู่เดียวจูเลียตก็ฟื้นขึ้นมา พอจูเลียตเห็นดังนั้นจึงใช้กริตของโรเมโอฆ่าตัวตายตามโรเมโอไป บิดามารดาทั้งสองฝ่ายมากถึงก็โศกเศร้ามาก จึงเลิกวิวาทบาดหมางกันนับแต่นั้นเป็นต้นมา


จากบทละครสู่จอภาพยนตร์

ในช่วงแรกเริ่มของการดัดแปลงงานละครของโรมิโอและจูเลียต เป็นงานที่ภาพยนตร์ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะละครนั้นเต็มไปฉากแห่งสัญลักษณ์ที่ผู้คนจดจำ ไม่ว่าจะเป็น ฉากระเบียงห้องนอนของจูเลียต ฉากการตายของไทบอลท์และ เมอร์เคียวติโอ หรือแม้กระทั่งฉากบนแท่นวางศพในฉากสุดท้ายของเรื่อง รวมไปถึงบทพูดในหลายๆ ประโยคของบทละครเรื่องนี้

 

ย้อนกลับไปเมื่อยุคเริ่มต้นแห่งศตวรรษที่ 19 หลังจากที่ได้เริ่มมีธุรกิจภาพยนตร์เพียงแค่ 4 ปี บทละครโรมิโอก็ได้ถูกหยิบยกขึ้นมาสร้างครั้งแรกในภาพยนตร์ฝรั่งเศส ในปี 1908 วงการฮอลลีวู้ดก็หยิบยกเอาไปใช้เป็นครั้งแรกเช่นเดียวกัน อีกครั้งหนึ่งในปี 1916 จากนั้น ในปี 1936 บริษัท MGM ก็หยิบเรื่องนี้เอาไปสร้าง ในปี 1954 ฉบับของประเทศอังกฤษ ก็ได้สร้างขึ้นอีกครั้งด้วย ในฉบับนี้ได้รางวัลในเวที เวนิซ ฟิล์ม เฟสติวัล

 

แล้วก็มาถึงฉบับที่โด่งดังที่สุดก็คือในปี 1968 กำกับภาพยนตร์โดย ฟรานโก้ เซฟฟิลี่ นำแสดงโดย โอลิเวีย ฮัสสี่ และ ลีโอนาร์ด ไวท์ติ้ง ภาพยนตร์ได้รับรางวัลออสการ์ในสาขาถ่ายภาพยอดเยี่ยม การแต่งกายยอดเยี่ยม และทำเงินไปทั้ง 40 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากทุนสร้างเพียงแค่ 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

 

ฉบับของ ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ ในปี 1996 นั้น กำกับโดยผู้กำกับฯ มือทอง บาซ เลอห์มาน ภาพยนตร์ได้รับการตีความใหม่ โดยใช้เบื้องหลังของโลกที่เกิดขึ้นเหมือนกับเป็นยุคสมัยใหม่ โดยมีแบ็กกราวนด์เป็นเมืองไมอามี่ของอเมริกาเป็นศูนย์กลางของเรื่อง หนังเปลี่ยนจากการดวลดาบเป็นการดวลปืน จากฉากระเบียงห้องนอนกลายมาเป็นฉากสระว่ายน้ำ และหนังก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จนกระทั่ง บาซ เลอห์มาน ได้รับหน้าที่ให้กลับไปทำภาพยนตร์ในแนวเดียวกันอีกในเรื่อง Moulin Rouge


โรมิโอและจูเลียต ปี 2013  ได้นักแสดงนำวัยรุ่นกลุ่มใหม่ อย่าง ดักลาส บูธ ซึ่งเริ่มฝึกการแสดงที่ โรงละครเยาวชนประจำชาติ ก่อนที่เขาได้เริ่มเข้าวงการนักแสดง และ เฮลี่ย์ สไตน์เฟล จากการคัดเลือกนักแสดงกว่า 100 ชีวิต จนกระทั่งมาเหลือ 10 คนสุดท้าย และหนึ่งในนั้นคือ เฮลี่ย์ สไตน์เฟล

ภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องโรมิโอและจูเลียตก็มีอีกไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์คลาสสิกอย่าง West Side Story ที่ได้รับแรงบันดาลใจโดยตรง จนกลายมาเป็นแบ็กกราวนด์ในเมืองนิวยอร์ก ยุค 50 และที่ลืมไม่ได้คือ Shakespeare in Love ที่ได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมไปครองจากเวทีออสการ์ หรือการ์ตูนเรื่อง Gnomeo and Juliet 


พลังแห่ง “ความรัก” สามารถทำให้คนประสบความสำเร็จในชีวิตได้ และ ในขณะเดียวกันก็สามารถทำให้ชีวิตล้มเหลวได้เช่นเดียวกัน ขึ้นอยู่กับว่าคุณเลือกที่จะรักแบบไหน บางคนรักโดยใช้เหตุผลนำ ต่างจากบางคนที่มักจะใช้อารมณ์ในเรื่องของความรัก คนประเภทนี้จะผิดหวังได้ง่าย ไม่ว่าคุณจะมีความรักแบบไหนก็ตาม หากคุณมีความจริงใจและปล่อยไปตามธรรมชาติ ไม่เสแสร้งแกล้งรัก ให้อีกฝ่ายได้รักในตัวตนของคุณ เมื่อตกลงปลงใจรักกันแล้ว เชื่อแน่ว่าชีวิตรักของคุณจะยั่งยืนแน่นอนเพราะคุณได้เลือกรัก หรือว่าเลือกก่อนแล้ว ไม่ใช่รักเผื่อเลือก 


LastUpdate 10/02/2557 10:53:49 โดย : Admin
18-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 18, 2024, 8:59 pm