ไอริส กรุ๊ป เผยปีนี้ลงทุนโครงการใหม่ 2 แห่ง เกาะแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง ราคาตารางเมตรละ 43,000 บาท พร้อมขยายการลงทุนสู่ต่างจังหวัด ชูดีไซน์โปร่งโล่ง สบาย ไม่แออัด ธรรมชาติโอบล้อม เปิดรับทัศนียภาพและมุมมองใหม่ได้กว้างขึ้น 
 

นายกิตติพงษ์ สุมานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอริส กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2557 จะมีอัตราการขยายตัวไม่มากเมื่อเทียบปี 2556 ที่มีอัตราการเติบโต 7% ซึ่งเป็นอีกปีหนึ่งที่มีความท้าทายสูงมาก โดยมีปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ส่งผลกระทบด้านจิตวิทยาต่อภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ คือ ความขัดแย้งและเสถียรภาพการเมือง ซึ่งหากสถานการณ์ทางการเมืองจบลงในระยะเวลาอันสั้น และไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น จะทำให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคฟื้นตัวเร็วขึ้น

ทั้งนี้ หากปัญหาการเมืองหมดไป ก็ทำให้การตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยกลับมาทันทีในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจโดยตรง คือ ความเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากหนี้ภาคครัวเรือนอยู่ในอัตราค่อนข้างสูง ถึงแม้จะมีปัจจัยบวกในเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับต่ำ ที่ส่งผลให้ความต้องการที่อยู่อาศัยมีอย่างต่อเนื่อง

สำหรับแผนการดำเนินงานของบริษัทในปีนี้ จะเปิดโครงการใหม่ 2 โครงการ  โครงการแรก คือ โครงการดิ ไอริส บางใหญ่ บนพื้นที่ 9 ไร่เศษ ตั้งอยู่ในซอยจันทร์ทองเอี่ยม เป็นอาคารสูง 8 ชั้น จำนวน 5 อาคาร รวมกว่า 900 ยูนิต ซึ่งทุกยูนิตถูกออกแบบให้เป็นแบบ 1 ห้องนอน มีขนาดพื้นที่ให้เลือก 3 แบบ 6 ขนาดห้อง เริ่มต้นที่ 24.85 – 41.90 ตารางเมตร ราคา Presale เริ่มต้นที่ 999,000 บาท หรือเฉลี่ยเริ่มต้นที่ตารางเมตรละ 43,000 บาท มูลค่าโครงการรวมกว่า 1,160 ล้านบาท ซึ่งจะเปิดการขายอย่างเป็นทางการในปลายเดือนมีนาคมนี้ ส่วนอีก 1 โครงการ จะพัฒนาในต่างจังหวัด บนพื้นที่ 10 ไร่ เป็นคอนโดมิเนียม สูง 8 ชั้น มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการวางแผน คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงครึ่งหลังของปีนี้

นายกิตติพงษ์ กล่าวอีกว่า โครงการ ดิ ไอริส บางใหญ่ ถูกพัฒนาภายใต้คอนเซ็ปต์ โมเดิร์น ทรอปิคอล เพื่อให้สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตในไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายใจกลางเมือง  สู่ความสะดวกสบายในทำเลทองที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติ มีการออกแบบผังโครงการ ให้ทุกอาคารเป็นอิสระต่อกันและไม่บดบังทัศนียภาพซึ่งกัน ทำให้ทุกยูนิตสามารถเปิดรับวิวธรรมชาติได้อย่างเต็มที่แบบ 180 องศา รวมทั้งออกแบบให้มีสวนธรรมชาติล้อมรอบโครงการ และมีสวน VERTICAL  GARDEN ให้บรรยากาศสวนจากภายนอกเชื่อมสู่ภายในโครงการได้อย่างลงตัว

พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ สระว่ายน้ำยาวขนาน 2 ตึกกว่า 100 เมตร  Iris Arena ฟิตเนส  สนามฟุตซอลในร่ม จุดเชื่อมต่อ WIFI SERVICE และใช้ระบบให้แสงสว่างแบบ LED ทุกยูนิต  พร้อมโดดเด่นด้านทำเลที่ตั้งที่มีศักยภาพ ใกล้แนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีคลองบางไผ่ ตั้งอยู่กลางแหล่งคมนาคมหลากหลายรูปแบบ เป็นจุดศูนย์กลางและอยู่ใกล้กับแหล่งสาธารณูปโภค  และมอเตอร์เวย์สายตะวันตก  บางใหญ่-บ้านโป่ง-กาญจนบุรี เชื่อมต่อท่าเรือทวาย ทะเลอันดามัน  เส้นทางที่เปิดสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนในอนาคต เพื่อรองรับการก้าวสู่ในยุค AEC
 
ด้านกลยุทธ์ทางการตลาดนั้น จะสร้างการรับรู้และตอกย้ำความเชื่อมั่นแบรนด์ “ไอริส” กับกลุ่มเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักยังคงเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ วัยเริ่มต้นทำงานที่ชื่นชอบความทันสมัย มีความต้องการในการใช้ชีวิตที่มีไลฟ์สไตล์เป็นของตนเอง โดยมุ่งเน้นการสื่อสารทั้งในรูปแบบ Above the line ประมาณ 20% และ Below the line ประมาณ 70% ผ่านกิจกรรมทางการตลาด ณ จุดขาย เพื่อดึงลูกค้าเข้าเยี่ยมชมโครงการ เพิ่มช่องทางสื่อออนไลน์ ซึ่งปัจจุบันลูกค้ากลุ่มเป้าหมายให้ความสำคัญและเข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว  
 

ส่วนของความคืบหน้า โครงการ “เวนิส ดี ไอริส วัชรพล”  เดสติเนชั่นสไตล์เวนิสแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ บนพื้นที่กว่า 40 ไร่ มูลค่าโครงการรวมกว่า 1,810 ล้านบาท มีความคืบหน้าด้านการก่อสร้างแล้วเกือบ 100% มียอดขายแล้วกว่า 80% หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,135 ล้านบาท ซึ่งจะก่อสร้างแล้วเสร็จและพร้อมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในเดือนธันวาคมนี้