อสังหาริมทรัพย์
วสท.เร่งตรวจสอบอาคารถล่ม เล็งนำเป็นกรณีศึกษา


 

 

 

วสท.ส่งทีมผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบโครงการก่อสร้างอาคารสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ถล่ม เตรียมจัดทำมาตรฐานในวงการก่อสร้าง หวังป้องกันอาคารถล่มในอนาคต

 

 

 

 

นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายก  วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์  (วสท.)  เปิดเผยถึง กรณีที่ปูนขนาดใหญ่ถล่มลงมาทับคนงานก่อสร้าง อาคารสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการว่า หลังจากที่วสท.ได้นำผู้เชี่ยวชาญไปตรวจสอบโครงสร้างแล้ว พบว่าปล่องลิฟท์ หรือสลิปฟอร์มนั้น หักหล่นกระแทกแผ่นทางเดินเชื่อมระหว่างอาคาร1และอาคาร 2 เนื่องจากปล่องลิฟท์นั้นก่อสร้างลักษณะที่สูงชะรูดขึ้นไปจากพื้นถึง 26 เมตร เป็นลักษณะคล้ายไม้บรรทัด 2 อันยื่นขึ้นไปตามแนวสูง รวมทั้งค่อนข้างบางและการใช้เหล็กค้ำยันที่อาจจะห่างจนเกินไป ไม่มีลักษณะของการไขว้เพื่อความแน่นหนา ประกอบกับอยู่ในพื้นที่ริมทะเล ซึ่งมีลมพัดแรงตลอดเวลา อาจจะมีผลกระทบทำให้ข้อต่อของเหล็กค้ำยันไม่มั่นคง จนหักกลางลงมาทันที

ทั้งนี้ในส่วนของวสท.มีข้อเสนอแนะเบื้องต้นให้แก่ผู้บริหารโครงการไปแล้วว่า ต้องเร่งหาสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว เพื่อเป็นองค์ความรู้ ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นอีกในอนาคต และหากมีการก่อสร้างงานในลักษณะนี้อีกจะต้องทำให้รัดกุมกว่านี้ เช่น การใช้เหล็กค้ำยันในลักษณะไขว้กัน เพื่อเพิ่มความแข็งแรง เป็นต้น

พร้อมกันนี้จะนำกรณีที่เกิดขึ้นนี้มาเป็นกรณีศึกษา เพื่อเร่งจัดทำมาตรฐานในการก่อสร้างอาคารสำหรับวงการต่อไป โดยจะให้ความสำคัญ ทั้งมาตรฐานด้านการออกแบบที่ดี การใช้วัสดุที่ดี การก่อสร้างที่ดี และการบำรุงรักษาที่ดี ซึ่งปัจจุบันยังมีเพียงมาตรฐานด้านการออกแบบที่ดีเท่านั้น

 

 

ด้านนายสิริวัฒน์ ไชยชนะ เลขาธิการ วสท. กล่าวว่า จากการสำรวจโดยรอบเบื้องต้นพบว่า การก่อสร้างแผ่นปูนทางเชื่อมระหว่างอาคารนั้นมั่นคงแข็งแรง แต่สาเหตุที่ทำให้ถล่มลงมานั้น เนื่องจากได้รับแรงกระแทกจากปล่องลิฟท์ หรือ สลิปฟอร์ม ซึ่งสูงจากพื้น 25-30 เมตร หักลงมากระแทกใส่ จนแผ่นปูนดังกล่าวถล่มทับคนงานที่นั่งพักอยู่ในชั้นล่างได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต รวมถึงคนงานที่ทำงานอยู่ด้านบนของสลิปฟอร์มดังกล่าวด้วย

ทั้งนี้ เมื่อตรวจสอบแท่งปูน ที่ทำเป็นปล่องลิฟท์ พบว่า มีการหักโค่นช่วงกลางของแผ่นปูน ซึ่งอาจเกิดความไม่สมดุลระหว่างการก่อสร้าง หรืออาจมีสิ่งใดไปกระแทกด้านบนของปล่องลิฟท์ดังกล่าว จนทำให้หักโค่นลงมา ทั้งนี้ จะนำแท่นปูนดังกล่าวไปตรวจสอบแรงอัดของคอนกรีตในห้องปฏิบัติการด้วยว่า เป็นการเร่งก่อสร้างโดยที่คอนกรีตยังไม่แข็งแรงเพียงพอหรือไม่ รวมถึงตรวจสอบวัสดุที่ใช้ก่อสร้าง เช่น ปูน เหล็ก ว่าใช้ของที่มีคุณภาพตามที่กำหนดหรือไม่ เป็นต้น คาดว่าต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ จึงจะได้ข้อสรุป

สำหรับแบบแปลนการก่อสร้างอาคารนั้น จากการตรวจสอบแล้วพบว่าได้มาตรฐาน มีคุณภาพ และต้องประชุมร่วมกันอีกครั้ง เพื่อหาทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก เพราะยังต้องก่อสร้างปล่องลิฟท์อีกหลายตัว ซึ่งได้แนะนำวิธีการที่ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุให้ผู้รับเหมาไปแล้ว
 


LastUpdate 27/02/2557 13:37:58 โดย : Admin
25-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 25, 2024, 5:49 pm