แบงก์-นอนแบงก์
ธ.ก.ส.ตั้งกองทุนช่วยชาวนา รับบริจาค10มี.ค.-30มิ.ย.57


 

 

 

ธ.ก.ส. ตั้งกองทุนช่วยเหลือชาวนา ระหว่างรอเงินกู้ที่กระทรวงการคลังจัดหาให้และเงินระบายข้าวจากกระทรวงพาณิชย์ ตามข้อเสนอของประชาชนที่ห่วงใยชาวนา เริ่ม 10 มีนาคม- 31 ธันวาคม 2557 ตั้งเป้า 20,000 ล้านบาท เป็นกองทุนโปร่งใส

 

 

 

นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า จากการที่ชาวนานำผลผลิตไปเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือกปีการผลิต 2556/57 กับรัฐบาล แต่ยังไม่ได้รับเงินทำให้ได้รับความเดือดร้อนนั้น กรณีดังกล่าวได้มีประชาชนส่วนหนึ่งที่รู้สึกว่าตนเองเป็นหนี้บุญคุณชาวนา อยากเข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยเหลือโดยขอให้มีช่องทางในการส่งเงิน รวมถึงสร้างความมั่นใจในการบริหารจัดการเงินดังกล่าวว่า จะสามารถไปถึงมือชาวนาผู้เดือดร้อนได้จริง ๆ ซึ่งน้ำใจเหล่านี้คือ การแสดงออกถึงความเอื้ออาทรและเป็นความงดงามที่คนในสังคมไทยมีต่อกัน ดังนั้นเพื่อให้ภาพเหล่านี้เกิดเป็นรูปธรรมในสังคม ธ.ก.ส.จึงได้จัดตั้งกองทุนช่วยเหลือชาวนา โดยจะเชิญชวนให้ประชาชนทั่วไปและนิติบุคคลที่มีความประสงค์จะช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของชาวนาในครั้งนี้ นำเงินมาสมทบไว้กับกองทุนช่วยเหลือชาวนาได้ เพื่อจะให้กองทุนนำเงินดังกล่าวไปจ่ายให้ชาวนาต่อไป

การสมทบทุนทำโดย 1. การบริจาคโดยโอนเข้าบัญชี “กองทุนช่วยเหลือชาวนา(เงินบริจาค)” ได้ตามจำนวนที่ผู้บริจาคประสงค์ 2. การสมทบเงิน “กองทุนช่วยเหลือชาวนา(แบบไม่มีผลตอบแทน)” จำกัดขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 1,000 บาท และ 3. การสมทบเงิน “กองทุนช่วยเหลือชาวนา(แบบมีผลตอบแทน)” สมทบไม่ต่ำกว่า 1,000 บาทเช่นกัน โดยกองทุนจะให้ผลตอบแทนร้อยละ 0.63 ต่อปี ซึ่งเงินที่สมทบตาม 2 และ 3 ธ.ก.ส.จะออกหลักฐานการรับเงินเรียกว่า “ใบสมทบกองทุน”ให้กับผู้สมทบเงินเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการรับเงินคืนตามเงื่อนไขเมื่อสิ้นสุดโครงการ

กองทุนจะเริ่มเปิดรับเงินบริจาคและเงินสมทบตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม – 30 มิถุนายน 2557 และสิ้นสุดโครงการในวันที่ 31 ธันวาคม 2557 ในวงเงินไม่เกิน 20,000 ล้านบาท และเมื่อได้รับเงิน กองทุนจะจัดสรรเงินดังกล่าวให้กับ ธ.ก.ส. เพื่อนำไปจ่ายให้กับเกษตรกรตามมูลค่าข้าวเปลือกในใบประทวน โดยเรียงตามลำดับที่ขึ้นทะเบียนใบประทวนไว้กับ ธ.ก.ส. ทั้งนี้กองทุนดังกล่าวจะแยกออกจากระบบปกติของธนาคาร

ธ.ก.ส. จะทำหน้าที่บริหารกองทุน ภายใต้คณะกรรมการบริหารกองทุนจำนวนไม่เกิน 7 คน โดยมีผู้จัดการ ธ.ก.ส.เป็นประธาน มีการจัดทำบัญชีตามมาตรฐานสากล และการรายงานผลการดำเนินงาน สถานะกองทุนให้สาธารณชนได้รับทราบ โดย ธ.ก.ส.จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการบริหารโครงการทั้งหมด และจะส่งเงินคืนให้ผู้สมทบเมื่อ ธ.ก.ส.ได้รับเงินจากการระบายข้าวที่กระทรวงพาณิชย์ส่งมาชำระหนี้คืนและหรือจากเงินที่กระทรวงการคลังจัดหามาให้ภายใน 31 ธันวาคม 2557 ทั้งนี้กองทุนสงวนสิทธิ์ในการคืนเงินสมทบก่อนครบกำหนด เมื่อสิ้นสุดโครงการและมีการชำระบัญชีตามโครงการเสร็จสิ้น กรณีมีเงินเหลือกองทุนจะนำเงินทั้งหมดไปบริหารจัดการเพื่อให้เกิดประโยชน์กับเกษตรกรต่อไป

นอกจากนี้ธ.ก.ส.ยังมีข่าวดีสำหรับพี่น้องชาวนาที่ยังไม่ได้รับเงินจำนำข้าวด้วย โดยธ.ก.ส ได้ยืดเวลาการชำระหนี้เดิมที่ชาวนามีอยู่กับ ธ.ก.ส. ไปอีก 6 เดือน และสนับสนุนเงินกู้เพื่อนำไปลงทุนทำการผลิตในฤดูกาลใหม่ หรือค่าใช้จ่ายในครัวเรือนที่จำเป็น ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 7 ต่อปี หรือร้อยละ 0.583 ต่อเดือน เพื่อลดปัญหาการไปพึ่งพาเงินกู้นอกระบบที่คิดดอกเบี้ย ในอัตราสูงและเป็นภาระหนัก เพื่อเป็นทางเลือกให้กับพี่น้องเกษตรกร โดยสามารถติดต่อที่ ธ.ก.ส.ใกล้บ้านทุกสาขา ส่วนเกษตรกรที่เป็นลูกหนี้สถาบันเกษตรกร เช่น สหกรณ์การเกษตร ธ.ก.ส.จะพิจารณาให้ความช่วยเหลือผ่านระบบของสหกรณ์นั้น ๆ ต่อไป

ทั้งนี้ การดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือกปีการผลิต 2556/57 ณ วันที่ 27 ก.พ. 2557 ธ.ก.ส. ได้ทยอยจ่ายเงินดังกล่าวให้เกษตรกรไปแล้ว 67,543 ล้านบาท คิดเป็นปริมาณข้าวเปลือกจำนวน 4.17 ล้านตัน เกษตรกร 546,780 ราย คงเหลือเงินที่ต้องจ่ายประมาณ 112,000 ล้านบาท ปริมาณข้าวประมาณ 6.7 ล้านตัน เกษตรกรประมาณ 900,000 ราย นายลักษณ์กล่าว

 


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 27 ก.พ. 2557 เวลา : 18:13:41
19-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 19, 2024, 6:56 am