แบงก์-นอนแบงก์
"กรุงไทย"ผนึกเคทีซี งัดสินเชื่อใหม่ "ผ่อนบ้านผ่านบัตร" ตั้งเป้าปั๊มสินเชื่อใหม่ 5 พันล้านบาท


 
กรุงไทยปิ๊งไอเดียปั๊มสินเชื่อบ้าน แถมได้ยอดบัตรเครดิต ป้อนบริษัทลูก ผนึกกำลังเคทีซีจัดแคมเปญ “ผ่อนบ้านผ่านบัตร” ตั้งเป้าโกยสินเชื่อใหม่อีก 3 - 5 พันล้านบาท
 
 
 
 
นายเวทย์ นุชเจริญ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานธุรกิจรายย่อยและเครือข่าย ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ธนาคารได้ร่วมกับบริษัทบัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ เคทีซี ออกสินเชื่อที่อยู่อาศัยใหม่  “สินเชื่อบ้านกรุงไทย ผ่านบ้านผ่านบัตร” โดยเพิ่มสิทธิประโยชน์และความสะดวกให้แก่ลูกค้าสินเชื่อบ้านและมีบัตรเครดิตของเคทีซี ให้สามารถผ่อนชำระค่างวดผ่านบัตรเครดิตเคทีซี ทำให้ลูกค้าได้รับทั้งความสะดวกในการชำระเงินซึ่งมีระยะเวลาปลอดดอกเบี้ยนานถึง 45 วัน ทั้งยังได้คะแนนสะสมบัตรเครดิตเช่นเดียวกับการใช้จ่ายผ่านบัตรตามปกติ
 
ขณะที่อัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อบ้านของแคมเปญนี้ ในช่วง 6 เดือนแรก จะคิดเพียง 0.99% ต่อปี ช่วงเดือนที่ 7-12 ดอกเบี้ยต่ำสุดที่ MRR-4% สำหรับปีที่ 2-3 ดอกเบี้ยต่ำสุดที่ MRR-7% และหลังจากนั้นดอกเบี้ย MRR-1.6% นอกจากนี้ หากลูกค้ายื่นขอสินเชื่อนี้ภายในวันที่ 30 ธ.ค. 2557 และจดจำนองภายใน 60 วันนับจากได้รับอนุมัติจะสามารถเลือกผ่อนชำระค่างวดในอัตราเพียงล้านละ 1,000 บาท นานถึง 6 รอบบิล ทั้งยังได้คะแนนสะสม KTC เพิ่มเป็น 2 เท่าในช่วง 3 รอบบิลแรกอีกด้วย
 
“เรามองว่าปีนี้ผู้บริโภคต้องการทางเลือกบริการต่างๆ ที่คุ้มค่าที่สุด และลดภาระค่าใช้จ่ายของตัวเองลง เราจึงออกแคมเปญให้ผ่อนเบาๆ ล้านละ 1,000 บาท ซึ่งแคมเปญลักษณะนี้ถือเป็นครั้งแรกในตลาดสินเชื่อบ้านและบัตรเครดิตที่ให้ชำระค่างวดผ่านบัตรได้ รวมถึงลูกค้าก็ได้คะแนนตามปกติด้วย ซึ่งคาดว่าน่าจะมีลูกค้าให้ความสนใจร่วมโครงการนี้คิดเป็นวงเงินสินเชื่อบ้านราว 3-5 พันล้านบาท ทั้งกลุ่มที่เป็นลูกค้าซื้อบ้านใหม่และรีไฟแนนซ์”
 
ขณะที่แนวโน้มการเติบโตของสินเชื่อบ้านในช่วงที่ผ่านมา นายเวทย์ กล่าวว่ายังอยู่ในระดับที่น่าพอใจและเป็นไปตามเป้าหมาย โดยสามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ประมาณ 2 หมื่นล้านบาท แต่ยอมรับว่าสถานการณ์ในตลาดเริ่มชะลอตัวลงไปจากปกติ ซึ่งธนาคารยังคงยึดเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่ออย่างเข้มงวดเช่นเดิม และยังคงเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อที่อยู่อาศัยในปีนี้ไว้ที่ 5 หมื่นล้านบาท หรือเติบโตราว 17%
 
“ในกลุ่มสินเชื่อบ้านเราไม่ได้ห่วงมากนัก เพราะส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าที่มีเงินเดือนผ่านธนาคารและมักตัดค่างวดสินเชื่อบ้านก่อน อาจจะมีกลุ่มที่เป็นเจ้าของกิจการที่เราต้องดูแลเป็นพิเศษหน่อย เพราะอาจได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจช่วงนี้บ้าง แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่จัดการได้”
 
นายเวทย์กล่าวอีกว่า สินเชื่อกลุ่มที่น่าเป็นห่วงมากกว่าในช่วงนี้คือ สินเชื่อธุรกิจเอสเอ็มอีรายเล็ก ที่วงเงินสินเชื่อไม่เกิน 10 ล้านบาท เพราะธุรกิจเหล่านี้จะไม่มีแผนธุรกิจไว้รองรับเหมือนเอสเอ็มอีที่เป็นรายใหญ่ ตรงนี้ธนาคารจะเข้าไปดูแลลูกค้ากลุ่มนี้เป็นพิเศษ ถ้าเป็นธุรกิจที่ยังมีโอกาสเติบโตได้ดี ธนาคารจะพยายามช่วยเหลือด้วยการให้วงเงินสินเชื่อหมุนเวียนเพิ่มขึ้น เพื่อยืดระยะในช่วงนี้
 
แต่ถ้าเป็นธุรกิจที่เริ่มอิ่มตัว โอกาสขยายตัวมีไม่มากนัก ก็จะใช้วิธีขยายเทอมการชำระเงิน พักหนี้โดยจ่ายเฉพาะดอกเบี้ย ขึ้นอยู่กับประเภทธุรกิจ
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 21 เม.ย. 2557 เวลา : 20:14:18
20-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 20, 2024, 8:23 am