รางวัลออสการ์ เป็นรางวัลที่นักแสดงอาชีพต่างก็ปรารถนาที่จะได้รับ เพราะเป็นรางวัลสำหรับคนในวงการภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่และมีผู้สนใจมากที่สุดในโลก (เหตุผลไม่ใช่อะไร เพราะภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดแพร่ไปทั่วโลกนั่นเอง) ซึ่งการที่จะได้รางวัลนี้มาครอบครองไม่ใช่ของง่าย อย่างไรก็ตาม แม้รางวัลนี้จะเป็นรางวัลที่มอบให้กับบุคคลทางด้านวงการภาพยนตร์ แต่ก็มีบางครั้งที่คนที่ไม่ใช่นักแสดงอาชีพได้รับรางวัลออสการ์ ซึ่ง 5 คนที่เป็นที่กล่าวขวัญมีดังนี้
จอห์น เฮาส์แมน
ชื่อของ "จอห์น เฮาส์แมน" ได้รับการจารึกว่าได้รับรางวัลออสการ์สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์เรื่อง "The Papr Chase" เมื่อปี 1974 ตัวของเขาเริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงจากละครเวที โดยการพบกับ "เวอร์จิล ธอมป์สัน" ผู้อำนวยการวงโอเปรา ในงานเลี้ยงค็อกเทล ซึ่ง "ธอมป์สัน" จ้างให้ "เฮาส์แมน" กำกับละครเวทีเรื่อง "Four Sains In Thr Acts" ซึ่งเคยเป็นละครโอเปราจากการสร้างของ "ธอมป์สัน" และจากนั้นมา "เฮาส์แมน" ก็ได้เป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Mercury กับ "ออร์สัน เวลเลส" ซึ่งนั่นทำให้ผลงานของ "เฮาส์แมน" ได้เข้าสู่ฮอลลีวูด โดยมีภาพยนตร์เกือบ 20 เรื่อง ซึ่งตัวเลขนี้มาจากบทความบทตวามของ Mental Foss
หลังจากการสร้างภาพยนตร์เมื่อตอนอายุ 66 ปี เขาก็ได้แสดงภาพยนตร์ เมื่อได้รับการเชื้อเชิญจาก "เจมส์ บริดจ์"
ซึ่งเคยเป็นผู้จัดการเวที ที่ยูซีแอลเอ และนั่นก็ทำให้ "เฮาส์แมน" ได้รับบท "มิสเตอร์ คิงส์ฟิลด์" ใน "The Papr Chase" และได้รางวัลออสการ์ไปครอง
แชร์
ใครที่เป็นคอบันเทิงน่าจะรู้จัก "แชร์" ดี ในนามของนักร้อง เพราะเธออยู่ในวงการดนตรีมานานแสนนาน โดยเริ่มตั้งแต่เธอเป็นคู่ดูโอ้ Sonny & Cher ซึ่งมีเพลงที่เป็นที่ประสบความสเร็จหลายเพลง เช่น "Bank Bank (My Baby
Shot Me Down)" , Gypsys,Tramps &Thieves." , "Half-Breed" และ "Dark Lady" และเมื่อออกมาเป็นศิลปินเดี่ยว ก็ดังสุดๆ และได้มีโอกาสแสดงภาพยนตร์ ซึ่งเมื่อปี 1988 เธอคว้ารางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากเรื่อง "Moonstruck"
โดยเรื่องนี้เธอรับบทเป็น "ลอเร็ตตา คาสตอรินี" ซึ่งเป็นบรรณารักษ์ในบรูกลีนเมื่อช่วงปลายทศวรรษปี 1930
"คาสตอรินี" สูญเสียสามีจากอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อหลายปีก่อน และเธอมีแผนจะแต่งงานใหม่กับ "จอห์นนี คามมาเรรี" แม้ว่าเธอจะไม่ได้รักก็ตาม แต่เมื่อเธอพบกับ "รอนนี" ซึ่งเป็นน้องชายของ "จอห์น" ทำให้เธอรู้สึกว่า "รอนนี" น่าจะเป็นคนที่ใช่สำหรับเธอ
ฮัง เอส โง
ตัวของ "ฮัง เอส โง" หรือ "เฮง งอร์" เป็นแพทย์ชาวกัมพูชา ที่สามารถรอดชีวิตจากยุคเขมรแดงได้ ตัวของ "ฮัง เอส โง" ถูกจำคุกเมื่อปี 1975 ชีวิตของเขาต้องเจอกับความเจ็บปวดไม่น้อย เขาต้องเห็นภรรยาเสียชีวิตไปต่อหน้า และนิ้วมือของเขาถูกตัด
ในปี 1979 "ฮัง เอส โง" หนีออกมาได้ และลี้ภัยไปยังแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เพื่อไปอยู่ใกล้ๆ พี่ชาย ซึ่งที่นั่น
เขาได้พบกับแมวมองที่หานักแสดงชาวกัมพูชามาแสดงเรื่อง "The Killing Fields" ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่บอกเล่าเกี่ยวกับสงครามกลางเมืองในกัมพูชา ซึ่งแมวมองคนนั้นก็ถ่ายภาพเขาไป และชวนให้เขาไปออดิชั่น ซึ่งเขาก็ทำได้ดี และได้รับเลือกให้แสดงภาพยนตร์เรื่องนี้ โดยถ่ายทำที่ประเทศไทย ซึ่งเรื่องนี้เขาได้รับรางวัลออสการ์สาขานักแสดงประกอบชายยอดเยี่ยมจากบท "ดิธ ปราน"
"เจนนิเฟอร์ ฮัดสัน"
ตัวของ "เจนนิเฟอร์ ฮัดสัน" เติบโตที่ชิคาโก และเรียนมัธยมที่ Dunbar Vocational Secondary School ก่อนที่จะเป็นนักร้องของ Disney Line ระยะหนึ่ง ทว่า ชื่อเสียงของเธอมามีมากที่สุด คือ ตอนที่เธอประกวดรายการเรียลลิตี้โชว์ American Idol ในซีซั่น 3 แม้เธอจะไม่ได้ตำแหน่งชนะเลิศ โดยได้เพียงอันดับ 7 แต่ความสามารถของเธอเป็นที่ยอมรับ หลังจบ American Idol แล้ว เธอได้ไปออดิชั่นเพื่อทดสอบเข้าแสดงภาพยนตร์เรื่อง Dreamgirls ซึ่งเธอเอาชนะนักแสดงฝีมือดีหลายคน มาคว้าบท เอฟฟี ได้ ซึ่งเธอก็ทำได้ดี โดยนอกจากจะได้รางวัลออสการ์ สาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมแล้ว ยังได้รับรางวัลลูกโลกทองคำและบาฟตาด้วย
"มาร์ลี แมตลิน"
"มาร์ลี แมตลิน" หูหนวกมาตั้งแต่เธออายุ 1 ขวบ หลังจากนั้นเธอเข้าเรียนที่ Hersey High School ที่อาร์ลิงตัน ไฮท์ ใน อิลลินอยส์ และในฤดูร้อนหนึ่งเธอเข้าโปรแกรม International Center for Deafness and The Art ซึ่งที่นี่ เธอได้แสดงละครเรื่อง "Wizard Of Oz" ซึ่ง"เฮนรี วิงเลอร์" นักแสดงที่ได้เล่นเรื่อง "Happy Days" ได้มาชมการแสดงของเธอ และ "วิงเลอร์" ชวนให้ "แมตลิน" มาแสดงภาพยนตร์เรื่อง "Children Of A Lesser God" ตอนที่เธออายุ 22 ในบท "ซาราห์ นอร์แมน" หญิงหูหนวกที่ทำงานเป็นคนทำความสะอาดในโรงเรียนสำหรับคนหูหนวกและผู้มีปัญหาทางการได้ยิน และเธอคว้ารางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำหญิงจากเรื่องนี้
.jpg)
.jpg)
.jpg)
ข่าวเด่น