ประกัน
"กรุงเทพประกันภัย" รับเศรษฐกิจแย่ หั่นเป้าเบี้ยประกันเหลือโตแค่ 5% เน้นรักษากำไรเหนียวแน่น


 

"กรุงเทพประกันภัย" หั่นเป้าฮวบ คาดเบี้ยปีนี้แค่ 16,325 ล้านบาท โตเพียง 5% จากเดิมตั้งเป้าโต 15% พร้อมปรับทัพครึ่งปีหลัง คุมราคาเหมาะสม - รุกตลาดรายย่อย - ดูแลระบบงานหลังบ้าน ยันนโยบายทุกสินค้าต้องมีกำไร
 
 
 
 
นายพนัส ธีรวณิชย์กุล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากปัญหาทางการเมืองที่กระทบต่อภาคเศรษฐกิจในปีนี้ค่อนข้างหนัก ซึ่งกระทบต่อกำลังซื้อผู้บริโภคอย่างหนักรวมถึงการลงทุนภาคเอกชนก็ชะลอตัว ทำให้บริษัทตัดสินใจปรับลดเป้าหมายเบี้ยประกันภัยลง โดยคาดว่าปีนี้จะสร้างเบี้ยได้ราว 16,325 ล้านบาท เติบโตเพียง 5% จากเดิมที่ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะสร้างเบี้ยได้ราว 18,000 ล้านบาท หรือเติบโต 15%
 
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาจากปัจจัยทางเศรษฐกิจหลายด้าน พบว่าอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำกว่าที่ควรจะเป็น เช่น จีดีพีปีนี้ที่คาดว่าจะเหลือเติบโตเพียง 1.5-2% ยอดขายรถใหม่ที่ช่วง 3 เดือนแรกทำได้ประมาณ 2.2 แสนคัน หดตัวลง 46% สินเชื่อของภาคธนาคารก็คาดว่าจะขยายตัวเพียง 5-7% ชะลอตัวลงจากปีที่แล้วที่สินเชื่อขยายตัว 14% สินค้าเกษตรก็ราคาตก ทั้งยางพาราและข้าว ซึ่งกระทบต่อกำลังซื้อในตลาด และการก่อสร้างก็ชะลอตัวเนื่องจากไม่มีโครงการลงทุนใหม่ๆ
 
“ผลกระทบนี้เกิดขึ้นกับทั้งระบบ คงไม่ใช่แค่กับบริษัทเรา โดยประเมินว่าภาพรวมของธุรกิจประกันภัยทั้งระบบในปีนี้ก็น่าจะเติบโตได้ในระดับ 5% เช่นกัน”
 
นายพนัสกล่าวอีกว่า ผลจากสภาพตลาดที่เติบโตชะลอลงมาก ทำให้การแข่งขันในตลาดเวลานี้เข้มข้นขึ้นมากเพื่อให้ได้งานเข้ามา โดยสะท้อนที่ราคาเบี้ยประกันภัยที่ถูกหั่นลงเพื่อแข่งขันในตลาดกันอย่างหนัก แต่ด้วยนโยบายของบริษัทยังคงเน้นการรับประกันภัยอย่างมีกำไร จึงยืนยันว่าจะไม่เข้าไปแข่งขันด้านราคาตามเกมในตลาด แต่จะเน้นการเติบโตที่เหมาะสมและมีความสามารถทำกำไรที่ดีมากกว่า
 
“ตอนนี้เรากล้าพูดได้ว่า สินค้าทุกตัวที่เราขายอยู่มีกำไรที่เหมาะสม ไม่มีตัวไหนที่ยอมตัดราคาแล้วรับประกันภัยมาแบบยอมขาดทุน เพราะเรามองว่าไม่ใช่การเติบโตที่ยั่งยืน ซึ่งปัจจุบันยังมีกฎเกณฑ์บังคับเรื่องเงินกองทุนอีก ถ้ารับประกันมาแล้วขาดทุน ก็จะกินเงินกองทุนเราเยอะขึ้น คงไม่คุ้ม”
 
โดยเฉพาะในตลาดประกันภัยรายย่อยที่บริษัทให้ความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ผ่านช่องทางการทำตลาดใหม่ๆ เช่น เทเลมาร์เก็ตติ้ง และจุดให้บริการด้านประกันภัย BKI Care Station ซึ่งสามารถขยายตลาดได้ค่อนข้างดีมาก รวมถึงการขยายไปสู่ตลาดต่างจังหวัดเพื่อรองรับการเปิดเออีซี ที่พยายามเปิดสาขาเพิ่มขึ้นมาตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งปีนี้ก็มีแผนจะขยายสาขาเพิ่มอีก 3-4 แห่งด้วย
 
นอกจากนี้ นายพนัสกล่าวอีกว่า ช่วงครึ่งปีหลังบริษัทน่าจะให้น้ำหนักกับการพัฒนาเรื่องระบบการทำงานและบริการต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น โดยเฉพาะเรื่องสินไหม คอลเซ็นเตอร์ ตลอดจนระบบการวางแผนการทำงานที่จะต้องพัฒนาให้สามารถปรับตัวได้สอดคล้องกับสภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วด้วย
 
สำหรับผลประกอบการในไตรมาสที่ 1 ปี 2557 บริษัทมีเบี้ยประกันภัยรับรวม 3,897 ล้านบาท ลดลง 7.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยมีกำไรจากการรับประกันภัย 420 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 623% และมีรายได้สุทธิจากการลงทุน 337 ล้านบาท ลดลง 16.8% โดยเมื่อหักภาษีเงินได้แล้ว บริษัทมีกำไรสุทธิ 627 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 61%
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 15 พ.ค. 2557 เวลา : 18:36:46
14-05-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ May 14, 2024, 10:23 pm