ธอส.แจงผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2557 ปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ทั้งสิ้น 29,356 ล้านบาท จากเป้าทั้งปีที่ตั้งไว้ไม่ต่ำกว่า 130,000 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 2,337ล้านบาท ขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL)  6.29% พร้อมเปิดแผนดำเนินงานเน้นกลยุทธ์ “ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง” และมุ่งพัฒนาบริการสู่ความเป็นเลิศ คู่กับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ตอบสนองความต้องการลูกค้าทุกกลุ่มสาขาอาชีพ รวมถึงเพิ่มช่องทางให้บริการครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วไทยเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า

นางอังคณา ปิลันธน์โอวาท ไชยมนัส กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2557  ณ วันที่ 31 มีนาคม 2557 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนว่า ธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อใหม่สร้างโอกาสให้คนไทยโดยเฉพาะกลุ่มรายได้น้อยและปานกลางมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองได้ทั้งสิ้น 32,718 บัญชี เป็นเงิน 29,359 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,535 ล้านบาท คิดเป็น 5.52% ส่งผลให้ ณ สิ้นไตรมาสที่ 1/2557 เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2556 ธนาคารมียอดสินเชื่อคงค้างรวมทั้งสิ้น 746,345 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.34%  และมีสินทรัพย์รวม 788,962 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.96% เงินฝากรวม 624,893 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.17% มีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จำนวน 46,931 ล้านบาท คิดเป็น 6.29% ของยอดสินเชื่อรวม ขณะที่ทรัพย์สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPA) คงเหลือจำนวน 1,871 ล้านบาท ลดลง 9.55% อย่างไรก็ตามธนาคารยังคงดำเนินตามแผนงานในการจำหน่ายทรัพย์ NPA ให้ได้มากที่สุด โดยจัดให้มีการประมูลบ้านมือสอง หรือทรัพย์ NPA ธอส.ปีละ 3 ครั้ง ล่าสุดเมื่อวันเสาร์ที่ 26 เมษายน ที่ผ่านมา ธนาคารได้จัดประมูลขายทรัพย์ NPA ทั่วประเทศ ยอดขายรวมได้ทั้งสิ้น  507 รายการ เป็นเงิน 261 ล้านบาท นับว่าบ้านมือสอง ธอส.ยังคงได้รับความสนใจจากลูกค้าประชาชนซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการสร้างโอกาสให้คนไทยมีบ้าน ทั้งนี้ธนาคารจะจัดประมูลทรัพย์ครั้งที่ 2 ประจำปี 2557 ในวันเสาร์ที่ 26 กรกฎาคม 2557

“สำหรับแนวทางการดำเนินงานในปีนี้ ยังคงเดินหน้าสานต่อภารกิจหลักสร้างโอกาสให้คนไทยมีบ้านเป็นของตนเองโดยเฉพาะกลุ่มรายได้น้อยและปานกลาง โดยดำเนินยุทธศาสตร์ที่จะขับเคลื่อนองค์กรเพื่อบรรลุวิสัยทัศน์ในการเป็น “ธนาคารมั่นคง ทันสมัย และเป็นผู้นำสินเชื่อด้านที่อยู่อาศัยอย่างครบวงจร” โดยมุ่งเน้นกลยุทธ์ “ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง” และมุ่งพัฒนาบริการสู่ความเป็นเลิศ ด้วยการการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินทั้งสินเชื่อและเงินฝากที่สามารถตอบสนองความต้องการลูกค้าได้ทุกกลุ่มเป้าหมาย อาทิ สินเชื่อบ้าน ธอส.-กบข.สำหรับข้าราชการที่เป็นสมาชิก กบข. อัตราดอกเบี้ย 0% นาน 7 เดือน กู้ได้สูงสุด 110% ของราคาประเมิน  โครงการบ้าน ธอส.เพื่อสานรัก สำหรับกลุ่มรายได้ไม่เกินเดือนละ 15,000 บาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ 1 ปี 3.50% วงเงินให้กู้รายละไม่เกิน 1.5 ล้านบาท สินเชื่อสำหรับกลุ่มลูกค้าวิชาชีพพิเศษ (แพทย์ ผู้พิพากษา – อัยการ นักบิน วิศวกรรม อาจารย์มหาวิทยาลัย) มอบส่วนลดอัตราดอกเบี้ยให้อีก 0.25% ใน 2 ปีแรก นอกจากนี้ยังมีสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษไตรมาส 2 สำหรับลูกค้าทั่วไป อัตราดอกเบี้ย ปีแรก 3.75% ” นางอังคณา กล่าว

นางอังคณา กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้านเงินฝากธนาคารยังคงให้ความสำคัญเสริมสร้างวินัยการออมให้กับประชาชน ซึ่งปัจจุบันภาพลักษณ์ด้านเงินฝากของ ธอส. เป็นที่ยอมรับในกลุ่มกว้างขึ้นทั้งอัตราดอกเบี้ยที่    จูงใจ และการเป็นสถาบันการเงินของรัฐที่มีความมั่งคง รวมถึงความจริงใจ ส่งผลให้ลูกค้ามั่นใจที่จะใช้บริการ โดยได้จัดทำผลิตภัณฑ์เงินฝากที่หลากหลายเพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าอาทิ เงินฝากออมทรัพย์ High Savings รับดอกเบี้ยสูง 2.75% ต่อปี (เงื่อนไขวงเงินฝากคงเหลือตั้งแต่ 1 แสน ถึง 5 ล้านบาทนอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่นเงินฝาก ธอส.-รักการออม สำหรับน้องๆหนูๆ ที่มีการฝากเงินตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ถึง 31 ธันวาคม 2557 ฝากเงินครั้งละไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท จะได้รับตราประทับ 1 ดวง เมื่อสะสมครบ 20 ดวง สามารถนำมาแลกรับกระเป๋าล้อลาก ธอส. 1 ใบ ฟรี!!

นางอังคณา กล่าวในตอนท้ายว่า นอกจากภารกิจหลักในการให้บริการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแล้ว ธอส. ยังมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจที่มีธรรมาภิบาล จรรยาบรรณ และความโปร่งใส รวมถึงให้ความสำคัญกับนโยบายการตอบแทนสังคมและสิ่งแวดล้อม  (CSR) ควบคู่กัน ภายใต้แนวคิด  “บ-ว-ร” หรือ การพัฒนา “บ้าน-วัด-โรงเรียน” ซึ่งถือเป็น 3 เสาหลักระดับชุมชนที่มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม โดยดำเนินการไปแล้วในหลายจังหวัด อาทิ นครราชสีมา ชลบุรี เชียงใหม่ เชียงราย และอยุธยา พร้อมส่งมอบบ้านหนังสือตาม โครงการ 60 ปี บ้านหนังสือ ธอส.ทั่วไทย และ โครงการศูนย์การเรียนรู้ ประตูสู่อาเซียน เพื่อหวังส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพให้เยาวชนได้มีโอกาสในการศึกษาเรียนรู้อย่างเท่าเทียมกัน และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการก้าวเข้าสู่ AEC รวมทั้งยังคงมุ่งมั่นให้ความช่วยเหลือสร้างซ่อมแซมบ้านให้แก่ผู้ด้อยโอกาสในทุกภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตด้านที่อยู่อาศัยให้แก่ผู้ด้อยโอกาส โดยตั้งแต่ปี 2553 สามารถช่วยเหลือสร้าง-ซ่อมแซมบ้านให้ประชาชนผู้ด้อยโอกาสทั่วประเทศ รวมกว่า 1,700 หลังคาเรือน