เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
ท่องเที่ยวเร่งแจงต่างชาติห่วงทรุด


 

 

การประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 20 พ.ค.2557 ธุรกิจที่จะได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คงหนีไม่พ้นธุรกิจท่องเที่ยว เพราะจะกระทบต่อการความเชื่อมั่นและความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่ง นายอนุภาพ ธีระรัฐ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) กล่าวว่า หลังจากมีการประกาศใช้กฎอัยการศึก ทาง ททท.ได้ติดตามสถานการณ์ของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดยังไม่กระทบกับการเดินทางของนักท่องเที่ยว แต่ต้องติดตามสถานการณ์หลังจากนี้อย่างใกล้ชิด

ขณะนี้ ททท. ได้ส่งหนังสือชี้แจงเหตุการณ์ไปยังสำนักงานของททท. 27 แห่งทั่วโลกถึงการประกาศกฎอัยการศึก เพื่อควบคุมสถานการณ์ในประเทศ และสถานการณ์ดังกล่าวจะไม่กระทบต่อนักท่องเที่ยว

 
 
 
ด้าน นายศุกรีย์ สิทธิวณิช รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ททท.ได้เปิดศูนย์ปฏิบัติการวางแผนการท่องเที่ยวและศูนย์ปฏิบัติการในภาวะวิกฤต (ศวก.) อีกครั้ง หลังจากมีการประกาศกฎอัยการศึก เพื่อทำหน้าที่ติดตามข่าวสารและแจ้งสถานการณ์ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติและผู้ประกอบการรับรู้

และยังไม่พบว่ามีการแจ้งเตือนนักท่องเที่ยวจากสถานทูตต่างๆ เพิ่มเติม โดยยังคงอยู่ที่ 50 ประเทศ อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ต้องรอติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดอีก 2-3วัน ถึงจะทราบความชัดเจนว่าจะมีประเทศใดยกระดับการแจ้งเตือนหรือไม่

 
 
 
ส่วน นางพรทิพย์ หิรัญเกตุ รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวว่า การออกประกาศกฎอัยการศึกครั้งนี้ ที่ประชุมสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ยอมรับว่า ต้องมีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวอย่างแน่นอน แต่เข้าใจถึงความจำเป็นของกองทัพที่ต้องเข้ามา เพื่อรักษาการบริหารบ้านเมืองให้อยู่ในภาวะปกติ เพราะเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยประชาชน

ซึ่งภายหลังมีข่าวเผยแพร่ออกไป เอเย่นต์ทัวร์ในต่างประเทศได้สอบถามเข้ามา เช่น ยุโรป ออสเตรเลีย แอฟริกาใต้ โดยเฉพาะกลุ่มประชุมสัมมนา ที่มีความเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย เพราะกลุ่มนี้มีค่าใช้จ่ายสูงต่อคนกว่า 1 หมื่นบาท จึงได้ชี้แจงกลับไปว่าเป็นประกาศที่ออกมาเพื่อความสงบเรียบร้อย อย่างไรก็ตาม สิ่งที่อยากฝากถึงกองทัพ คือ ขอให้นำความสงบสุขกลับมาสู่บ้านเมืองอย่างรวดเร็ว และขอให้พิจารณาอย่ามีประกาศเคอร์ฟิว เพราะเป็นสิ่งที่ต่างชาติสอบถามเข้ามามาก

ทั้งนี้ จากการชุมนุมที่ยาวนานถึง 6 เดือน ภาคท่องเที่ยวได้รับผลกระทบโดยตรง โดยไตรมาสแรก (มกราคม-มีนาคม) นักท่องเที่ยวลดลงถึง 5.85% หรือมีจำนวน 6.6 ล้านคน ไตรมาส 2 (เมษายน-มิถุนายน) เดือนเมษายน ดีขึ้นเล็กน้อย เพราะมีเทศกาลสงกรานต์และอีสเตอร์ของต่างชาติที่เข้ามา แต่พฤษภาคมเริ่มลดลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะโรงแรมในกรุงเทพฯ ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการชุมนุม แต่การประกาศกฏอัยการศึกครั้งนี้มีผลทั่วประเทศ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวตลาดหลัก คือ เอเชียสูงถึง 60% จึงคาดการณ์ว่าจะทำให้นักท่องเที่ยวไตรมาสนี้ลดลง 9.5% หรือมีจำนวน 5.4 ล้านคน และน่าจะฟื้นตัวในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี ซึ่งเป็นช่วงไฮด์ซีซั่น

 
 
 
สำหรับปฎิกริยาจากต่างชาติต่อสถานการณ์การเมืองในไทย กระทรวงต่างประเทศและการค้าของออสเตรเลีย (ดีเอฟเอที) ได้ออกแถลงการณ์เตือนพลเมืองออสเตรเลียที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย ให้ใช้ความระมัดระวังตัวในระดับสูงสุด เนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดสงครามกลางเมือง โดยให้เฝ้าติดตามสถานการณ์และข้อมูลข่าวสารจากสื่อมวลชนเพื่อความปลอดภัย รวมถึงเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่าง ๆ เช่น เลี่ยงการเข้าไปยังพื้นที่ที่มีการชุมนุมขนาดใหญ่

ด้านสถานทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทย ออกแถลงการณ์แนะนำให้พลเมืองชาวอเมริกันเตรียมความพร้อมและติดตามการรายงานข่าวอย่างใกล้ชิด รวมทั้งเตือนให้หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีการประท้วง การชุมนุมของคนจำนวนมาก หรือสถานที่ที่มีปฏิบัติการความมั่นคง และให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ไทยอย่างเคร่งครัด 

ขณะที่ นายโยชิฮิเดะ ซูเกะ เลขาคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ไทยอดทนอดกลั้น หลังกองทัพประกาศกฎอัยศึก เพื่อคืนความสงบเรียบร้อยหลังเผชิญกับเหตุการณ์ประท้วงมายาวนานถึง 6 เดือน โดยนายซูเกะ ระบุว่า ญี่ปุ่นขอเรียกร้องอย่างหนักแน่นให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอดทนอดกลั้น และยับยั้งจากการใช้ความรุนแรง รวมทั้งขอแสดงความหวังว่า สถานการณ์ที่แตกต่างอยู่ในขณะนี้จะสามารถแก้ไขได้ด้วยสันติ ผ่านกระบวนการประชาธิปไตยและการเจรจาอย่างจริงใจ
 
นอกจากนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นได้เฝ้าติดตามสถานการณ์ความมั่นคงของพลเรือนและบริษัทญี่ปุ่นในประเทศไทย รวมทั้งจะทำทุกอย่างอย่างสุดความสามารถเพื่อให้มั่นใจว่าพวกเขาเหล่านั้นจะปลอดภัยดี
 

LastUpdate 21/05/2557 10:10:33 โดย : Admin
20-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 20, 2024, 11:17 am