แบงก์-นอนแบงก์
ทริสฯจัดอันดับเครดิตตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน วงเงินไม่เกิน 1 หมื่นลบ."ธนาคารธนชาต" ที่ "A/Stable"


ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ตามเกณฑ์ Basel III ในวงเงินไม่เกิน 10,000 ล้านบาทของ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A” ในขณะเดียวกันยังคงอันดับเครดิตองค์กรของธนาคารที่ระดับ “AA-” พร้อมทั้งคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกันและหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ของธนาคารที่ระดับ “A+” และ “A” ตามลำดับด้วย โดยแนวโน้มยังคง “Stable” หรือ “คงที่” ทั้งนี้ อันดับเครดิตสะท้อนคณะผู้บริหารที่มีประสบการณ์ และสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งในธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อ อันดับเครดิตยังสะท้อนระบบบริหารความเสี่ยงที่ดีขึ้นและการสนับสนุนจาก Bank of Nova Scotia (BNS) ซึ่งเป็นพันธมิตรจากประเทศแคนาดาที่ถือหุ้น 49% ในธนาคารธนชาตผ่าน Scotia Netherlands Holdings B.V. อย่างไรก็ตาม อันดับเดรดิตถูกจำกัดโดยคุณภาพสินทรัพย์ที่อ่อนแอ สำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญที่เพิ่มขึ้นแต่ยังอยู่ในระดับที่ต่ำ รวมทั้งการชะลอตัวของเศรษฐกิจไทยและความไม่แน่นอนทางการเมืองในปัจจุบัน

          
อันดับเครดิต “A” ของหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนซึ่งนับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 (TBANK197A และ TBANK247A) สะท้อนความเสี่ยงในการด้อยสิทธิในการรับชำระหนี้และความเสี่ยงในการเลื่อนชำระดอกเบี้ย หุ้นกู้ดังกล่าวมีลักษณะด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน และสะสมผลตอบแทน ซึ่งจะครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2562 และ 2567 โดยธนาคารสามารถไถ่ถอนตราสารคืนก่อนครบกำหนดได้ภายหลังระยะเวลา 5 ปีนับจากวันที่ออกตราสารและได้รับอนุมัติจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ผู้ถือตราสารประเภทนี้จะมีสิทธิด้อยกว่าผู้ฝากเงิน รวมทั้งผู้ถือหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีประกัน และผู้ถือหุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกัน ของธนาคาร ทั้งนี้ ธนาคารมีสิทธิเลื่อนชำระดอกเบี้ยหากธนาคารมีผลขาดทุนในงวด 6 เดือนก่อนวันกำหนดชำระดอกเบี้ย และไม่มีการจ่ายเงินปันผลในระยะเวลา 6 เดือนก่อนวันกำหนดชำระดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม จำนวนดอกเบี้ยที่จะจ่ายคืนนั้นเป็นดอกเบี้ยสะสมที่ยังมิได้ชำระ
          
อันดับเครดิต “A” สำหรับตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุนชุดใหม่ที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 สะท้อนความเสี่ยงในการด้อยสิทธิและความเสี่ยงในการไม่ชำระหนี้ตามเงื่อนไขการรองรับผลขาดทุนเมื่อธนาคารมีผลการดำเนินงานที่ไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ ตราสารประเภทนี้มีคุณสมบัติสอดคล้องกับหลักเกณฑ์ Basel III และเป็นไปตามเกณฑ์ของ ธปท. เพื่อนับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ซึ่งจะสามารถนับได้ต่อเมื่อได้รับอนุมัติจาก ธปท. แล้ว ตราสารดังกล่าวมีลักษณะด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ไม่สามารถเลื่อนชำระดอกเบี้ยได้ และสามารถแปลงสภาพได้ ธนาคารสามารถไถ่ถอนตราสารคืนทั้งจำนวนก่อนวันครบกำหนด ภายหลังระยะเวลา 5 ปีนับจากวันที่ออกตราสารและได้รับความเห็นชอบจาก ธปท. ผู้ถือตราสารประเภทนี้มีสิทธิด้อยกว่าผู้ฝากเงินและผู้ถือหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน ทั้งนี้ ตราสารดังกล่าวจะถูกแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญในกรณีที่หน่วยงานกำกับดูแลเห็นว่าธนาคารมีผลการดำเนินงานที่ไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขที่ระบุไว้
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนบทบาทของการเป็นธนาคารหลักในกลุ่มธนชาต โดยคาดว่าธนาคารจะได้ประโยชน์จากการผสานกำลังในกลุ่มเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับสถานะทางการตลาดด้านสินเชื่อ รวมทั้งเพื่อขยายฐานเงินรับฝาก แนวโน้มอันดับเครดิตยังสะท้อนการคาดการณ์ว่าธนาคารจะสามารถควบคุมคุณภาพสินเชื่อมิให้เสื่อมถอยลงไป อีกทั้งสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับฐานเงินทุนรวมทั้งเพิ่มปริมาณสำรองหนี้สงสัยจะสูญให้มากยิ่งขึ้นได้
          
ธนาคารธนชาตเป็นบริษัทลูกที่มีความสำคัญของ บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) ซึ่งถือหุ้นธนาคารในสัดส่วน 50.96% ธนาคารมีสินทรัพย์รวมใหญ่เป็นอันดับ 6 โดย ณ เดือนมีนาคม 2557 ธนาคารมีส่วนแบ่งทางการตลาดของสินเชื่อที่ 7.8% และเงินรับฝากที่ 6.5% ธนาคารเป็นผู้ให้บริการสินเชื่อรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาด ณ เดือนธันวาคม 2556 ประมาณ 24% ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2557 ธนาคารมีสินเชื่อเช่าซื้อทั้งสิ้น 436.8 พันล้านบาท คิดเป็น 55% ของสินเชื่อรวม พอร์ตสินเชื่อของธนาคารมีการกระจายตัวในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ดีขึ้น ภายหลังการซื้อกิจการธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) เมื่อปี 2553 ทั้งนี้ ณ เดือนมีนาคม 2557 สินเชื่อของธนาคารประกอบด้วยสินเชื่อรายย่อย (69% ของสินเชื่อรวม) สินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ (19%) สินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (10%) และสินเชื่ออื่น (2%)
          
ธนาคารมีความเสี่ยงด้านเครดิตอย่างมากเนื่องจากการขยายตัวของสินเชื่ออย่างรวดเร็วในปี 2555 นอกจากนี้ ธนาคารยังมุ่งเน้นสินเชื่อรายย่อยและสินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่ให้ผลตอบแทนสูงเพื่อเพิ่มส่วนต่างดอกเบี้ยให้สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม จากการชะลอตัวของเศรษฐกิจปัจจุบัน ธนาคารมีการอนุมัติสินเชื่อใหม่ด้วยความระมัดระวังยิ่งขึ้น โดยสินเชื่อขยายตัวเพียง 5% ในปี 2556 เทียบกับ 19% ในปี 2555 ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2557 ธนาคารมีสินเชื่อรวมดอกเบี้ยค้างรับทั้งสิ้น 790.1 พันล้านบาท ลดลง 0.1% จากเดือนธันวาคม 2556
          
สถานะทางเครดิตของธนาคารถูกลดทอนโดยสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (ได้แก่ สินเชื่อค้างชำระเกินกว่า 3 เดือน สินเชื่อที่ปรับโครงสร้างหนี้ และสินทรัพย์รอการขาย) ที่มีในระดับสูง ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นสินเชื่อที่รับโอนมาจากธนาคารนครหลวงไทย คุณภาพสินเชื่อในปัจจุบันเริ่มเสื่อมถอยลงจากภาวะเศรษฐกิจที่แย่ลง โดยสินเชื่อด้อยคุณภาพเพิ่มขึ้นจาก 32.5 พันล้านบาทในปี 2555 เป็น 35.3 พันล้านบาทในปี 2556 และ 36.1 พันล้านบาทในเดือนมีนาคม 2557 อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวมเท่ากับ 4.57% ณ เดือนมีนาคม 2557 เทียบกับ 4.30% ในปี 2555 ธนาคารมีสำรองหนี้สงสัยจะสูญที่เพียงพอแต่ยังอยู่ในระดับต่ำ โดย ณ เดือนมีนาคม 2557 ปริมาณสำรองหนี้สงสัยจะสูญของธนาคารคิดเป็น 85% ของสินเชื่อด้อยคุณภาพ ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม ทั้งนี้ ในภาวะเศรษฐกิจไทยที่ยังคงอ่อนแอ ธนาคารยังคงเผชิญความท้าทายต่อเนื่อง 2 ประการ อันได้แก่ การควบคุมคุณภาพสินทรัพย์และการมีปริมาณสำรองหนี้สงสัยจะสูญให้มากยิ่งขึ้น
          
ความสามารถในการทำกำไรของธนาคารอยู่ในระดับที่อ่อนแอกว่าธนาคารในกลุ่มเดียวกัน ในปี 2556 ธนาคารมีกำไรสุทธิ 15.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 82% โดยส่วนใหญ่เป็นผลจากการบันทึกกำไรจากการขายธุรกิจประกันชีวิต ผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมถัวเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 1.52% ในปี 2556 แต่ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม สำหรับไตรมาสแรกของปี 2557 ธนาคารมีกำไรสุทธิ 2.6 พันล้านบาท ลดลง 13% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมถัวเฉลี่ย (ยังไม่ได้ปรับให้เป็นตัวเลขเต็มปี) ที่ 0.26% เทียบกับ 0.30% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน
          
ธนาคารมีเงินกองทุนที่เพียงพอต่อการขยายธุรกิจในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า ณ เดือนมีนาคม 2557 ธนาคารมีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 และอัตราส่วนเงินกองทุนรวมที่ 9.25% และ 14.00% ตามลำดับ ซึ่งแม้ว่าอัตราส่วนของธนาคารจะสูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำของ ธปท. ที่ 6.00% และ 8.50% แต่ยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม

ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) (TBANK)
อันดับเครดิตองค์กร: AA-
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
TBANK155A: หุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกัน 5,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 A+
TBANK194A: หุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562 A+
TBANK196A: หุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกัน 10,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562 A+
TBANK204A: หุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกัน 6,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2563 A+
TBANK227A: หุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกัน 8,497 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565 A+
TBANK22OA: หุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีประกัน 4,018.5 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565 A+
TBANK197A: หุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 3,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562 A
TBANK247A: หุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 A
ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ตามเกณฑ์ Basel III ในวงเงินไม่เกิน 10,000 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2567 A
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 29 พ.ค. 2557 เวลา : 21:49:15
26-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 26, 2024, 4:40 pm