โดยนายธนา ได้พูดถึงกิจกรรมดังกล่าวว่า “โอสถสภา มีนโยบายในการดำเนินกิจการทางธุรกิจควบคู่ไปกับการตอบแทนสังคม ภายใต้แนวคิด ต้องการเห็นคนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดี..ยิ่งกว่า  มาเป็นระยะเวลา 123 ปีแล้ว และในปีนี้ บริษัทได้จัดกิจกรรมแบ่งฝัน ปันสุข หรือ Big give Day ครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมเพื่อสังคมของบริษัท  โดยมีนโยบายปลูกจิตสำนึกในการช่วยเหลือสังคมให้แก่บุคคลากรของเราด้วยการเปิดโอกาสให้ ผู้บริหารและพนักงานร่วมลงพื้นที่ไปกับโครงการดังกล่าว โดยก่อนหน้านี้เราได้ไปมาแล้ว 2 จังหวัด  คือ  สระบุรี และ ฉะเชิงเทรา และในครั้งนี้เรามากันที่ จ.ลพบุรี ตระเวนเยี่ยมชมผลงานของ 3 โรงเรียนซึ่งอยู่ในโครงการฯ ได้แก่  

โรงเรียนวัดโพธิ์เก้าต้น โรงเรียนนี้เราร่วมกับทางโรงเรียนสืบสานวัฒนะธรรมด้วยการมอบทุนสนับสนุนโครงการพัฒนาชุดการแสดงโขนสด ลิเกเด็ก และจัดตั้งกองทุนเพื่อจัดหาเครื่องแต่งกายสำหรับการแสดง พร้อมทั้งสนับสนุนการทำแปลงเกษตรอินทรีย์เพื่อใช้เป็นอาหารกลางวันและเป็นแหล่งเรียนรู้ของนักเรียนต่อไป  

ส่วนโรงเรียนบ้านสามเรือน เราร่วมสร้างความยั่งยืนทางการศึกษา โดยการบูรณาการซ่อมแทรมอาคารเรียนและโรงอาหารให้มีความสวยงาม ปลอดภัยมากขึ้น รวมทั้งมอบอุปกรณ์กีฬา เพื่อสร้างเสริมสุขภาพที่ดีให้แก่นักเรียน และ โรงเรียนสุดท้ายที่เราไปเยี่ยมในครั้งนี้คือ 

โรงเรียนวัดสระมะเกลือ โรงเรียนนี้เราร่วมสานต่อโครงการเกษตรพอเพียง โดยการปรับปรุงโรงเพาะเห็ดให้มีมาตรฐาน จัดสร้างโรงเรียนเลี้ยงไก่ไข่ แปลงผักสวนครัว ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ทางการเกษตร 

ซึ่งเรายังได้รับความร่วมมือจากเครือข่ายคนทำดี จ.ลพบุรี  พิธีกรจากรายการ ตกมันบันเทิง ทาง 9 เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ และศิลปินค่าย ชัวร์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ ได้แก่ คุณมนต์สิทธิ์ คำสร้อย  คุณอั้ม นันทิยา  และนักเตะจากทีมโอสถสภา เอ็ม 150 สระบุรี คาตาโนะ ฮิโรมิชิ ร่วมเดินทางไปทำกิจกรรมกับเราด้วย  

นายธนา ได้ฝากในช่วงท้ายว่า “ โอสถสภายังมีนโยบายคืนกำไรให้สังคมต่อไปในอนาคตเราจะคืนกำไรแบบยั่งยืน คือช่วยเหลือในรูปแบบของการต่อยอด  บริหารจัดการเรื่องการวางระบบให้เป็นมาตรฐาน  ให้เขาสามารถช่วยตนเองต่อไปได้ในอนาคต  นอกจากเยาวชนแล้วเรายังมีนโยบายคืนกำไรในด้านอื่นๆอีก  อาทิ  สาธารณสุข  ช่วยคนยากไร้  ฝึกฝนอาชีพ เป็นต้น ซึ่งการทำซีเอสอาร์ของเราในครั้งนี้เป็นไปตามเป้าที่เราวางไว้ เพราะเรามีการติดตามประเมินผลเป็นระยะด้วย “ นายธนา กล่าว