เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
"รัฐ-เอกชน" รับมือพม่าหยุดจ่ายก๊าซ


 
 
 
การปิดซ่อมระบบท่อก๊าซธรรมชาติแหล่งพัฒนาพื้นที่ร่วมไทย-มาเลเซีย JDA ระหว่าง 13 มิ.ย.-10 ก.ค.2557 ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการผลิตไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าจะนะ จังหวัดสงขลา เพราะใช้ก๊าซธรรมชาติจากแหล่งดังกล่าวเป็นเชื้อเพลิง ทำให้ไฟฟ้าหายไปจากระบบ 700 เมกะวัตต์ ซึ่งได้สร้างการตื่นตัวให้กับทั้งภาครัฐและเอกชนที่ต้องรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้น 
 
 
 
 
ด้านการรับมือของหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง นายสุเทพ เหลี่ยมศิริเจริญ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า กระทรวงได้รณรงค์เพื่อให้ทุกภาคส่วนทั้งภาคอุตสาหกรรม และประชาชนทั่วไป ในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ ร่วมลดการใช้ไฟฟ้า ในช่วงการปิดซ่อมดังกล่าวประมาณ 28 วัน เพื่อความมั่นคงของระบบและป้องกันการเกิดไฟดับ
 
 
 
 
ขณะที่ นายสุชาลี สุมามาลย์ รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน หรือ สนพ. กล่าวว่า จะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน รายงานผลปฏิบัติงานขอความร่วมมือลดการใช้ไฟฟ้า 150-200 เมกะวัตต์ เพื่อลดความเสี่ยงจากปัญหาไฟดับ เพราะกำลังการผลิตไฟฟ้าในภาคใต้ รวมกับไฟฟ้าจากภาคกลางที่ส่งลงไปจะอยู่ที่ 2,300 เมกะวัตต์ ขณะที่การใช้ไฟฟ้าสูงสุด หรือ พีค คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 2,450 เมกะวัตต์ในช่วงค่ำ 18.30 น.–22.30 น. จึงขอความร่วมมือประชาชนลดใช้ไฟฟ้าตาม "แผนปฏิบัติการ 3 หนึ่ง" คือ การปิดไฟ 1 ดวง ปรับเพิ่มอุณหภูมิเพิ่มขึ้น 1 องศา และปิดแอร์ 1 เครื่อง

 
 
 
ส่วนภาคเอกชน ประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา นายสมพร สิริโปราณานนท์ กล่าวว่า หลังจากมีการปิดซ่อมท่อก๊าซในพื้นที่อ่าวไทยประมาณ 1 เดือน ทำให้ผู้ประกอบการตื่นตัว เพราะไม่อยากมีเหตุการณ์ไฟฟ้าดับ 3 วันติดต่อกันเหมือนปีที่ผ่านมา ซึ่งสิ่งที่เป็นกังวลมากที่สุดในขณะนี้ คือ ปัญหาเรื่องของก๊าซเอ็นจีวี เนื่องจากโรงไฟฟ้าจะนะ  อาจไม่มีก๊าซเอ็นจีวีในการผลิตไฟฟ้า ทำให้ต้องขนส่งมาจากทางภาคกลาง ซึ่งต้องใช้รถบรรทุกในการขนส่ง และมีการจำกัดความเร็วในการขนส่ง เชื่อว่าเรื่องของไฟฟ้าต้องประสบปัญหาอย่างแน่นอน
 
 
 
 
นายวิถี สุพิทักษ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมภาคใต้ กล่าวว่า ได้กำชับกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆในภาคใต้ ให้ช่วยลดการใช้ไฟฟ้าในช่วงที่ใช้ไฟฟ้าสูงที่สุด แต่ภาคอุตสาหกรรมคงไม่สามารถช่วยได้มากนัก เพราะช่วงดังกล่าวโรงงานอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ปิดโรงงานแล้ว มีเพียงโรงงานที่ทำงานเป็นกะที่อาจจะลดการใช้ไฟฟ้าลงได้บ้าง

นอกจากนี้ ยังมีบางอุตสาหกรรมที่ไม่สามารถหยุดเครื่องจักรได้ และหากไฟฟ้าดับก็จะได้รับความเสี่ยหาย เช่น โรงอบไม้ ถ้าหากไฟฟ้าดับไม้ที่อยู่กระบวนการอบก็จะได้รับความเสียหาย รวมทั้งยังมีอุตสาหกรรมห้องเย็นที่จำเป็นต้องเปิดเครื่องห้องเย็นทำงานตลอดเวลา และโรงงานยางบางส่วนที่ต้องเปิดเครื่องจักรกวนน้ำยางตลอดเวลา

 
 
 
นายวัฒนา ธนาศักดิ์เจริญ ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคใต้ หอการค้าไทย กล่าวว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ในภาคใต้ยังไม่ได้รับรู้ข้อมูลการหยุดจ่ายก๊าซจากแหล่งเจดีเอ ที่จะกระทบต่อการผลิตไฟฟ้าในภาคใต้มากนัก ทำให้ในช่วงซ้อมลดการใช้ไฟฟ้าในวันที่ 7 มิถุนายนที่ผ่านมา ไม่ได้รับความร่วมมือจากประชาชนมากนัก ลดการใช้ไฟฟ้าได้ไม่ถึง 100 เมกะวัตต์ จากเป้าหมายที่ต้องลดให้ได้ไม่ต่ำกว่า 250 เมกะวัตต์ ดังนั้น กระทรวงพลังงานควรลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์ให้เข้าถึงชุมชนต่างๆให้มากขึ้น
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 13 มิ.ย. 2557 เวลา : 11:32:43
18-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 18, 2024, 11:53 pm