หุ้นทอง
"ตลาดทุน" พร้อมหนุน "ธุรกิจเอสเอ็มอี" ระดมทุน


ตลาดทุนพร้อมดันธุรกิจเอสเอ็มอีระดมทุน ผ่านหุ้นไอพีโอ หุ้นกู้ และตั๋วเงิน ด้าน"ตลาดเอ็มเอไอ"วางแผน 5 ปี หุ้นไอพีโอ 100 บริษัท  


 
 
 
นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ mai เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ mai ยังคงเป้าหมายผลักดันบริษัทฯเข้าจดทะเบียนเพิ่มอีก 100 บริษัทฯ ภายใน 5 ปี (2557-2561) จากในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา มีบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาด mai รวมทั้งสิ้น 115 บริษัท แต่ปัจจุบันมีบริษัทในตลาด mai อยู่ 97 บริษัท ส่วนหนึ่งมีการเติบโต และขยับไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET )

สำหรับปีนี้ตลาดหลักทรัพย์ mai ยังคงเป้าหมายเพิ่มบริษัทจดทะเบียนอีก 16 บริษัทในปีนี้ ซึ่งครึ่งปีแรกเข้าเทรดไปแล้ว 3 บริษัท ขณะที่คาดว่าอีก 13 บริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนในครึ่งปีหลัง ทำให้เพิ่มขนาดมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดหรือ มาร์เก็ตแคปรวมเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 7,000 ล้านบาท หรือ เฉลี่ยราว 500 ล้านบาทต่อบริษัท 

"ช่วง 15 ปีที่ผ่านมาเราสามารถเพิ่มจำนวนบริษัทที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai แล้ว 115 บริษัท มูลค่าการระดมทุนรวมสูงถึง 57,515 ล้านบาท แบ่งเป็นการระดมทุนใหม่ หรือไอพีโอ  21,442 ล้านบาท และระดมทุนหลังจากจดทะเบียน 21,284 ล้านบาท ซึ่งระหว่างทางก็มีหลายบริษัทย้ายเข้าไปอยู่ใน SET โดยตอนนี้เหลืออยู่ทั้งสิ้น 97 บริษัท ซึ่งเราก็ยังคงแผนเดิมที่จะเพิ่มอีก 100 บริษัทใน 5 ปี" นายประพันธ์ กล่าว
 
นอกจากนี้จะมีการเร่งจัดหมวดหมู่ประเภทหลักทรัพย์ตามอุตสาหกรรมของบริษัทใน mai โดยจะแยกเป็น 8 กลุ่ม ลักษณะคล้ายกับ SET ซึ่งจะผลักดันเร่งประกาศใช้ ม.ค.2558 พร้อมทั้งจะผลักดันคุณภาพบจ.ให้มีการกำกับดูแลกิจการที่ดี มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง

 
 
เช่นเดียวกับทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) โดยนายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ ก.ล.ต.กล่าวว่า ปัจจุบันธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก หรือ เอสเอ็มอี ถือเป็นเส้นเลือดสำคัญที่หล่อเลี้ยงเศรษฐกิจของประเทศ นั้นมีอยู่ประมาณ 3 ล้านราย  ดังนั้นการสร้างทางเลือกในตลาดทุนให้ธุรกิจเอสเอ็มอีมีโอกาสเติบโตถือเป็นภารกิจหนึ่งของ ก.ล.ต.  

โดยเฉพาะการสนับสนุนให้ธุรกิจเอสเอ็มอีระดมทุนผ่านการออกหุ้นกู้รวมถึงตั๋วเงินจะเป็นการเพิ่มโอกาสและช่องทางในการขยายธุรกิจของเอสเอ็มอีได้ พร้อมกับยังสนับสนุนให้บริษัทที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับการอบรมความรู้เกี่ยวกับตลาดทุนและการระดมทุนด้วย เพื่อขอเข้ารับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากสถาบันจัดอันดับน่าเชื่อถือด้วยค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่าปกติ ซึ่งผลการจัดอันดับที่ได้ นอกจากจะเป็นเครื่องมือในการปรับปรุงบริษัทต่อไปแล้ว ยังจะช่วยให้เอสเอ็มอีมีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ บริษัทที่เข้าร่วมโครงการจะต้องเป็น (1) บริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัดที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย แต่ไม่รวมถึงสถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจทางการเงิน และ (2) มีสินทรัพย์ตามงบการเงินปีล่าสุดไม่เกิน 2,000 ล้านบาท ณ วันที่สมัครเข้าร่วมโครงการ โดยสมัครได้ตั้งแต่บัดนี้ถึง 28 ธันวาคม 2555 สำหรับบริษัทที่เข้าร่วมโครงการและยื่นขออนุญาตเสนอขายหุ้นกู้หรือตั๋วเงินตามหลักเกณฑ์ภายในวันทำการสุดท้ายของเดือนธันวาคม 2556  จะได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมในส่วนของ ก.ล.ต. และสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทยข้างต้น

ส่วนเกณฑ์การจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ จะต้องมีทุนจดทะเบียนขั้นต่ำ 20 ล้านบาท มีผลการดำเนินงานต่อเนื่องมากกว่า 2 ปี โดยอยู่ภายใต้ผู้บริหารชุดเดียวกันมากกว่า 1 ปี ส่วนกำไรสุทธินั้นจะต้องมีกำไรสะสมของปีที่ยื่นเสนอแบบแสดงรายงาน หรือ ไฟลิ่ง ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ส่วนการเข้าไปใช้เกณฑ์มาร์เก็ตแคป จะต้องมีมาร์เก็ตแคปไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท แม้ยังไม่มีกำไรสะสมในปีที่ยื่นไฟลิ่ง เป็นต้น
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 20 มิ.ย. 2557 เวลา : 11:28:57
20-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 20, 2024, 4:42 am