"พีทูบี พร็อพเพอร์ตี้" เดินหน้าลงทุนคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯครั้งแรก เจาะกลุ่มนักศึกษา ราคา 1.36 ล้านขึ้นไป หลังโครงการแนวราบในภาคใต้ ยอดขายร่วงกว่า 30% จากความวุ่นวายทางการเมือง - ราคายางตกต่ำ
นายกฤต นามเกิด กรรมการบริหาร บริษัท พีทูบี พร็อพเพอร์ตี้ 2009 จำกัด ในเครือ อาภาศิริ เปิดเผยว่า บริษัทหันมารุกตลาดที่อยู่อาศัยแนวสูงในกรุงเทพฯ เป็นครั้งแรก หลังจากที่ผ่านมาได้ทำตลาดแนวราบในต่างจังหวัดทางภาคใต้เป็นหลัก แต่ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา ยอดขายลดลงไปกว่า 30% ทั้งจากสถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมา และราคายางตกต่ำ ทำให้กำลังซื้อหลักหายไปอย่างมาก
ประกอบกับเห็นว่า มีที่ดินในกทม.บริเวณบางนา ในย่านใกล้แหล่งการศึกษา และเห็นว่าตลาดการซื้อเพื่อปล่อยเช่าระยะยาวนั้น น่าจะเติบโตได้สูง โดยเฉพาะในย่านชานเมือง จึงได้ก่อสร้างคอนโดมิเนียม ที่จะทำทั้งขายขาด และรับบริหารการซื้อเพื่อปล่อยเช่า เนื่องจากให้ผลตอบแทนที่ดี อีกทั้งอัตราค่าเช่าก็สูงด้วย
ล่าสุด บริษัทได้เปิดตัวคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ สูง 5 ชั้น คือ โครงการ เวียร์ เซเว่น บาย อาภาสิริ จำนวน 7 อาคาร รวม 277 ยูนิต บนถนนบางนา-ตราด กม.26 ใจกลางย่านเศรษฐกิจใหม่ของเอแบคบางนา ราคาเริ่มต้นยูนิตละ 1.36 ล้านบาท มูลค่า 500 ล้านบาท เจาะกลุ่มนักศึกษา คนรุ่นใหม่ พร้อมทั้งรับบริหารการซื้อเพื่อปล่อยเช่าระยะยาวด้วย โดยรับประกันผลตอบแทนปีละ 7% ซึ่งหลังจากที่ได้เปิดให้จองซื้อเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ปรากฎว่า มียอดจองแล้ว 20% ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างปลายปีนี้และแล้วเสร็จกลางปี 2559
โดยในแต่ละอาคารยังถูกออกแบบให้แต่ละชั้นมีไม่เกิน 10 ยูนิต เพื่อความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย และพื้นที่ส่วนกลางที่มากกว่า ทั้งผ่อนคลายกับสวนขนาดใหญ่ พร้อมลำธาร น้ำตก และพื้นที่นั่งเล่นที่แทรกอยู่ในทุกจุด พร้อมส่วนรับรองหรือนั่งเล่นในแกรนด์ ล็อบบี้ (Grand Lobby) ที่ถูกออกแบบให้เสมือน Art Gallery ขนาดใหญ่สำหรับรับรองลูกค้าและแขกที่มาเยือน พร้อมห้องสมุดสุดหรูวิวสวน หรือห้องประชุมส่วนตัว สำหรับการประชุมงานได้อย่างสะดวกสบาย
นอกจากนี้ ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นห้องฟิตเนสด้วยอุปกรณ์ระดับมาตรฐาน สระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือ ที่แบ่งเป็นโซนว่าย โซนแช่ และมีที่นั่งกลางสระน้ำ เพื่อให้เลือกผ่อนคลาย พร้อมเพิ่มความมั่นใจในความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ด้วยกล้องวงจรปิด (CCTV) บริเวณ Lobby ห้องสมุด ลิฟต์ โถงทางเดินทุกชั้น และเพิ่มระบบรักษาความปลอดภัยด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยด้วยคีย์การ์ด (Key Card Access) ทุกห้อง และย้ำความมั่นใจกับ รปภ.ที่ดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชม.
“เราเป็นบริษัทขนาดเล็ก ทำให้บริหารต้นทุนต่าง ๆ ได้ง่าย จึงสามารถขายราคาไม่แพง โดยในย่านบางนา บริษัทขนาดใหญ่ขายกันที่ตารางเมตรละ 60,000-70,000 บาท เป็นห้องเปล่า ขณะที่บริษัทขายในราคาตารางเมตรละ 50,000 บาท มีเฟอร์นิเจอร์ครบ และคาดว่าจะนำไปปล่อยเช่าเดือนละ 7,000-8,000 บาท และแม้ว่าในย่านดังกล่าว จะมีคอนโดมิเนียมกว่า 1,500 ยูนิต จาก 6 โครงการใหญ่ ช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา ขายได้แล้วกว่า 500 ยูนิต แต่ยังมั่นใจว่า โครงการของบริษัทจะขายได้หมดตามเป้าหมาย”นายกฤต กล่าว
อย่างไรก็ดี บริษัทได้ปรับลดเป้าหมายยอดขายทั้งปีที่วางไว้ 1,000 บาท ลงไป 20% เนื่องจากในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายเพียง 200-300 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ถึง 30% โดยช่วงครึ่งปีหลังนี้จะเน้นการจัดกิจกรรมส่งเสิรมการขาย และเดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่ ๆ อีก 7 โครงการตามแผนที่วางไว้ จากทั้งหมด 11 โครงการ ซึ่งได้เปิดไปแล้ว 4 โครงการในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา
ข่าวเด่น